blog km4fc กล่าวถึงการทำจดหมายเปิดผนึกของนักวิชาการเพื่อสนับสนุน พรบ. สภาองค์กรชุมชน ซึ่งอาจารย์อนุชาติ พวงสำลี จากมหาวิทยาลัยมหิดลและทีมนักวิชาการได้ให้เหตุผลของการสนับสนุน พรบ.สภาองค์กรชุมชน ดังนี้
"พวกเรามีความเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน ดังกล่าว จะเป็นมาตรการรองรับทางกฎหมายที่มีความสำคัญ ในการส่งเสริมความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชนฐานราก เนื่องจาก
ผมเห็นว่าหลังจากที่ร.5รวบอำนาจเข้าส่วนกลาง เพื่อต้านภัยจักรวรรดินิยมนั้น ชุมชนท้องถิ่นยังไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก (อำนาจส่วนกลางยังลงมาไม่ถึงท้องถิ่น) ปัจจัยเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนท้องถิ่นอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐส่วนกลางคือ
1)ปฏิวัติ2475เริ่มระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง เกิดกลไกรัฐราชการ
2)เริ่มศักราชแผนพัฒนาฉบับที่1เป็นต้นมา
3)เทคโนโลยี ถนน ไฟฟ้า ปฏิวัติเขียว ฯลฯซึ่งเป็นกลไกของตลาดที่เชื่อมโยงทุนเข้ากับอำนาจรัฐ
แม้อำนาจจะถ่ายโอนสู่ท้องถิ่นตามพรบ.กระจายอำนาจ แต่ก็ยังอยู่ในวังวนของระบอบการเมืองใหญ่ที่อิงอยู่กับอำนาจรัฐจากส่วนกลาง
พรบ.สภาองค์กรชุมชนท้องถิ่นน่าจะเป็นกฏหมายที่ย้ายน้ำหนักกลับมาอยู่ที่ชุมชนท้องถิ่นโดยขึ้นต่อรัฐส่วนกลางน้อยที่สุด จึงเป็นพรบ.เชิงกระบวนทัศน์หรือการช่วงชิงพื้นที่ นิยามความหมายของการพัฒนาครับ
แม้จะเห็นด้วยกับ การมี พรบ. สภาองค์กรชุมชน แต่ควรฟังความเห็นต่างของฝ่ายต่างๆไว้ด้วยเหมือนกัน เพื่อให้มีข้อมูลรอบด้าน
เรามีตัวอย่างและทฤษฎีว่าด้วย "ความล้มเหลวของตลาด"
เรามีตัวอย่างและทฤษฎีว่าด้วย "ความล้มเหลวของรัฐ"
และ เราก็มีตัวอย่างและข้อเสนอเชิงทฤษฎีว่าด้วย "ความล้มเหลวของชุมชน" เช่นกันค่ะ
ว่างๆ จะเอามาเล่าให้ฟัง
เรียน อาจารย์ ปัทมาวดี ที่เคารพ
อ่านดุแล้ว อยากเข้าไปร่วมฟังร่วมแสดงความคิดเห็นจังครับ เพราะเสื่อมศรัทธากับสภาจัดตั้งอื่น ๆ แต่ทุกอย่างก็มีพัฒนาการของมัน ครับ ขอให้สภาฯ ใหม่อันนี้ราบรื่นทีเถิด
ขอบคุณครับ