เมื่อไหร่น้ำจะท่วมโลกเสียที


 Dsc000521+%285%29  Dsc000521+%2824%29

(ภาพการเสนอผลงานที่มันจะอะไรปานนั้น..เอามาจากBlog ครูวุฒิ)

เมื่อวานนี้หลังจากชงเรื่องการศึกษา แล้วแวบหายไปทำอย่างอื่น ไม่ได้เยี่ยมกรายมาใกล้สนามG2K จนกระทั้งตอนเย็นถึงได้มาเปิดอ่าน อ่านแล้วนอนไม่หลับ ต้องลุกขึ้นมาขออนุญาตออกความเห็นเพิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ..พบว่ามีการเตะลูกเข้าโกลแบบพับสนามเล่น ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงกันข้ามรับลูกจนหัวใจช้ำเลือดช้ำหนอง เป็นอย่างที่คุณหมอชอบวิ่งลงความเห็นไว้ ดังที่ยกมาข้างล่างนี้  

  • ครูบาเขี่ยบอลแล้วหายไปเลย  เขาพับสนามเล่น  บุกใหญ่เลย
  • อยากลงเล่นให้อีกฝ่ายน่ะ  แต่ยังไม่ครบทีม
  • คงไม่ต้องแจกใบเหลืองใบแดงกันนะครับ อิอิ

 ปัญหาการศึกษาแก้ไขไม่ได้ข้อแรก เพราะคนไทย หมายถึงผู้ปกครองไม่พูด ประชาชนคนไทยไม่พูด ถ้าวันใดที่คนใช้บริการการศึกษาลุกขึ้นมาบอกรัฐบาลบอกรัฐมนตรี หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกันอย่างเอาจริงเอาจัง อาจจะรวมตัวกันเดินขบวนด้วยก็ได้ถ้ายื่นหนังสือกันมาทั้งประเทศแล้วไม่เป็นผล หรือถ้าเจรจากันดีๆตามขั้นตอนต่างๆไม่ได้รับการแก้ไข เขียนป้ายติดตามสี่แยกในบ้านในเมืองว่า เราไม่ต้องการระบบการศึกษาแบบนี้ ขอให้แก้ไข 1-2-3-4-5 ข้อสอง เขาห้ามเขียนเรื่องการเมือง นักการเมือง พรรคการเมือง จึงละเว้นไว้ฐานเข้าใจ  

บอกไปเลยว่าไม่ไหวแล้ว เสียเงินเสียทองไปมากแล้ว ลูกหลานเรียนจบไปไม่มีงานทำ บัณฑิตไม่มีคุณภาพ ทำงานไม่เป็น เกิดค่านิยมหลงกระดาษมากกว่าที่จะมีความรู้จริง บ้านผมรับสมัครครูสอนภาษาอังกฤษ1ตำแหน่ง มีคนมาสอบพันกว่าคน แล้วยังจะดันทุรังจัดการศึกษาแบบทุนหายกำไรหดอยู่อีกหรือ เลิกบ่นกระจองอแงเสียที ต้องเอาเรื่องนี้ออกมาสู่เวทีสาธารณะ พวกเก่งกฎหมายก็ควรจะทำการฟ้องร้องรัฐบาล ที่ไม่สามารถบริหารการศึกษาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ประเทศนี้ให้ความสำคัญการศึกษาน้อยกว่าเรื่องอื่นตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้วละ  

Dsc000521

(เห็นภาพนี้แล้วสงสารและเวทนาครูเป็นบ้าเลยละครับ ช่างทำกับครูได้ลงคอ)

ครูบาอาจารย์เองก็ควรจะพูดเช่นกัน  ถ้าจะให้จัดการเรียนการสอนดีขึ้น มีมาตรฐานมีคุณภาพ รัฐบาลต้องจัดอะไรให้สถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาให้พร้อมมูลกว่านี้ เช่น จำนวนครูที่เพียงพอ ครูได้สอนตรงตามวุฒิที่เรียนมา อุปกรณ์ สื่อต่างๆ ห้องเรียน สวัสดิ์การครู จัดให้ครูได้รับการฝึกอบรมทักษะใหม่ๆ เลิกวิธีให้ทำผลงานโหลๆ ต้องทิ้งเด็กไปเสียเวลากับการล่าวิทยฐานะปลอมๆ (เป็นประเทศที่ครูมีแผนการสอนมากที่สุดในโลก) อะไรที่จำเป็นต่อการอำนวยการเรียนการสอน คุณครูไล่เลียงลงไปตามลำดับ ใช้เหตุผลอธิบายว่าถ้ารัฐฯจัดระบบการศึกษาแบบชักหน้าไม่ถึงหลังอย่างที่เป็นอยู่นี้ คุณครูไม่สามารถสอนให้เด็กเป็นคนดีได้ ถ้าไม่เชื่อ..รัฐมนตรี หรือนักบริหารการศึกษาที่อยู่ในกระทรวงมาสอนให้ดูสักเทอมก็ได้นะ 

 บางคนก็บอกว่ายากที่จะงัดปากให้คนไทยพูด วัฒนธรรมไทยจะไม่ชนอะไรตรงๆ ชอบแอบบ่นอุบอิบข้างหลัง บางคนก็มองว่าธุระไม่ใช่ หาทางแก้ไขไปตามศักยภาพของแต่ละคน ระบบการศึกษาไทยจึงตลกอยู่อย่างนี้ บางทีปัญหาแบบล้างบาง เช่นการแก้ไขนโยบายหรือกฎหมาย หรือแก้ไขระบบอะไรใหม่ๆ  เขาจะอาศัยช่วงที่เกิดวิฤติของชาติ เช่น การแพ้สงครามโลกของเยอรมัน หรือญี่ปุ่น ทำให้คนในชาติหันมามองปัญหาส่วนรวม ระดมสมองจะสะสางกวาดล้างขยะทั้งหลายลงตะกร้า แล้วลงมือยกร่างระเบียบใหม่ๆที่สามารถสร้างความก้าวหน้านำมาปฏิบัติ เป็นการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส  

แต่ดูๆแล้ววิกฤติที่ว่านี้ไม่รู้จะเกิดกับประเทศไทยตอนไหน เพราะไม่มีน้ำยาที่จะไปหาเรื่องใคร พม่า ญวน เขาก็เลิกรบกับเราแล้ว สิงค์โปร เกาหลี ฮ่องกง เขาไปโลดแล้ว มีแต่Thailand นี่แหละ ที่งมโข่งไปไม่ถึงไหน ลูกหลานไทยตกอยู่ในอาการโคม่า ครูไทยหัวใจบูดอยากจะเออรี่ฯวันละ3เวลาหลังอาหาร ระบบการศึกษาเน่าแล้วเน่าอีก    

อ่านที่ท่านทั้งหลายลงความเห็นกันมา  อย่างเช่นธุรกิจการศึกษาอะไรนั่น ก็มีส่วนถูกแต่มันเป็นหมายเหตุปลายแถว ไม่ว่ากันหรอกถ้าทำธุรกิจแล้วมันเป็นผลดีต่อส่วนรวมบ้าง กำไรเท่าไหร่ก็เอาไป อย่างน้อยก็คงจะถูกกว่าขนเงินออกไปเรียนนอกประเทศ อยากให้จัดการศึกษาในประเทศนี่แหละ ทำเป็นตัวอย่างจริงๆอย่างเต็มที่ เรียนไม่ดี เรียนไม่เต็มที่ ห้ามจบ!! อย่าซูเอี๋ยกัน ตรงไปตรงมาอย่างนี้แหละ อาจจะยากเย็นแสนเข็ญในตอนแรก ต่อเมื่อความจริงปรากฏเป็นที่ยอมรับ คนไทยก็จะหลั่งไหลมาเรียนเอง ประเทศนี้ต้องการมหาวิทยาลัยที่สอนจริงๆเป็นตัวอย่างสักแห่งหนึ่ง ถ้าเกิดขึ้นไม่ได้  ก็คงต้องรอให้น้ำท่วมโลกโน่นแหละ ช้าหรือเร็วก็ต้องไปถามคนไร้กรอบ โน่น

หมายเลขบันทึก: 128599เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2007 01:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีครับท่านครู

สบายดีไหมครับ ผมอยากให้น้ำท่วมใจมากกว่า จะได้กลายเป็นน้ำใจครับ...น้ำท่วมใจไว้ซักพัก ก็อาจจะกลายเป็นการดองใจ น้ำที่ใช้ในการดองนั้น อาจจะเรียกว่าน้ำใจ  เผื่อเอาไปใช้รดการศึกษาให้เจริญงอกงามฟื้นกันต่อไปครับ

สิ่งที่ผมเห็นกองหนังสือนั้น ผมคิดถึงต้นไม้ก่อนเลยครับ

แล้วก็เกิดคำถามต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์จากต้นไม้เหล่านี้ จะไปวางไว้ที่ไหน....ในลำดับต่อไป....

ขอบพระคุณมากครับ 

สวัสดียามเช้าค่ะครูบาฯ...ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

  • ดีใจ สุขใจ ที่ท่านพูดเรื่องนี้  เพราะคนไทยไม่พูด  หรือที่พูดก็ไม่เข้าเรื่อง  พูดเอาประโยชน์ใส่ตน  วันนี้ ที่โรงเรียนที่ครูอ้อยสอนจะมีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนประจำปีการศึกษา...ก็จะมีการพูดอย่างที่ครูอ้อยกล่าวไปแล้ว  ...จะมีหรือเปล่าที่จะลุกขึ้นพูดแบบ...ที่ครูบาฯเสนอ...เรื่องจริง
  • ภาพที่ครูวุฒินำมาลง  นั้นเกิดขึ้นจากความกลัวของครูผู้รับการประเมินในส่วนหนึ่ง  และส่วนที่ครูอ้อยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง...ไม่ได้หมายความว่าจะมีเอกสารมากมายออกมาโชว์แบบโชว์กึ๋นแบบนี้เลย...ครูอ้อยมีหลักเกณฑ์ของการจะเป็น....ครูชำนาญการพิเศษ  โดยไม่ต้องมี...อะไรมากมายดังภาพ
  • น้ำไม่ท่วมโลกหรอกค่ะ  น้ำมันท่วมเอ่อใจ  และความรู้สึกถึงครูทุกคน  ที่ยังลอยคอ  การกำหนดคุณภาพ หรือศักยภาพของครู  ได้เปลี่ยนแปลงแล้วเล่าเฝ้าแต่เปลี่ยน...ไม่พอดี  ไม่ลงตัวสักที  จึงต้องหวังเอกสาร  ด้วยความกลัวน่ะค่ะ..จึงได้มากมายแบบนี้  ความที่กลัวจะพลาดในสิ่งที่หวัง...ครูก็เป็นปุถุชนที่มีความทะยานอยากนะคะ.....
  • เพราะอะไร  สาเหตุอะไร  มันประกอบไปด้วยเหตุหลายอย่าง  ที่สำคัญคือ..การไม่เห็นด้วยว่า..ครูคือคนสำคัญ..ไงล่ะคะ...นอกกครูจะพัฒนาตนเองเพื่อยกระดับ  ..ลองครูอ้อยไม่มีปริญญา  ไม่มีประสบการณ์ด้วยไขว่คว้ามา...ใครล่ะจะมารักและเอ็นดู...ขนาดนี้คือครูอ้อย..ยังเมิน..ไม่มองก็มี..นับประสาอะไรกับ  ครูที่ไม่มีซี  ไม่มีปริญญา  จะอ้าปากได้หรือ..อะไรที่พึ่งได้  ครูก็จะทำ  ครูอ้อยก็เคยทำเอกสารแบบนี้  ทุกวันนี้ ก็ยังไม่ได้ชั่งกิโลขาย  ยังอยู่เต็มตุ้  เพือนๆที่รักความก้าวหน้ามาขอดูก็มากมาย
  • อย่างไรก็ตาม..มีอยู่อย่างหนึ่งที่เป็นธรรมชาติ  คือ  ไม่อยากให้ใครได้ดีมาเทียบตัวเอง..แน่นอน  ..มีจริงค่ะ  พวกผู้บริหารนี่ล่ะตัวดีที่ไม่อยากให้ครูน้อยมามีซีมากกว่าตัว  ทั้งๆที่ซีไม่มีแล้วก็ตาม  การพัฒนาตนเองนี่ล่ะ  จึงได้ยากเย็น และทุกที...ขึ้นทุกที
  • น้ำไม่ท่วมโลกหรอกค่ะ  แต่ท่วมใจ  ครูอย่างน้อย ก็ ครูอ้อยคนหนึ่งล่ะค่ะ

คิดถึงเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะพ่อครูฯ

    ทุกวันนี้ ครูหลาย ๆ คน อยู่แบบน้ำท่วมปาก อยากพูด ก็พูดไม่ได้  เขาให้ทำอะไรก็ทำ

       ครูที่โรงเรียนลูกสาว  ทำทุกอย่างตั้งแต่ภารโรง ยันครู

      ไหนจะต้องมานั่งเสียเวลา ทำเอกสาร ประเมินโน่น ประเมินนี่  แทนที่จะเอาเวลามานั่งคิด นั่งหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสอนเด็ก ๆ แทนที่จะให้อ่าน ให้เรียนเฉพาะในตำรา

  • ไปเยี่ยม blog ท่านครูบาแล้วทำให้นอนไม่หลับ  ข้าน้อยสมควรตาย...                 

          

  • เป็นคนพูดไม่เข้าหูคนน่ะครับ
  • ที่ไม่ค่อยอยากยุ่งวงการอื่นมากเพราะที่เกี่ยวข้องอยู่โดยตรงก็เต็มกลืนแล้ว   เรื่องของท้องถิ่น  ขยะ  สุขภาพ  ( พูดไม่เข้าหูพรรคพวกเลย )
  • เหลือคุณครูไว้คุยเล่นกันมั่ง อิอิ
  • ไปสตึกวันที่ 22 ก.ย. นี้  จะเป็นผู้ฟังที่ดี ( กลัวไม่ได้กินข้าว ไม่มีที่นอน อิอิ )
  • เห็นด้วยกับครู P รัตติยา เขียวแป้น
  • เห็นด้วยกับครู P  สิริพร กุ่ยกระโทก
  • เห็นด้วยกับครู P เม้ง สมพร ช่วยอารีย์
  • ผมเห็นครูที่ดงหลวงพยายามทำอะไรอะไรหลายอย่างแต่เหมือนแบกภาระมากเกินกว่าจะทุ่มเทงานสอน
  • อเมริกาเขาแพ้สงครามเวียตนาม เขารีบส่งนักสังคมวิทยา มานุษยวิทยาเข้าไปศึกษาเลยว่า ทำไม ?
  • ครูเล็กๆที่ปลายทุ่งแม้จะพูด ก็ตกแค่คันนานั่นเอง ไปไม่ถึงศูนย์กลาง อาจจะไปถึงบ้าง ก็กลายเป็น เสียงนกกระจิบเสียงนกกระจอกไป ไม่ใช่เสียงครูที่แบกภาระล้นอกที่มีตัวตน
  • ด้วยความเคารพครับ
  • คนในวงการการศึกษารีบพัฒนาการศึกษานะครับ ( ปฏิรูป )
  • ไม่อยากให้ท่านครูบาต้องโพกหัวออกมานำการปฏิวัติ ( การศึกษา )
  • โปรดฟังอีกครั้ง  555 

P

ดีใจหลายที่จะได้ต้อนลับ ท่าน

เอาแบบสบายๆเหมือนคนรู้ใจมาเจอกัน

จะเติมฝันให้เฟื่องกลับไปเมืองพิษณุโลกเลยเชียว

..เรื่องสังคม ไปป่วนยาก ทำเรื่องของเราเอง สร้างโลกเราเอง อยากทำอะไรก็ทดๆๆๆลองๆๆๆสนุกไปวันๆ เรื่องใหญ่ๆนั่งมองไกลๆห่างๆ เว้นแต่วันไหนร้อนวิชาขึ้นมา  ก็แวบไปหาให้เขามั่นใส้บ้าง จะได้มานอนยิ้ม อิอิ

 

ผมชอบมากๆ เลย ที่ ใครสักคน  เคยบอกว่า

ภ้าเรา ยกเลิก การศึกษาในระบบทิ้ง ไปให้หมด   การศึกษาไทยเจริญเติบโตแน่นอน

 

เห็นภาพแบบนี้   ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น กับ การบริหารการศึกษา ทั้งโลก ?     ผู้บริหาร โง่ แกล้งโง่  หรือ แสบ !!!

 

P

ไม่รู้จะทำยังไง  ถ้าครูเห็นว่าไม่ดีไม่เหมาะ ก้ไม่พูดออกไปดังๆ  เขียนจดหมายไปถึงเจ้ากระทรวงบ้าง ลงหนังสือพิมพ์บ้าง ทำบัญชีหางว่าวบ้าง

จะไห้พวกบ้าอำนาจ เห็นว่าการออกกฏเกณฑ์ที่ตลกๆมาให้ครูทำนั้น มันไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง ยิ่งครูเสี่ยงตายทางใต้ด้วยแล้วยิ่งน่าคิด..

สงสัยว่าจะหาเด็กมาเรียนแบบใหม่ลองดู  จะมีเด็กที่มีใจอยากจะเรียนเพื่อให้มีความรู้จริงๆไหมนี่

บันทึกของท่านครูบาฉบับนี้รู้สึกเหมือนได้ยาแรง แต่ขม (ขื่น) รู้สึกอะไรหลาย ๆ อย่าง

  • ในระดับมหาลัยก็มีการประเมิน ทั้งภายในและภายนอก ต้องทำกิจกรรม ทำตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ถึงจะได้คะแนน บางภาควิชา บางคณะ บางมหาลัยต้องการได้คะแนนดี ๆ บางครั้งก็ต้องมีการผลักดัน(หรือสร้างข้อมูลเพื่อตอบสนอง)
  • มีมุมมองที่มองระบบการศึกษาเป็นฐานอำนาจ ฐานเสียง
  • มีมุมมองที่มองมหาลัยหรือโรงเรียนเป็นธุรกิจ การค้า
  • และอื่น ๆ อีกมากมาย  แล้วเมื่อไรจะดีล่ะครับท่าน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท