การจัดการความรู้เพื่อการพัฒนาองค์กรอัจฉริยะ


ในวันอังคารที่5มิถุนายน 50 ดิฉันและทีมงานมีโอกาสไปฟังการสัมมนาเรื่องKMเพื่อการพัฒนาองค์กรอัจฉริยะโดยมีอาจารย์น.พ.วิจารณ์ และอาจารย์ดร ประพนธ์จากสคส.เป็นวิทยากร

หมอหน่อยได้นำมาเล่าให้คณะกรรมการKM และIC ฟังแล้วโดยนำslideของอาจารย์ประพนธ์และอาจารย์วิจารณ์ จากWebของสคส.

ในช่วงบ่ายของการสัมมนาได้เชิญวิทยากรอีกสามท่านซึ่งดิฉันขอเล่าสั้นๆค่ะ 

ดร.วรภัทร   ปัจจัยแห่งความสำเร็จขององค์กรอัจฉริยะ

      ศาสดาทั้งหลายเป็นคุณเอื้อระดับโลก    

      อิทธบาท 4    จำเป็นเพราะต้องมีฉันทะก่อน

       การทำอะไรให้เป็น culture  น้ำมันหล่อลื่นคนหยอด คือ ผู้บริหาร

       ต้องดัดสันดานคือเปลี่ยนผู้บริหารก่อน( อาจารย์พูดค่ะ)

      เห็นความสุขในตัวเอง

       มีศรัทธา

        งกๆ เค็มๆ จะไม่รอด

        มีการเรียนรู้ที่จะให้อภัย ให้โอกาส ลูกน้อง

ดร.ปรอง

  • คำว่าอัจฉริยะในสังคมไทย น่าจะ สูงเกินไป
  • คืออะไร เพื่ออะไร 

องค์กรอัจฉริยะน่าจะหมายถึง  

  • องค์กรที่อยู่รอด
  • มุ่งมั่นในความฝัน ในการดำเนินการ ในความเชื่อ
  • แผ่ขยายความมั่นคง 
  • มีชื่อเสียงเกิดขึ้นเพื่อให้คนจำ

 องค์กรจะเป็นอัจฉริยะได้อย่างไร

  •  ต้องอาศัยคน มีคนอัจฉริยะไปอยู่
  • มิติ  1) สมอง 2)สองมือ 3) หัวใจ 4)จิตวิญญาณ
  • องค์กรต้องมีสิ่งแวดล้อมดี
  •   มีความสุข
  • ไม่ต้องคิดเหมือน ต้องคิดแตกต่าง
  • ต้องหาสมดุลให้ได้ 

ขงจื้อพูดว่า   ผู้ที่เป็นปราชญ์จะต้องมี

    • พิธีกรรม
    • ดีดลูกคิด
    • ขับรถออกศึก
    • ยิงธนู
    • ต้องมีดนตรีด้วย

องค์กร spasion

    • มีความมุ่งมั่น
    • ให้ความสำคัญของค่านิยม 5 อย่าง ทำให้เกิดให้ได้
    • คัดคนที่เหมาะ  รู้ลึกและรู้กว้าง 
    •  ถามบุคลากรว่า อะไรที่เป็นเรื่องไม่ได้เรื่องที่คุณภูมิใจที่สุดในชีวิต
    • สิ่งที่น่ากลัวคือ คนที่ พูดไม่รู้เรื่อง  พูดไม่เข้าหูคน

 พัฒนาทรัพยากรมนุษย์  ต้องดู 4 มิติ 

      • ร่างกาย   สุขภาพ ต้องพักเป็น   คนป่วย ทำงานไม่ได้
      • จิตใจ  มีกิจกรรมต่อเนื่องที่จะเป็นผู้ให้
      • สังคม อารมณ์  ทุกคนเท่าเทียม  เพียงแต่แตกต่างในหน้าที่ 
      • การพัฒนาสติปัญญา  สอนแต่ต้องเรียนรู้เอง  เช่น  ข้อความเดียวกันแต่ตีความแตกต่างกัน 
      •  การเรียนรู้  ดูว่าคนเก่งโตมาอย่างไร  จึงคิดแบบนี้
      •  ท่านไม่เอาเมล็ดพันธ์ที่ลงได้ทุกที่
      •  ต้องเตรียมคน

 องค์กรต้องมีเป้าหมายอะไรใน spansion

  1. ความรู้ต้องพัฒนาตลอดเวลา
  2. สภาพแวดล้อม    ต้องทำ KM เพื่อเกิด LO   ® เพื่ออยู่รอด, สานฝันขององค์กร 

อาจารย์ ดร.เกศรา รักชาติ

ต้องเริ่มจาก

  • บรรยากาศองค์กรสำคัญที่สุด
  • บางองค์กร Openess มีต่ำมาก ไม่กล้าพูด 
  • บรรยากาศ  ใครมีความคิดเห็นที่แตกต่างเราจะต้องทำให้เปิดใจ พูดได้
  • Imagination in belter  than knowledge ไอสไตน์  กล่าวไว้

แนะนำให้ถามบุคลากร

    1. คุณเข้ามาทำไม
    2. อยากเห็นองค์กรอย่างไร
    3. พนักงานเป็นหรือยัง  เรายังไปไหนไม่รอดแล้ว เราจะไปอย่างไร      ต้องฝันร่วมกัน
    4. Check ตัวเอง ตัวเราน่าเชื่อถือหรือยัง

เวลาไหนในชีวิตที่สำคัญที่สุด

 ตอนเวลาทำงาน 

กิจกรมมดีๆ ที่จะทำให้แก่องค์กรมีอะไร  

เวลา ณ ปัจจุบันสำคัญที่สุด เราเรียนรู้อย่างไร

อยู่ด้วยกันต้องไว้วางใจกัน

คนเก่งต้อง มีคุณธรรม

คิดแบบใหม่

พูดแบบไหน คุยกันอย่างไรที่สามารถจะออกจากความคิดเดิมๆ 

ดร.ปรอง

  • สิ่งแวดล้อม สำคัญ
  • นึกถึงชมรมต่างๆ ในสมัยเด็กๆทียังเรียน 

ข้อเสนอแนะอื่นๆจากอาจารย์ทั้งสามท่าน

 ให้ Walk more, Talk more

สร้างบรรยากาศภายนอกให้เป็นเพื่อน

มาทำงานคือใช้ชีวิต

 สร้างบรรยากาศเราเป็นผู้สร้างบรรยากาศ

มีกิจกรรม Birth Month

คุยกันในบรรยากาศสบายๆ 

สร้าง การ Learning และ Leader ขึ้นมาใช้ใน  ชุมชน

คนเรา ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน

เราต้องฉลาดรอบด้าน

ร่างกาย ต้อง พร้อมรบ

ไอคิว สติปัญญา

อ่านหนังสือเพิ่มด้วย 20 เล่ม/ปี ถ้าน้อยเราจะไม่ทันโลก  (อาจารย์เกศราแนะนำ)

มีEQ 

Communication

ให้พัฒนาจิตวิญญาณ

หมายเลขบันทึก: 103204เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2007 10:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณค่ะ ผอ.น่าจะเชิญวิทยากรทั้ง 3 ท่านมาพูดให้ชาวสบร.ฟังบ้างนะคะ

ปิ่งเป็นต้นเรื่องให้ก็ดีนะเพราะหมอกลัวลืมค่ะ   ปรึกษาหนูเล็กให้ช่วยด้วยค่ะ

ตัวหมอเองติดตามผลงานของดร เกศราจากหนังสือพิมพ์ทราบว่าอาจารย์มืออาชีพจริงๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท