ตะเรงปรอเต๊ะกัมพูเจีย.......( 6 ) นครวัด-1


ตัวปราสาทนครวัดตั้งตระหง่าน ใหญ่โต สวยงาม ไม่เหมือนที่ไหน อยู่ห่างออกไปข้างหน้า ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้ตื่นใจในสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ !!!

          คราวที่แล้วเราได้ชมความสวยงามของปราสาทบันทายศรีไปแล้ว  เป็นอันว่าช่วงเช้าเราได้ชมมาทั้งหมดสามปราสาท  คือ ปราสาทบายน ปราสาทตาพรหมและปราสาทบันทายศรี ซึ่งน่าประทับใจไปคนละแบบ ช่วงอาหารเที่ยงทานที่ร้านสวัสดีซึ่งเป็นร้านของคนไทย อาหารก็แบบไทยๆ แต่รสชาติแตกต่างไปบ้าง อย่างไรก็ฟาดกันเต็มที่เพราะเดินมาสามปราสาท หมดแรงไปเยอะ ร้อนอีกต่างหาก แต่ก็คุ้มค่านะ 
            
             
          
ช่วงบ่ายมุ่งหน้าสู่ปราสาทอันอลังการที่สุดในบรรดาปราสาทเขมรโบราณนั่นคือ นครวัด ( Angkor Wat )  นครแปลว่าเมือง วัดแปลว่าเจริญ นครวัดสร้างในช่วงปี ค.. 1113-1150 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งของเขมร สำหรับนครธม นั้นสร้างในช่วงปี ค. . 1181-1150   ผู้ค้นพบปราสาทนี้คือชาวฝรั่งเศสชื่อ  อังรี อูโม  ส่วนนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ  อาร์โนลด์ ทอยน์บี้   เป็นเจ้าของประโยคอันโด่งดังไปทั่วโลก ที่ว่า " See Angkor Then die "  ประโยคเขียนแค่ Angkor เท่านั้น ไม่มี Wat ตามมานะ  บางคนไม่รู้คิดว่าเขาเขียนไม่ครบ เลยเติมให้เองซะเลย ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนไป เมื่อได้ชมแล้วก็จะรู้สึกได้ว่าทำไมเขาถึงเขียนประโยคนี้

           ด้านหน้าปราสาทนั้นมีทางเดินกว้างและยาว ปูด้วยหินแผ่นหินก้อนใหญ่ ยกสูงขึ้นมา สองข้างเป็นสระน้ำ ทางเดินนี้ทอดตรงสู่กำแพงใหญ่ที่ล้อมรอบปราสาท และตรงกับประตู ตามลักษณะการสร้างปราสาทเขมร ประตูนี้เรียกว่า โคปุระ  สำหรับนครวัดนี้ โค
ปุระ ใหญ่โตมาก เป็นปราสาทสามยอด มีระเบียงต่อยาวออกไปทั้งสองข้าง เดินต่อกันได้ตลอด ล้อมรอบทั้งสี่ด้านของปราสาท              

           เมื่อผ่านโคปุระชั้นนอกนี้เข้าไปภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้คนส่วนใหญ่ต้องหยุด
นิ่งยืนมอง ด้วยตัวปราสาทนครวัดตั้งตระหง่าน ใหญ่โต สวยงาม ไม่เหมือนที่ไหน อยู่ห่างออกไปข้างหน้า ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้ตื่นใจในสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ !!!  ทางเดินตรงหน้าปูด้วยหินก้อนใหญ่เช่นเดิม กว้าง 10 เมตร ยาว 350 เมตร  ยกระดับสูงขึ้นกว่าทางเดินด้านนอก สองข้างเป็นสระน้ำ ทางเดินประดับด้วยรูปสลักพญานาคและสิงห์สวยงามตลอดสองข้างทาง แต่ปรักหักพังบ้างตามกาลเวลา               

           ทางเดินตรงไปสู่โคปุระของปราสาทชั้นที่หนึ่งซึ่งยกระดับสูงเพิ่มขึ้นอีก
มีภาพสลักนางอัปสราตามผนังหิน ตรงโคปุระนี้มีระเบียงแยกออกสองข้างยาวออกล้อมรอบปราสาททั้งสี่ด้าน ภายในระเบียงเป็นภาพแกะสลักอันอลังการยาวตลอด คงต้องเล่ารายละเอียดในตอนต่อไป ตกลงตอนนี้เราเหยียบย่างเข้าสู่ปราสาทชั้นที่หนึ่งแล้วนะ  ความสวยงามอีกมากมายรอคอยอยู่คราวหน้านะจ๊ะ……

                                

                                  ทางเดินปูด้วยหินด้านนอก กำลังซ่อมแซม 
                                 ทางด้านซ้าย ด้านหน้าคือ โคปุระ ที่จะเข้าสู่
                                 ปราสาทนครวัด 

                               

                                     นักท่องเที่ยวก้าวขึ้นสู่โคปุระด้านนอก
                                     ของปราสาทนครวัด

                                

                                       ภาพด้านข้างของโคปุระ มีทางเดินตรง
                                       ต่อไปยังปราสาทชั้นที่หนึ่ง

                                

                                            ปราสาทนครวัดเมื่อมองตรงจาก
                                            โคปุระด้านนอก

                                      

                                             นางอัปสราที่โคปุระด้านนอก       

                                 

                                          ปราสาทนครวัดมองจากสระน้ำ
                                          ด้านข้าง

หมายเลขบันทึก: 58144เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 12:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท