วันนี้ผมมีเรื่องดี ๆ จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ผมเชื่อว่าไม่ใช่ผมคนแรกที่เล่าเรื่องนี้ นั่นไม่ใช่ความประสงค์ที่จะเป็นผู้เล่าเรื่องนี้ก่อนใครหรือเป็นคนแรก แต่ต้องการที่จะเป็นผู้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความดีของ "แม่พระ" ผู้มีใจอันประเสริฐในการช่วยเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนือย เพื่อให้สารนี้ล่องลอยไป แล้วมีผลทำให้ผู้คนทั้งหลายมีจิตใจอ่อนโยน แล้วเริ่มมอบความรัก ความเมตตาแก่ผู้อื่น อันจะนำความ "สันติ" มาสู่มนุษย์ชาติได้ในที่สุด
ในเช้าวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ ผมต้องเดินทางไปธุระที่จังหวัดอุบลราชธานี ผมต้องออกเดินทางในตอนเช้า ระหว่างที่รอเวลารถออกที่สถานีขนส่งหมอชิต ผมโชคดีที่ได้ฟังรายการดี ๆ ซึ่งไม่บ่อยครั้งที่ผมจะตื่นมาฟังทัน รายการเช้าทันโลกของ อสมท. 96.5 ในวันนั้น นำเสนอเรื่องราวที่งดงามมาก เป็นเรื่องราวที่ทำให้หัวใจของผม "พองโต" และ "ปลาบปลื้ม" ไปตลอดการเดินทาง 10 ชั่วโมงไปอุบลราชธานี เปลี่ยนให้การเดินทาง 10 ชั่วโมงในที่นั่งแคบ ๆ ของรถประจำทางจากความน่าเบื่อให้เต็มไปด้วยความทรงจำที่งดงาม แม้เรื่องราวที่ได้ฟังในเช้าวันนั้นจะกินเวลาไม่นาน แต่พลังของเรื่องนั้นมหาศาลจริง ๆ
พิธีกรในวันนั้น สัมภาษณ์ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ที่พิธีกรให้ฉายาว่า "เภสัชกรยิปซี" ตลอดระยะเวลาการให้สัมภาษณ์ ผมรู้สึกได้ถึงความรักความเมตตาที่ออกมาจากน้ำเสียงของท่าน ประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมถึงกับขนลุกซู่คือประโยคที่ท่านตอบคำถามของพิธีกรที่ถาทว่า "เหลือเวลาอีกเก้าปี WTO ก็จะบังคับใช้กฏหมายสิทธิบัตรยาในอัฟริกาแล้ว อาจารย์ยังจะทำต่อไหมคะ?" ท่านตอบโดยไม่ต้องคิดว่า "เหลือวันเดียวก็จะทำ" เป็นคำตอบที่ออกมาจากหัวใจที่งดงามและกล้าแกร่งจริง ๆ และท่านยังพูดให้ข้อคิดต่อไปว่า "ในอัฟริกา มองไปทานไหนก็มีแต่ปัญหา แต่เรามองสิ่งที่เราทำได้ (ท่านใช้คำว่ามองแค่เมตรเดียว) แทนที่จะมองที่ปัญหา" คำ ๆ นี้ ตอกย้ำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในความเชื่อของตัวเองว่า เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่มีผมคนเดียวที่เชื่อ แต่นักปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ ท่านได้ออกเดินนำทางเราไปแล้ว เราคนรุ่นหลังเพียงแต่ออกก้าวเดินไปสู่จุดหมายนั้น ด้วยการลงมือทำ แทนการวิตกกังวลกับปัญหาจนไม่เกิดการลงมือทำเท่านั้นเอง
ในตอนหนึ่งพิธีกรถามถึงสาเหตุที่ทำให้ท่านเลือกที่จะไปทำงานในอัฟริกาท่านตอบว่า "ท่านไปตามหาความฝัน การได้ช่วยคนหนึ่งคน เป็นการเติมพลังชีวิตที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด" คำตอบนี้ คงจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักปฏิบัติทั้งหลาย มีแรงที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น แน่นอน ในกลุ่มนักปฏิบัติเหล่านั้น ผมขอร่วมขบวนด้วยหนึ่งคนครับ
อย่างน้อยในตอนนี้ พลังใจที่มีเต็มเปี่ยมของผม ขอมอบแด่ เภสัชกรหญิง ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ผู้เป็นดั่งประธีปผู้ให้แสงสว่างแห่งความหวังแก่ชาวกาฬทวีป เพื่อให้ท่านมีเรี่ยวแรงทำงานต่อไป และผมมีความยินดีที่จะเชิญชวนท่านทั้งหลาย มาร่วมกันผสานพลังใจให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้ท่านสามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จ ดังที่ท่านฝันไว้
(หมายเหตุ: คำให้สัมภาษณ์ที่ยกมาอาจคลาดเคลื่อนไปจากการพูดในรายการ แต่ความหมายน่าจะสอดคล้องกันตามการตีความของผู้เขียน เชิญท่านทั้งหลายฟังรายการย้อนหลังเพื่อประกอบการพิจารณา ตามลิ้งที่แปะไว้แล้วครับ)
แรงบันดาลใจ ความอดทน และความมุ่งมั่น เป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักขับเคลื่อนสังคมค่ะ
ขอชื่นชมดร.กฤษณาด้วยอีกคนนะคะ
และขอบคุณคุณสวัสดิ์ที่นำเรื่องราวดี ๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ช่วยกันให้กำลังใจกับ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรหญิง ผู้ปิดทองหลังพระ ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก
ติดตามข่าวคราวและให้กำลังใจกับอาจารย์ได้ที่ http://www.oknation.net/blog/Kraisintu และ http://www.krisana.org
website และ blog นี้มีอาสาสมัครสร้างขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจกับ อ.กฤษณา หวังว่าเพื่อนๆ คงจะเข้ามาเยี่ยมกันเยอะๆ นะคะ มีข่าวคราวอะไรสามารถฝากไว้ใน blog หรือ website ได้เลยค่ะ