บันทึกนี้นำมาเขียนท้ายๆ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึกดีๆที่อยากมีให้กับทุกๆที่เราจะกล่าวถึงอย่างจริงใจ ให้กำลังใจ ซึ่งได้ใจเราไปเต็มๆครับ (ส่วนบันทึกความรู้ ผมว่า ปรีดิ์ ได้บันทึกอย่างระเอียด ดีมากๆครับ คลิก==> เก็บเอามาฝาก )
การร่วมงานครั้งนี้ พูดถึงการเตรียมการพวกเราก็ดูไม่ต้องออกแรงเท่าไร เรานำสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว มานำเสนอ มาเอาประสบการณ์จากการทำจริงมาแบ่งปัน แถมยิ่งทีแรกดูจากโปรแกรมของงานยิ่งชิวๆมากในการไปร่วมงานครั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่างานนี้จะไปนั่งเขียนบันทึกระหว่างอยู่ร่วมงานนี้ด้วยซ้ำ แต่การเตรียมการของทางทีมเจ้าภาพ ต้องแต่ก่อนเริ่มงาน และเมื่อมาถึงพิษณุโลกทำให้เราอึ้งและต้องติดเทอร์โบพลังเป็นทวีคูณ
การมาร่วมงานครั้งสำหรับ SCG แล้วเราแบ่งมาทั้งภาคเหนือจากลำปาง ภาคกลางจากสระบุรี และผมนั่งเครื่องบินไป (ดูเอาเปรียบชอบกลนะครับ) การเดินทางมีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับพ่อ(ครูบาสุทธินันท์) มันเป็นอะไรที่ต่อเนื่อง เพราะเราเพิ่งไปร่วมงาน KM ของ มมส. มาทั้งคู่ และก็เดินทางเข้ากรุงเทพพร้อมกัน เพราะพ่อมีประชุม วันที่ 26 ก.ย. และเราก็ตัดสินใจเดินทางไป มน.วันที่ 27 ก.ย. เดิมตัดสินใจไปรอบค่ำ ก่อนหน้านี้ตัดสินใจไปรอบค่ำ แต่ภายหลังมีโปรแกรมสุดวิเศษของ หมอสุธี นำเสนอทำให้เราปรับเป็นเดินทางเช้าวันที่ 27 ก.ย. กันซะเลย และตลอด 3 วัน 2 คืนที่อยู่ที่นี่ ก็มีเรื่องต่างๆที่ได้ใจผมไปมากมาย จะลองไล่ๆ ตามที่จำได้ละกันนะครับ จะค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆละกัน
สำหรับอาจารย์หมอ และทีมงาน สคส. สำหรับผมเองทีแรกก็ยังงง มาเอาผมมาเข้าก๊วนเรื่อง KM นี้ได้อย่างไร แต่ก็มองว่าลองหาเครือข่ายคงที่ทำเรื่องพวกนี้กันว่าเป็นอย่างไร เขาทำอะไรกันบ้าง ทำกันอย่างไร ก็ทำให้รู้ว่ามันหลากหลายจริงๆ มีหลาย model มาก ไม่มีถูกไม่มีผิด เชื่อว่างาน KM แห่งชาติ ครั้งนี้ เราคงได้เห็นความหลากหลาย ให้เลือกshopping กันตามจริตละคร๊าบ!! ในการมา มน.ครั้งนี้ ก็ยังได้มีโอกาสเข้าไปสนทนากับท่าน รมต. ด้วย (กำลังเดินเข้าห้องน้ำพอดี อาจารย์กวักมือเรียก) ก็ด้วยความกรุณาของอาจารย์ครับ ที่เห็นคุณค่าสิ่งที่เราทำ แต่เล่าไปก็ไม่รู้กล้าเป็นเรื่องที่ยิ่งหากในการปฏิบัติอีกหรือเปล่า ครับ
ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้าใจ เอาใจมาร่วมกันจริงๆครับ KM แห่งชาต จองตัวเลยนะครับ และจะสร้างเครือข่ายของในกลุ่มธุรกิจของพวกเราเอง ให้ขยายกว้างกว่านี้อีก จะแสดงให้เห็นถึงพลังเครือข่าย และการทำงานข้ามสายธุรกิจ ที่ร่วมแสดงSynergy กัน
สำหรับครูบา อาจารย์ ทุกท่าน คงต้องกล่าว แต่อาจจะไม่ได้กล่าวได้ครบทุกคนนะครับ (จริงๆแล้วทุกๆคนก็เป็นอาจารย์ซึ่งกันและกัน ละครับ) แต่คนที่ต้องยกขึ้นมากล่าว ก็ต้องยอมให้เขานะ
อันดับแรก ต้องขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง กับ พ่อ(ครูบาสุทธินันท์) ที่รับผมเป็นลูกโทน เอาเข้าก๊วนเฮฮาศาสตร์ กับเขาด้วย ก็อาจจะทำตัวแหกๆ กับเขาบ้าง ก็เป็นความหลากหลายละกันนะครับ งานนี้(และทุกๆงานที่ผมไปร่วมงาน) พ่อมีความตั้งใจมาก คิดถึงกับสิ่งต่างๆที่เราอยากมอบสิ่งดีๆให้ ให้อย่างไร ให้คนรับ เสพเข้าไปอย่างธรรมชาติที่สุด ง่ายที่สุด และมีกลยุทธ์ ก็ดูซิครับ งานนี้ปรับเปลี่ยนโปรแกรมและรูปแบบงาน กันแบบตั้งตัวไม่ทันก็เลย
ท่านต่อมา อาจารย์ JJ ครับ คนนี้จริงๆ ก็ให้เป็นพ่อผมได้อีกคนเลยนะเนี่ย แต่อาจารย์ดูแลผม อย่างกับเพื่อนร่วมงานเลย เอาใจใส่ผมโดยเฉพาะ เรื่องกิน มากเป็นพิเศษ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน งานนี้ก็ไม่พ้น มายั่วเรา เวลาไปหาอะไรรับประทานที่อร่อยๆ มีการโทรมายั่วเราอีก แต่งานนี้อาจารย์ดูเหมือนBatman ไปหน่อยนะครับ ก็ไม่รู้เพราะอะไร เราไม่ค่อยได้เฮฮา กันเท่าไรนัก
คนคนนี้ ไม่พูดถึงไม่ได้ครับ สำหรับอาจารย์วรภัทร์ สำหรับผมกับอาจารย์ อาจจะดูธรรมดา ธรรมชาติ กันแล้ว แต่ก็อยากจะเล่าให้คนอื่นๆได้ฟัง อาจารย์กับผม นอกจากเป็นระหว่างอาจารย์ศิษย์ กันแล้ว ยังมีอีกหลายมิติ เราเป็นพี่เป็นน้อง(อาจารย์เป็นเพื่อนพี่ชายผม) เราเป็นเพื่อนร่วมงาน(ผลักกันเป็นตัวหลักตัวรอง คอยเสริมกัน ผ่านทางกระแสจิต) เราเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสิ่งเรียนรู้ มางานนี้ ภายหลังจบการวางแผนจากห้องเฮฮาศาสตร์แล้ว ผมกับอาจารย์ยังมานั่งวางแผนกันต่อกันอีก ว่าเราจะเตรียมการอย่างไร สุดท้ายก็เป็นอย่างวันงานละครับ
สุดท้าย ก็ต้องขอบคุณบรรดาทุกท่านที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้สร้างโจทย์ให้กับชีวิตผม ทุกๆท่านเป็นครูบาอาจาย์ผมทั้งหมดทั้งสิ้นครับ
ตั้งแต่ทางมหาวิทยาลัย นเรศวร ผู้จัดทุกๆท่านครับ (ไม่ระบุชื่อนะ เดี๋ยวจะตกหล่น) ผมว่าทุกท่านมีความสำคัญ สอดประสานกันได้ดีมากๆครับ จะรู้จักผมหรือไม่ก็ตาม ก็เชื่อว่าบางท่านก็คงไม่รู้จักผม หรอก แต่ก็ให้ความสะดวกสบายทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปขอจิกโน่นจิกนี่ ยืมโน่นยืมนี่ และก็ขอโน่นขอนี่ เกรงใจมากๆครับที่ขนคนมาเยอะมาก ขอห้องพักไปหลายห้อง ก็ไม่รู้จะได้ตามวัตถุประสงค์หรือเปล่านะครับ แต่สำหรับผมแล้ว พวกคุณนายแน่มาก!!! การเอาใจใส่ในทุกๆเรื่อง ทุกๆคนที่มาร่วมงาน ถือว่าเป็นเสน่ห์ งานนี้มากๆเลยครับ คงเหมือนที่ผมบอก ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา (กระซิบ ที่แรกทีมาถึงสถานที่จัด ยังบอกเลยครับรูปแบบห้อง โรงพยาบาล ๆ แต่ก็ด้วยสถานที่นะ ก็จัดในโรงพยาบาล จะให้เป็นโรงภาพยนตร์ ได้อย่างไร นะ) เพราะเราขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณ
<p>Linkบันทึกทั้งหมด ==> </p>
</span></span></span>
ตามมาขอบคุณคุณทวีสินและทีมงานทุกท่านอีกครั้งหนึ่งครับที่กรุณายกทีมใหญ่มาช่วยกัน ทำให้งานมีความหมายและเกิดประโยชน์กับผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก