“สิ่งนั้นหรือสิ่งนี้ที่จะทำจะสนุกไหมนะ?”คำว่า “สนุก” ในที่นี้หมายความว่า “น่าสนใจหรือไม่”
“น่าค้นหาอะไร”
“ทำแล้วมีความสุขหรือสบายใจหรือเปล่า”
“ผู้ได้รับผลประโยชน์เป็นใคร”
“ทำแล้วจะเป็นงานต่อเนื่องจนได้เห็นผลหรือไม่”
“ทำแล้วเติมเต็มแก่ผู้ขาดแคลนอย่างไร”
“งานที่ทำเอื้อต่อการเข้าถึงทรัพยากรของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสแค่ไหน”
ฯลฯ
คำว่า“สนุก”ที่ใช้อาจเป็นความหมายเฉพาะตัวที่ห่างไกลจากความหมายที่ควรจะเป็นไปมากแต่สำหรับตนเองแล้วหมายความตามที่บอกไปจริงๆจึงทำให้คิดมากเมื่อจะสนุกกับอะไรสักอย่างหนึ่ง
แต่ไม่เพียงแค่นั้นเมื่อคิดว่า “สนุก” และตัดสินใจว่าจะลงมือทำ ก็ใช่ว่าเรื่องจะจบแค่นั้น ยังคิดต่อไปอีกว่า คนอื่นจะสนุกกับเราไหม (หลายเรื่องที่เราทำเพราะคิดว่าควรจะเป็นแต่เราไม่ได้เห็นว่าต้องเป็นจริงๆอย่างนั้น) งานจะได้ตามที่คนเองคาดหวังไหม ทั้งที่กำหนดระดับความคาดหวัง หรือความพอใจไว้แล้วว่า “ดีที่สุดแค่นี้” “ขี้เหร่ที่สุดแค่นี้” เท่านั้นก็คือว่า ได้แล้ว สำหรับตนเอง แต่ทีนี้ ความคาดหวังของคนอื่นล่ะ ไหนจะความคาดหวังตามลายลักษณ์อักษร ไหนจะความคาดหวังที่เป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกอีกล่ะ
เวลาที่มีเหตุการณ์ที่เร้าให้เกิดการคิดวนเวียน คนเข้าใจที่อยู่รอบข้างหลายๆคนมักจะติงว่า “ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้มากเรื่อง ............. วุ่นวาย..........”บ้างก็ว่า “อย่าเอาความคาดหวังของคนอื่นมากดดันตนเอง” บ้างก็แสดงความเข้าใจออกมาด้วยอาการดุๆแกมเบื่อหน่าย(คงเห็นว่าเป็นถี่เกินไป)ว่า “ คิดมาก ทำๆไปเถอะเดี๋ยวก็รู้กัน ถ้า เราสนุกแต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่......ก็จบข่าว(เลิกกัน)!
แต่ถึงจะเป็นคนที่ติดจะชอบคิดอะไรวนๆ แต่ก็รู้จักและเข้าใจตนเองว่าเมื่อเข้าใจสิ่งที่จะทำ เห็นเป้าหมาย เห็นวิธีการ และเห็นแล้วว่าจะสนุกได้หรือเรียกสั้นๆว่าเกิดอาการ “ปิ้ง”ก็จะหาย (ซึ่งทุกคนก็น่าจะเป็นเหมือนกันแหละเน๊าะ)
เมื่อจะเริ่มทำโครงการ “ชวนอ่าหนังสือดี เปิดพื้นที่การเรียนรู้” ก็คิดวนอยู่หลายวันเหมือนกัน ตอนนี้หายดีแล้ว ต่อไปจะทยอยเขียนบันทึกให้อ่านนะคะว่าโครงการนี้จะสนุกอย่างไรบ้าง ?
บันทึกเมื่ออังคารที่10 เมษายน 2550
ไม่มีความเห็น