ประชุมการสร้างราชการใสสะอาด


        ขณะนี้ประชุมอยู่ที่สำนักบริหารงานกศน. ห้องประชุม ๑ ชั้น ๖ จึงสรุปสาระที่ได้จากการประชุมมาพร้อมนี้ ดูที่ Mindmap

ยุทธศาสตร์การสร้างราชการไทยใสสะอาด: แนวทางป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ <p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic1">1 การศึกษาเอกสารจากการร้องเรียนอย่างเป็นระบบ     1.1 ปี ๔๗-๔๙ ปี ๔๙ เหตุเกิดสูงสด</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">1.2 ส่วนใหญ่เป็นชาย คิดเป็น ๕๓.๙ %</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">1.3 อายุ ๕๑-๕๕ ปี สูงสุด ๔๒.๘๖ %</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">1.4 ภาคกลางสูงสุด</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic1">2 สาเหตุเกี่ยวกับ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.1 องค์กรและระบบริหาร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.1.1 ระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจไม่ดีเพราะมีข้าราชการน้อย</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.1.2 สถานศึกษาเท่ากันยากในการกำกับดูแลในเรื่องที่เสี่ยงต่อการทุจริต</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.1.3 มีแบบที่เคยทำกันมาผิดจนเป็นเรื่องปกติ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.1.4 ระเบียบปฏิบัติไม่ทันสมัยและไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.2 ผู้บริหาร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.2.1 ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.2.2 ได้ตำแหน่งสูงสุดของชีวิตทำงานซังกะตายไม่ริเริ่มสร้างสรรค์</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.2.3 ขาดวุฒิภาวะ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.3 บุคลากร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.3.1 รายได้น้อย</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.3.2 ไม่มีวินัยทางการเงิน</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.3.3 ปฏิบัติงานมานานไม่มีการสับเปลี่ยนและสนิทสนมกับผู้อำนวยผลประโยชน์ทุจริตเป็นทีม</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.4 จิตสำนึกของบุคลากร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.4.1 ความโลภ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.4.2 ขาดการปลูกฝังความซื่อสัตย์สุจริตในวัยเด็ก</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.4.3 มุ่งประโยชน์ส่วนตนมากเกินไป</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.5 การพัฒนาบุคลากร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.5.1 ขาดการพัฒนา</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.6 การดำเนินการทางวินัย</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.6.1 ละเลย ละเว้น เลือกปฏิบัติ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.6.2 ทำผิดแล้วถูกช่วยเหลือในทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเยี่ยงอย่าง</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">2.7 สังคมและสิ่งแวดล้อม</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.7.1 สิ่งแวดล้อมเอืือ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.7.2 ภาษีสังคม</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic3">2.7.3 การเรี่ยไร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic1">3 แนวทางแก้ไข</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">3.1 แก้กันไปตามสาเหตุซึ่งเป็นระบบใหญ่พอสมควร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic1">4 ยุทธศาสตร์</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">4.1 การบริหารจัดการราชาการใสสะอาด</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">4.2 สร้างจิตสำนึกราชการใสสะอาดแก่บุคลากร</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">4.3 ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ</p><p style="margin: 12pt 0cm 3pt; text-indent: 0cm" class="MMTopic2">4.4 พัฒนาระบบการดำเนินการทางวินัยให้มีประสิทธิภาพ</p>  <p></p>

หมายเลขบันทึก: 106151เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2007 12:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 23:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
      เมื่อสังคมอยู่ในช่วงของความเหลื่อมล้ำมาเนินนาน  อิสระและเสรีภาพของประชาชนถูกบดบังการทุจริตคอรัปชั่นคืออาหารหลักของผู้ขายชาติข้าราชการใสสอาดคือแสงทองแห่งความหวังถ้าหากเกิดขึ้นจริง ๆ     
นางสาววราภรณ์ ทรัพย์ศฤงศิริ

     ข้าราชการจะใสสะอาดอาดได้   ทุกคนต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดีงาม 

     เนื่องจากปัจจุบันสังคมมีแต่การเอารัดเอาเปรียบ และเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น  ประเทศชาติถึงมีปัญหา

     ถ้าเราอยากให้ประเทศชาติมีความสงบสุข  จงสร้างนิสัยให้ตนเองปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรมอยู่ในตัวเองให้ได้  เพื่อประเทศชาติของเราจะได้มีความเจริญก้าวหน้า  และไม่วุ่นวายเหมือนทุกวันนี้

อยู่ที่จิตสำนึกอันดีงามภายในตัวของแต่ละคน  ความดีทำแล้วมองไม่เห็นแต่สบายใจ
ห้องสมุดประชาชน จ.ฉะเชิงเทรา
เห็นด้วยกับผู้ก่อการดีค่ะ
ข้าราชการจะใสสะอาดได้อย่างไร  หากยังมีการแก่งแย่งชิงดีอยู่ในสังคม  หากคนเรารู้จักพอ  น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  มาเป็นวิถีการดำเนินชีวิต  เป็นคติเตือนใจ  อย่างน้อยย่อมช่วยให้ความโลภลดลง  การแก่งแย่งชิงดีลดลง  หันมามองศิลธรรม  คนรักกันด้วยความจริงใจมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ  หรือประชาชนคนธรรมดา  ย่อมไม่มีใครคิดจะทุจริต  เพราะที่ทำไปเป็นสิ่งผิดศิลธรรม แน่นอน..ไม่มีใครอยากทำ  แต่เมื่อเรารู้จักพอเพียงจะทำให้คนคิดว่าไม่รู้จะทำไปทำไม...เมื่อเราไม่ได้เดือดร้อน  ดังนั้นขอส่งเสริมหลักการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงให้ซึมซับเข้าสู่จิตใจของประชาชนคนไทยทุกคน  แต่คงจะไม่มองข้ามเทคโนโลยี  อินเตอร์เน็ตจะช่วยกระจายความดี  สร้างสรรสังคมงาม  เพื่อคนไทย  เพื่อพ่อหลวงของชาวไทยนะคะ
นายเสน่ห์ อุ่นนาวงษ์ ศบอพนมสารคาม
          คำสอนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ยังใช้ได้เสมอ ดำดี  ได้ดี  ทำดีแล้วไม่ได้ดี  ก็แสดงว่าเป็นกรรมเก่าแต่ชาติปางก่อน แต่ในถานะที่เกิดเป็นคน  ควรคิดดี  ทำดี   ก็จะได้ดี  ครับ
อยู่ที่จิตสำนึกอันดีงามภายในตัวของแต่ละคนเกิดเป็นคน ควรคิดดี ทำดี ก็จะได้ดี จะทำให้ข้าราชการจะใสสะอาดได้อย่างไร หากยังมีการแก่งแย่งชิงดีอยู่ในสังคม มีแต่การเอารัดเอาเปรียบ และเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น ถ้าทำความดีแล้วไม่มีใครมองเห็นก็ไม่กลุ้มใจเป็นการปิดทองหลังพระไปก็แล้ว คำสอนพระ ๓๑.หอมไม่รู้หาย ดอกไม้ ซึ่งเกิดติดกับกิ่งก้านลำต้น แม้จะปลูกในกระถางต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถ้าสวยและกลิ่นหอม คนก็ไม่รังเกียจ นำมาประดับประดา ในเจกัน หรือแม้กระทั่งแซมประดับศีรษะ ข้อนี้ฉันใด คนที่มีวิชาความรู้ แม้จะมีฐานะยากจนต่ำต้อยก็ไม่สำคัญ กลับได้รับนิยมยกย่อง วิชาความรู้จึงทำให้คนมีราคาสูงเด่น จนบดบังข้อด้อยอื่นๆได้หมดสิ้น แต่ดอกไม้จะมีราคาก็ต่อเมื่อยังสดอยู่ ดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งย่อมหมดราคา ฉันใด คนที่มีวิชาความรู้แล้วทะนงตัว ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ย่อมไม่ต่างจากดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา ไม่มีใครต้องการ คอยแต่จะทิ้งลงถังขยะ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมนุเส ผู้ถึงพร้อมในความรู้ และความประพฤติ ย่อมประเสริฐสุดในหมู่เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ๓๒.ราชสีห์ไม่กินหญ้า ธรรมดาราชสีห์ แม้จะหิว ก็ไม่ยอมกินซากสัตว์ที่ตายแล้ว หรือเหลือเดนจากสัตว์อื่น มันยอมอดกินดีกว่ากินของที่ตนไม่ได้ล่ามาเอง จึงได้รับการยกย่องว่า เป็นยอดของบรรดาสัตว์สี่เท้าทั้งหลาย ทั้งไม่ยอมกินหญ้า-ใบไม้เยี่ยงสัตว์อื่น มนุษย์ซึ่งสมบูรณ์กว่าสัตว์ ด้วยมีสติปัญญา ย่อมเลี้ยงชีพด้วยสัมมาอาชีวะ คือหากินในทางที่ชอบ ไม่หลอกลวง ไม่คดโกง ไม่ทุจริตต่างๆนานา และไม่ยอมรับแม้อามิสสิ่งของอันไม่บริสุทธิ์มาเพื่อเลี้ยงชีพตน ราชสีห์ไม่กินใบไม้ ใบหญ้า มนุษย์ย่อมไม่กินอามิสสินบน ที่มาล่อใจ และไม่รับเอาสิ่งของที่ตนไม่ได้หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง เราจึงสมควรยกย่องผู้นั้นว่าเปรียบประหนึ่งราชสีห์โดยแท้ อมตะวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ สามก๊ก ประวัติศาสตร์มิได้ซ้ำรอยเดิม มนุษย์ต่างหากที่มักซ้ำรอยเดิม ถึงโลกปัจจุบันจะเจริญรุดหน้า แตกต่างจากโลกอดีตอย่างมากมาย แต่สิ่งที่มนุษย์ปัจจุบันมี ไม่แตกต่างจากมนุษย์ในอดีตมี นั่นคือ กิเลส มนุษย์ในอดีตมี ความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างไร มนุษย์ในปัจจุบันก็ยังคงรักษา ความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างนั้น กิเลส ของมนุษย์มิได้เปลี่ยนแปลงเลย ตลอดระยะเวลาอันยาวนานของมนุษยชาติ อมตะวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ สามก๊ก ได้บันทึกเรื่องราวของบรรดาบุคคลต่างๆ ไว้มากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความจริงของกฎข้อหนึ่งคือ กฎแห่งกรรม ที่ยังคงรักษา ความเที่ยงธรรมตลอดมาทุกยุคทุกสมัย ยิ่งได้ศึกษาลึกลงไปก็ยิ่งพบความจริงว่า ปรากฏการณ์ต่างๆในชีวิตของมนุษย์เรา หรือที่มักเรียกกันว่า เคราะห์กรรม นั้น ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของตนเอง ทั้ง ดี และ ชั่ว ที่ทำไว้ เขาย่อมได้รับผลที่ตนทำไว้นั่นเอง ๒๔.เมฆฝน ๔ ชนิด เมฆฝนซึ่งตั้งเค้าอยู่เบื้องบนอากาศนั้น มีลักษณะย่อๆ ๔ ชนิดด้วยกัน คือ ๑.ส่งเสียงกระหึ่มลั่น แต่ไม่ตก ๒.ตก แต่ไม่ส่งเสียงกระหึ่มก่อน ๓.บางครั้งเพียงลอยผ่านไป แต่ไม่ส่งเสียงด้วย ไม่ตกด้วย ๔.บางครั้งคำรามกึกก้องด้วย ตกลงมาด้วย เทียบได้กับบุคคล ๔ ประเภท คือ ๑.บางคนพูดอย่างเดียว แต่ไม่ทำ ๒.บางคนทำเท่านั้น แต่ไม่พูด ๓.บางคน ไม่พูดด้วย ไม่ทำด้วย ๔.บางคน ทั้งพูด ทั้งทำ จึงควรพิจารณาว่า เราเป็นเมฆฝนชนิดใด ?กยิรา เจ กยิราเถนํ ถ้าทำการใด ก็พึงทำการนั้นจริงๆ ๒๕.เรือนรั่ว คำโบราณสอนไว้ถึงลักษณะชั่ว อันให้ทุกข์แก่ผู้ประสพว่า “มีคู่ร้าย เพื่อนบ้านชั่ว เรือนหลังคารั่ว เจ้านายชัง” เหล่านี้เป็นเรื่องเดือดร้อน ให้ทุกข์ ต้องวุ่นวายอย่างแท้จริง เฉพาะเรือนรั่ว หรือหลังคารั่ว เมื่อเกิดฝนตกย่อมอยู่ไม่เป็นสุขเลย จนกว่าจะซ่อมแซมให้หายรั่วนั่นแหละ บ้านเรือนหลังคารั่วยังเป็นเรือนนอก แต่ยังมีเรือนอีกชนิดหนึ่งเป็นเรือนใน ได้แก่ “เรือนใจ” เรือนใจนี้ต้องระวังให้จงหนัก เพราะถ้ารั่วโดยถูกฝนคือกิเลสซัดจนเปียกชุ่ม ย่อมก่อให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อนแก่ผู้นั้นอย่างสาหัสทีเดียว เพราะใจที่ถูกกิเลสรั่วรดย่อมไม่ใช่เป็นใจของตน กลายเป็นใจของกิเลส ทำให้โลภจัด โกรธกล้า ปัญญาสูญ สามารถทำชั่วได้ทุกอย่างโดยง่ายดาย แล้วผลกรรมย่อมมาตอบสนองอย่างสาสมเป็นประจำไม่มีเวลาสร่างซาได้เลย ฤดูฝน ทุกคนเอาใจใส่แต่เรื่องมุงหลังคาเรือนอยู่ เรือนนอนเพียงชั่วคราว ถ้าได้หมั่นอุดเรือนในคือใจไม่ให้กิเลสรั่วรดด้วย จะได้รับความสำราญอย่างแท้จริงตลอดไป เพราะ วิสุทฺธิ สพฺพเกลฺเสหิ โหติ ทุกฺเขหิ นิพฺพุติ ความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นความดับจากทุกข์ทั้งหลาย ๒๖.ส่งเสริมคนดี สมัยนี้มักเสนอข่าวกันครึกโครมแต่เรื่องคนทำชั่วโดยเด็กก็ตาม ผู้ใหญ่ก็ตาม คนแก่ก็ตาม พาดหัวข่าวตัวโตๆด้วยสำนวน “อันธพาลวัยรุ่น” บ้าง “ฆาตกรโหด” บ้าง “เฒ่าหัวงูแผลงฤทธิ์” บ้าง ทำนองช่วยกันแพร่กระจายข่าวและเล่ารายละเอียดการทำความชั่วของบุคคลในวัยต่างๆอย่างแจ่มแจ้งอยู่เป็นประจำ จนคล้ายกับไม่สนใจสนับสนุนหรือไม่ส่งเสริมเรื่องกระทำความดีของคนทุกวัยบ้างเลย ซึ่งเรื่องนี้เองทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันไปว่า ปัจจุบันนี้มีแต่คนชั่วมากกว่าคนดี ความจริง คนดีๆก็มีอยู่มาก แต่เรื่องของคนดีมักไม่ตกเป็นข่าว ไม่ค่อยมีผู้คนสนใจช่วยเผยแพร่สู่ปวงชน อันต่างกับเรื่องของคนชั่วซึ่งมีข่าวปรากฏเป็นประจำ เราควรพร้อมใจกันยกย่องคนทำความดีให้มากกว่านี้ เพื่อให้เป็นตัวอย่างให้คนทั้งหลายได้นิยม พากันประพฤติปฏิบัติดีกันโดยกว้างขวางต่อไปเถิดหนา สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อหุ สนฺโต ปติฏฐิตา สัตบุรุษตั้งมั่นในความสัตย์ที่เป็นอรรถและเป็นธรรม ๒๗.เนื้อสมันกับพุ่มไม้ นิทาน “เนื้อสมันตัวหนึ่ง ถูกนายพรานไล่ติดตามจวนถึงตัวเข้า จึงแอบเข้าไปซุ่มในพุ่มไม้แห่งหนึ่ง พุ่มไม้ได้ช่วยกำบังให้พ้นสายตาของนายพรานได้ โดยนายพรานมุ่งตามไปเสียทางอื่น เนื้อสมันเกิดความชะล่าใจคิดว่าพ้นภัยแล้ว จึงแทะเล็มกินใบไม้ที่เป็นพุ่มนั้น จนพุ่มไม้บางลงมองเห็นตัวได้ถนัด พอดีนายพรานย้อนกลับมาทางเก่าจึงมองเห็น และยิงถูกเนื้อสมันตัวนั้นล้มลง และก่อนจะตายได้นึกถึงโทษที่ตนทำลายพุ่มไม้ จึงสอนตนเองว่า “นี่แหละ โทษแห่งการทำลายสิ่งมีคุณ” คติจากนิทานเรื่องนี้ เตือนใจให้คิดถึงอุปการะของท่านผู้มีพระคุณ แก่ตน แล้วไม่ทำลายหรือประทุษร้ายท่าน แต่ถ้าจะกล่าวโดยกว้างขวาง บุคคลที่มีคุณต่อตนนั้นมีทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย หรือมีทั้งนายทั้งบ่าว ทางโลกมุ่งสอนให้ผู้น้อยสำนึกถึงบุญคุณของผู้ใหญ่ แต่ทางธรรมกลับสอนเพิ่มให้ผู้ใหญ่พยายามคิดถึงคุณของผู้น้อย ด้วยว่าเป็นผู้เชิดชูตน ช่วยเหลือรับใช้ ทำกิจการงานหนักๆแทนเรา การทำลายผู้น้อยด้วยความริษยาก็ดี พยาบาทก็ดี หรืออคติอื่นใดก็ดี เท่ากับเป็นการทำลายตนเอง อุปมาดั่งตัดมือตัดเท้าของตนเสีย ดังเช่นเนื้อสมันทำลายพุ่มไม้กำบังตน จึงต้องตายในที่สุด สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม ผู้มีสันดานชั่ว ย่อมลำบากเพราะกรรมของตน ๒๘.เป็นให้เป็น “สัตว์เลี้ยงพี-ฤาษีผอม” เป็นคำพังเพยที่โบราณให้ไว้เป็นคติแก่คนรุ่นหลัง สอนให้ประพฤติตนเองให้สมกับเพศและภาวะที่ตนเป็นอยู่ อันจะไม่เป็นที่ดูหมิ่นของผู้อื่น คน ได้ชื่อว่า “มนุษย์” เพราะมีจิตใจสูงเหนือสัตว์อื่นๆ คนจะมีความสมเป็นคนต้องมีระเบียบ การรู้จักรักษาระเบียบขนบธรรมเนียมประเพณี ทำให้คนเป็นคนพ้นห่างจากสัตว์ทั้งหลาย และ เพราะคนจะต้องอยู่กันเป็นหมู่เป็นคณะ แต่ละคนจึงมีหน้าที่และฐานะที่จะต้องปฏิบัติให้เหมาะสม เป็นเด็กก็ต้องทำหน้าที่ของเด็ก โดยมีความเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ก็ทำหน้าที่ของผู้ใหญ่ โดยเป็นที่พึ่งแก่เด็กด้วยจิตที่มีเมตตากรุณา นอกจากนี้อีกเช่น เป็นข้าราชการ เป็นตำรวจ ทหาร แพทย์ พ่อค้า เป็นชาย และหญิง หรือแม้แต่ สมณะ เมื่อเป็นแล้วต้อง “เป็น-ให้-เป็น” คือทำให้เหมาะสมตามที่เป็น ย่อมเป็นมงคล มีความรุ่งเรือง ถ้าเป็นอะไรแล้วประพฤติไม่เหมาะสมกับหน้าที่ซึ่งเป็น ย่อมเกิดอวมงคล ไร้ความเจริญอย่างแน่นอน ฉะนั้น จงเป็นให้เป็น สมกับที่ต้องเป็น อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต บัณฑิตย่อมเว้นสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ถือเอาแต่สิ่งเป็นประโยชน์ ๒๙.ความเคยชิน เมื่อก่อนเห็นรถเก็บขยะมาแต่ไกล ท่านย่อมหลีกเลี่ยงหลบไป แต่ถ้าหลบไม่ได้ท่านอาจต้องกลั้นหายใจ หรือใช้ผ้าปิดจมูกเมื่อต้องเดินผ่านรถนั้น เพราะไม่ชอบกลิ่นเหม็นจากขยะต่างๆในรถ ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า มีพนักงานที่ต้องทำงานคลุกคลีกับกลิ่นเหม็นซึ่งท่านทนไม่ได้ จริงอยู่ที่เขาเหล่านั้น ก็ทำงานเพื่อค่าจ้าง แต่หากไม่มีผู้ยอมทำหน้าที่เช่นนี้แล้ว พวกเราจะเดือดร้อนอย่างมาก นำเหตุผลเหล่านี้ให้คำตอบว่า “คนเราสามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่รังเกียจแม้ในสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยอาศัยความเคยชิน” การที่บางคนทำความชั่วบางอย่างได้ทั้งๆที่เรื่องนั้นไม่น่าจะทำได้เลย ก็เพราะเขาเคยชินต่อการทำความชั่วอันเขาทำเป็นประจำนั่นเอง มิใช่แต่การทำชั่วเท่านั้น แม้เรื่องทำความดีก็ต้องอาศัยความเคยชินเหมือนกัน ถ้าทำบ่อยๆย่อมทำได้โดยง่าย ความไม่เคยไม่ว่าทางดีหรือทางชั่ว ทำได้ยากทั้งสิ้น ท่านสาธุชน ท่านอยากจะเป็นคนดีหรือเป็นคนชั่ว ก็ย่อมเป็นได้ด้วยการทำความเคยชินจนติดเป็นนิสัยนั่นเทียว ยโต ยโต จ ปาปกํ ตโต ตโต มโน วิวารเย ก็บาปเกิดจากอารมณ์ใดๆ พึงห้ามใจจากอารมณ์นั้นๆ ๓๐.มหานิยม มนุษย์มีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง ที่หาไม่ได้ในบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตด้วยกัน สิ่งนั้นคือ “ยิ้ม” สัตว์โลกทุกชนิดที่ยกย่องว่ากันว่าเป็นสัตว์ฉลาดและฝึกหัดได้นานัปการ แต่ฝึกให้”ยิ้ม”ไม่ได้ ยิ้มของคนซื้อขายไม่ได้ ยิ้มเป็นเครื่องดึงดูดให้คนเข้าใกล้โดยปรศจากความระแวง ยิ้มสามารถเป็นเกราะป้องกันภัยให้แก่ตนเองได้ด้วย แต่ต้องเป็นยิ้มตามปกติ มิใช่ยิ้มอย่างละคร ลิเก ที่โปรยยิ้มไปรอบเวที เพราะนั่นเป็นยิ้มที่แต่งขึ้น ยิ้มแท้ต้องเป็นยิ้มที่เกิดจากใจจริง มีลักษณะเบิกบาน เยือกเย็น เป็นเครื่องดับและบรรเทาทุกข์ร้อนได้ ทำให้ผู้ยิ้มเป็นคนมีสติยั้งคิด ไม่ผลุนผลัน ฝ่ายหนึ่งหน้าบึ้งมาหาอีกฝ่ายหนึ่งยิ้มรับ เหตุร้ายย่อมกลายเป็นดี โบราณท่านจึงให้ยิ้มไว้ก่อนเสมอ ยิ้มได้เมื่อภัยมา ย่อมช่วยให้เกิดสติ ไม่ตื่นเต้นวู่วาม ในเหตุอันใดที่เกิดขึ้น ยิ้มจึงส่งเสริมให้เป็นคนมีสติ ตรงข้ามกับความโกรธซึ่งทำให้ขาดสติ ไร้ความยั้งคิด ยิ้มไม่ต้องลงทุนซื้อหา มีอยู่แล้วประจำตัวทุกคน เหมือนมีอาวุธในตัว ต้องหมั่นชโลมน้ำมันกันสนิมไว้ อย่าปล่อยให้สนิมจับจนฝืดไม่คล่องแคล่วทันท่วงที คนที่ยิ้มยาก เพราะไม่เคยยิ้ม ถึงคราวยิ้มย่อมยิ้มไม่ออก จึงควรต้องหัดยิ้มไว้เสมอๆ “ยิ้มได้และยิ้มเป็นจะช่วยให้ปลอดภัยและสบายใจ

สิบปากว่า  สิบตามตาเห็น...ไม่เท่ากับลงมือทำเอง...การทำดีต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน........

นลินทิพย์ สังข์เจริญ ศบอ.แปลงยาว

รับทราบค่ะ....

สังคมคนดีท้อแท้ค่ะ...

ตาม Mindmap ที่ผอ.ได้เขียนไว้นั้น มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน แต่การแก้ไขนั้น อยู่ที่จิตสำนึกของคนแต่ละคน ว่าจะต้องปฏิบัติตนเช่นไร ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

สิ่งใดที่ไม่ดีนำมาปรับปรุงแก้ไขกันสักทีเพื่อจะได้ลบภาพที่ไม่ดีเกี่ยวกับราชการไทย

แนวคิดดีๆทั้งนั้นครับ คิดดี พูดดี ทำดี มองโลกในแง่ดีกันนะครับ ไม่ต้องเริ่มที่ใคร เริ่มที่ตัวเราก่อนนะครับ หนึ่งคนหนึ่งความดี สิบคนสิบความดี ร้อยคนร้อยความดี พันคนพันความดี ............................จนถึง หกสิบล้านความดีถวายพ่อหลวงของเราในปีมหามงคลนี้ครับ

หนึ่งคนหนึ่งความดี คนละหนึ่งความดี หกสิบล้านคนหกสิบล้านความดีถวายพ่อหลวงของเรานะครับ คิดดี พูดดี ทำดี และมองโลกในแง่ดี

หกสิบล้านใจหกสิบล้านความดีถวายพ่อหลวงครับ

ขอบคุณทุกท่านที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม...อย่าเพียงแค่คิด และพูด แต่จงพิสูจน์ว่าเราจะทำ...ความดี...ต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จงอย่าเพียงแค่คิด และพูด แต่จงพิสูจน์ว่าเราจะทำ..ความดี..ต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา

พื้นฐานของรากหญ้าที่เข้มแข็งจะทำให้สังคมและประเทศชาติพัฒนาก้าวไกล
เห็นด้วยกับเสือตัวที่ 11 ทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเรา

ขอบคุณ เสือ11 ตัว คุณรุ้งระพี และคุณนอกสายตาครับ

คุณธรรมนำความรู้  หลีกเลียงวงจรอุบาต  ปราศจากคอรัปชั่น 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท