ขันติ คือ ความอดทน เป็นศัพท์ธรรมะ ซึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วไปรู้จักกันดี เพราะเป็นธรรมประกอบอยู่ในหลายหมวดธรรม เช่น
ธรรมก่อให้เกิดความงาม ๒ ประการ กล่าวคือ
อธิบายสั้นๆ ได้ว่า คนที่ไม่มีความอดทนมักจะแสดงความระอาใจ ความขึ้งเครียด ความหดหู่ เป็นต้นออกมาทางใบหน้าและกิริยาอาการอื่นๆ... ส่วน ความเสงี่ยม ก็คือการรู้จักเก็บสิ่งต่างๆ ไว้ภายในไม่พยายามแสดงออกมาทางใบหน้าหรือกิริยาอาการอื่นๆ ... ใครก็ตามถ้ามีคุณธรรมสองประการอยู่ประจำตัวก็จะก่อให้เกิดความงามกายและงามใจได้.... ประมาณนี้
.......
ธรรมสำหรับผู้ครองเรือน ๔ ประการ กล่าวคือ
อธิบายสั้นๆ ว่า คู่ครองเรือนคือสามีภรรยา ต้องอดทนในการประกอบอาชีพเลี้ยงชีวิต... บางสิ่งบางอย่างที่กระทบจิตก็จะต้องรู้จักข่มไว้ เพื่อมิให้ลุกลามกลายเป็นเรื่องเป็นราวต่อไป... ต้องมีความจริงใจซึ่งกันและกัน... และรู้จักเสียสละในสิ่งที่จะขัดขวางความราบรื่นแห่งชีวิตคู่... เป็นต้น
......
ในบารมี ๑๐ ทัศ ก็มีขันติเป็นลำดับ ๖ โดยมีวิริยะเป็นที่ ๕ และมีสัจจะ เป็นที่๗ ซึ่งมีความคาบเกี่ยวกันดังต่อไปนี้..
วิริยะ คือ ความเพียร นั่นคือ จะต้องมีความมุมานะ พยายาม บากบั่น เพื่อการเสริมสร้างบารมี... ขันติ คือความอดทน จะเป็นตัวสนับสนุนให้ความเพียรดำเนินการต่อไปได้... ส่วน สัจจะ ความความจริงใจ จะสร้างความหนักแน่นคอยตอกย้ำให้ความมุ่งหวังในบารมีธรรมเจริญเติบโตต่อไป.... ประมาณนี้ (ผู้สนใจเรื่องบารมี๑๐ ทัศ โดยละเอียด ดู http://www.bodhisattva.name/Jariya/index.html )
........
เมื่อพิจารณาความอดทนในฐานะคุณธรรมของผู้สูงอายุ จะเห็นได้ว่าสำคัญยิ่ง และมีนัยที่จะขยายความได้หลากหลาย เช่น
ร่างกายที่ทรุดโทรม ไม่ควรแก่งานดังคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุจึงต้องทนลำบากเพื่อจะต้องกระทำกิจบางอย่าง เช่น เคี้ยวอาหารก็อาจไม่ค่อยสะดวก จะหยิบจับสิ่งโน้นสิ่งนี้ หรือไปมาก็ไม่คล่องแคล่ว....
ผู้สูงอายุบางท่าน มีโรคาพยาธิเบียดเบียน ก็ต้องทนตรากตรำ หรือจำทนทำสิ่งนั้นๆ เช่น บางท่านต้องให้หมอมาบีบมานวดทุกวัน หรือต้องมีกายภาพบำบัดทุกวัน เป็นต้น แม้จะเบื่อก็ต้องทนตรากตรำไปเรื่อยๆ....
ในบางกรณี ผู้สูงอายุ อาจถูกคนรุ่นหลังเยาะเย้ย ถากถาง เสียดสี ด้วยวาจาหรือการกระทำบางอย่าง ผู้สูงอายุก็ต้องทนเจ็บใจ เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม หรือจะโต้ตอบกระทำคืนก็มิใช่สิ่งที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ .....
ดังนั้น ทนลำบาก ทนตรากตรำ และ ทนเจ็บใจ คือคุณธรรมว่าด้วยความอดทนที่ผู้สูงอายุต้องหมั่นสร้างให้มีอยู่เป็นอยู่ในตนให้ได้... ผู้สูงอายุคนใดสามารถมีความอดทนทำนองนี้ได้ก็จัดว่าเป็นมงคลสำหรับท่านในชาตินี้
อนึ่ง เมื่อมองไปยังชาติหน้า ผู้สูงอายุท่านใดที่ฝึกขันติธรรมในบั้นปลายชีวิตแล้ว ก็จะเป็นวาสนาบารมีติตตัวไปในชาติหน้าอีกด้วย กล่าวคือ จะมีพื้นฐานทางใจเป็นคนอดทน หนักแน่น ในชาติต่อไปนั่นเอง..
กราบนมัสการค่ะ
ชาติก่อนคงบำเพ็ญเรื่องนี้มาไม่มาก แต่ชาตินี้ มาบำเพ็ญ ตอน 15 ปีหลังนี้ ก็ยังรู้สึกดีมากขึ้นมากค่ะ ปกติจะใจร้อน และไม่ค่อยยอมอะไรง่ายๆ แต่ตอนนี้ ระงับใจและเย็นมากค่ะ ไม่ค่อยวุ่นวายใจแล้วค่ะ จริงๆคือ ปรับใจตัวเองได้ค่ะ
อ่านแล้ว เตือนใจดีค่ะ
ถ้าว่าตามหลักพระพุทธศาสนา ความใจร้อน ใจเย็น เป็นพื้นฐานทางจิตของแต่ละคน เพราะ วาสนา แตกต่างกัน...
ตามหลักจริยา ๖ คนใจร้อนมักจะเป็นคนฉลาด ซึ่งประเด็นนี้คำสอนก็จำแนกไว้ละเอียด ว่างๆ อาตมาค่อยนำมาเล่า....
เจริญพร