“วิสัยทัศน์ท้าทาย”ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น(2)

Challenge of KKU Vision

            บันทึกเรื่อง “วิสัยทัศน์ที่ท้าทาย” มหาวิทยาลัยขอนแก่น(1) ทิ้งท้ายก่อนจบว่า จะ “ทำงานอย่างไร” เพื่อให้วิสัยทัศน์ที่ท้าทายประสบความสำเร็จ ฉบับนี้จึงขอเล่าเรื่อง จะ“ทำอะไร”และจะ“ทำอย่างไร” “การทำงานอะไร” คือ การนำแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ไปสูการปฏิบัติ “การทำงานอย่างไร” เป็นวิธีการทำงาน วิธีการปฏิบัติงาน จะเริ่มจากตัวเราเอง ปรับปรุง พัฒนาตัวเอง และช่วยกันพัฒนาองค์การให้ต่อเนื่องกัน โดยมีหลักการปฏิบัติงานที่ดี การทำงานอย่างไร เป็นเรื่องที่เช้าใจยากและทำได้ยากกว่า “การทำงานอะไร”เริ่มที่ “การทำงานอะไร” ก่อน จากการที่เรารู้กันแล้วว่า การวางแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ (Strategic Planning) เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้องค์การบรรลุผลสัมฤทธิ์ วิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Administration) ที่จะทำให้วิสัยทัศน์ประสบความสำเร็จต้องดำเนินการ 1)แปลงแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ มีทีมปฏิบัติการ การสร้างความชัดเจน สร้างความเข้าใจร่วมกัน แต่ละคนต้องรู้เป้าหมายที่ชัดเจนและรู้ว่าตนเองจะต้องทำอะไรบ้าง โดยการกำหนดโครงการ และกิจกรรมที่ต้องทำ ให้ตอบเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ได้ ทั้งนี้ต้องจัดสรรทรัพยากรให้ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ กำลังคน วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆให้ทำงานได้ 2)ปรับระบบงาน โครงสร้างการทำงานขององค์การให้ทำงานตามแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ให้ได้ การปรับความคิด ความเข้าใจของหน่วยงานต่างๆที่มีความแตกต่างกันให้กลมกลืนกันและรวมพลังกันให้เป็นพลังที่เข้มแข็ง 3)ทำให้โครงการ กิจกรรมในแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์เป็นงานประจำวันของทุกคน 4)ทำให้แผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง มีการติดตามประเมินผลการดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์อย่างจริงจัง การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ทั้งสี่ประเด็นจึงเป็นคำตอบว่าจะ “การทำงานอะไร” เพื่อให้วิสัยทัศน์ประสบความสำเร็จนั่นเองแล้วจะ “ทำงานอย่างไร” การทำงานอย่างไรนี้เป็นนามธรรม ต้องทำไปพร้อมๆกันทั้งองค์การ สร้างแรงจูงใจที่เข้มแข็ง จะทำให้ได้ผลงานที่ดีพร้อมกับการพัฒนาองค์การไปด้วย การทำงานที่ยึดหลักธรรมาภิบาล หรือหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี(Good Governance) คือ (1) หลักนิติธรรม โดยการออกกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบที่ยุติธรรม เป็นธรรม (2)หลักคุณธรรม คือ ปฏิบัติงานโดยยึดมั่นในความถูกต้องและเหมาะสม เป็นตัวอย่างแก่สังคม มีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย (3)หลักความโปร่งใส โดยปรับปรุงระบบการทำงานให้มีความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้สะดวก และการตรวจสอบความถูกต้องได้ (4)หลักความมีส่วนร่วม การเปิดโอกาสให้ประชาชนและบุคลากรมีส่วนร่วมในการบริหาร การเสนอความเห็น การตัดสินใจร่วมกัน (5)หลักความรับผิดชอบ คือ มีความตระหนักในสิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบต่อองค์กรและส่วนรวม การเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างและยอมรับผลจากการกระทำของตน (6)หลักความคุ้มค่า คือ การใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ประหยัดและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า จากหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีได้กำหนดในมาตรา3/1 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน(ฉบับที่5) พ.ศ.2545 และออกเป็นพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ทางปฏิบัติตาม “หลักการบริหารจัดการบ้านเมือง/การบริหารจัดการราชการที่ดี” จะทำอย่างไร หลักการนี้จะเริ่มต้นจากการใช้หลักการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ใช้กลไกตลาดในการบริหาร เปิดโอกาสให้ประชาชน องค์กรเอกชนมีส่วนร่วม กระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ ปรับปรุงการบริหารจัดการหน่วยงานให้มีคุณภาพ เช่น การบริหารบุคลากรตามสมรรถนะ การบริหารงบประมาณเชิงยุทธศาสตร์และการจัดระบบการเงินการคลัง การประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการและรายบุคคล การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการ การปรับบทบาทภารกิจโครงสร้างหน่วยงานราชการ การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม ค่านิยม ทัศนคติของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เข้าใจวิถีการทำงานแนวใหม่ การปรับเปลี่ยนวิถีการทำงาน เช่น มีการทำงานเป็นทีมและบูรณาการการทำงาน การใช้ข้อมูลสารสนเทศในการทำงาน การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน การคิดเชิงบวกและมองในแง่ดี การมองและคิดอย่างเป็นระบบ การทำงานเชิงรุก การกำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกัน เป็นต้น วิธีการปฏิบัติงานดังกล่าวนี้ เป็นคำตอบของ “การทำงานอย่างไร” ให้บรรลุผลสำเร็จตามแผนยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ และยังทำให้องค์การก้าวหน้าไปพร้อมกับผลสำเร็จของงาน

[ออต ญาณพิสิษฐ์]

• บทความน่าสนใจมากครับ
• เสนอแนะให้จัดย่อหน้าบ่อย ๆ ครับจะได้อ่านง่าย
• จะตามอ่านนะครับ