...ความทรงจำ


คำสอนที่ฝังแน่น..."พ่อไม่ชอบคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ"

เช้าวานนี้...เพื่อนรักกันกดโทรศัพท์มาหาและบอกว่า...เธอสูญเสียคนที่เธอรักยิ่งตอนนี้ วินาทีนี้เธอกำลังเผชิญมันอยู่กับ "ความตาย" เสียงเธอกำลังร้องให้อย่างหนักดิฉั้น"สะดุดนิ่งอยู่ชั่วครู่"เพื่อคิดว่าอะไรควรเป็นคำแรกที่ควรกล่าวกับเธอ...."ไม่เป็นไรค่ะทำใจดีๆนะคะ".....ที่บ้านน้องก็เคยมีคนตาย..."ทุกคนก็เคยพบกับเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้"....เธอยิ่งสะอื้นเพิ่มขึ้น....ทำไงดีเรา....พูดถูกหรือเปล่า เราจะช่วยเหลือเธออย่างไรในยามนี้ "เราดูแลท่านดีแล้วนี่คะ....ไม่ต้องย้อนคิดอะไรตั้งสติทำสิ่งที่เหลืออยู่เพื่อท่านให้ดีที่สุดทิ้งท้ายว่าอย่าจมอยู่กับความเสียใจไม่งั้นเราจะทำสิ่งที่เหลืออยู่ได้ไม่ดี..."
             พูดจบดิฉั้นก็รีบวางสายด้วยเกรงว่าคำพูดของดิฉั้นนอกจากจะไม่ช่วยอะไรเธอได้มาก...อาจทำให้แย่ลง...ไม่ง่ายเลยการปลอบประโลมใจให้ผ่อนคลาย...เรียกว่าเป็นงานไม่ถนัดพระเจ้ามิได้มอบสิ่งเหล่านี้มาให้ดิฉั้นเลยแม้แต่น้อยวางหูแล้วดิฉั้นยังคงนั่งในรถไม่ขยับเขยื้อน...
             นิ่งคิดถึงตัวเองตอนที่ดิฉั้นรู้ข่าวว่าพ่อของตัวเองเสียชีวิตเมื่อ หลายปีก่อนตัวเองมีสภาพเป็นเช่นไรในวินาทีนั้น..ทันทีที่รู้ข่าวดิฉั้นตรงไปยังที่ท่านอยู่เจอพี่น้องที่ถึงก่อนกำลังเศร้าโศก แว้บนั้นเองก็คิดได้ว่าต้องมีสักคนที่ไม่ตกอยู่ในอารมณ์นั้น..จึงลืมเศร้าทำหน้าที่จัดการทุกอย่างในวันนั้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งที่ไม่เคยทำสิ่งเหล่านั้นมาก่อนทุกอย่างเรียบร้อยเข้าที่เข้าทางภายใน 4 ชม.หลังจากนั้นจึงปลีกตัวเข้าห้องน้ำที่อยู่ห่างไกลผู้คนที่สุดในวัด...."ร้องให้เพื่อคลายอะไรออกมาบ้าง".....เราช่วยกันทำหน้าที่ของเราประสาพี่น้องผ่านไปหลายวัน...คืนก่อนวันเผารับมอบหมายให้เขียนคำไว้อาลัยให้พ่อ...คืนนั้นทั้งคืนดิฉั้นเขียนไปร้องไป....ร้องจนหมดหัวใจ..ได้กระดาษที่มีคำไว้อาลัย1 หน้า...จากนั้นดิฉั้นไม่ร้องไห้อีกเลยเหลือเพียงความทรงจำในภาพดีๆ....กับคำสอนที่ฝังแน่น..."พ่อไม่ชอบคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ"เป็นมรดกที่พ่อมอบไว้ให้ตกทอดสู่รุ่นหลาน
              ดิฉั้นทำหน้าที่ให้เธอโดยการกดโทรศัพท์หาถามเพียงคำเดียวว่า"ดีขึ้นมั้ย"  ด้วยความห่วงใย

หมายเลขบันทึก: 105198เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2007 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เรื่องนี้ ปลอบใจกันลำบากน่าดู เท่าที่พบ จะถามเรื่องเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น หรือเรื่องอื่นและเรื่องที่ต้องเตรียมจัดการ ไปเลยค่ะ  ให้เค้า มีสติ มาคิดทำอะไรต่อไป

  • เวลาที่ตัวเองตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนรักค่ะ
  • เพราะเราจะเสียใจสุด ๆ (ตอนน้องชายเสียชีวิต) และงง ๆ ว่าจะทำอะไรกันก่อนหลัง เมื่อเพื่อนรีบยื่นมือเข้ามาช่วย จัดการในสิ่งต่าง ๆ ให้ เราจะรู้สึกอบอุ่นใจมาก
  • คำพูดปลอบใจ ไม่เท่าการกระทำที่รีบมาช่วยเหลือกันค่ะ
  • งานสีดำแบบนี้ไม่มีการบอกกล่าวให้มาช่วยกัน คนช่วยเขามาเอง ไม่เหมือนงานรื่นเริงที่เราบอกงานกัน
  • เห็นใจและช่วยเหลือกันยามมีทุกข์ รู้สึกว่ามีค่ามากกว่าตอนช่วยเหลือกันยามปกติสุขมากค่ะ
  • พี่ขอแสดงเสียใจต่อน้องสมพรด้วยนะ
  • เราไม่ได้พบกันนานแล้วนะ และไม่ได้คุยกัน คิดถึงเหมือนกัน วันที่ 21 ได้โทรไปหาปลายทางแจ้งว่าน้องไปคณะแพทย์
ขอร่วมแสดงความเสียใจกับคุณอึ่งอ๊อบด้วยนะคะ พี่โอ๋ก็เป็นโรคเดียวกับคุณจิ๊บค่ะ อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำที่เข้มแข็งน้อยกว่ามาก อาจจะร้องไห้ตามไปด้วยเสียอีก ไม่กล้าโทรศัพท์แน่นอนเลยค่ะ ขอฝากทำบุญร่วมงานและฝากกำลังใจไปเชียงใหม่กับคุณจิ๊บและคุณแป๊ดด้วยนะคะ

ผมเองก็ไม่คุ้นชินต่อการปลอบประโลม,  พระเจ้าไม่ได้มอบพรนี้มาให้กับผม  แต่ถ้าให้ปลอบด้วยถ้อยคำอันเป็นอักษรก็พอได้ -

ผมเชื่อว่ามนุษย์จะฝ่าข้ามห้วงแห่งความเศร้านั้นได้  และมนุษย์ก็เกิดมาเพื่อให้กำลังใจแก่กันและกัน -

.....

บางทีผมก็บอบบางและอ่อนไหวต่อความเปลี่ยวเศร้าเช่นกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท