ซันซัน
นางสาว ทานตะวัน สุรเดชาสกุล

รัก...ปฏิบัติการตามหารักแท้ ตอนที่ 2


ความรักแท้เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ รอบตัวเรา (Love is all around) ลองสำรวจรอบตัวเราสิคะเราจะพบว่ามีความรัก ความปรารถนาดี กับเราในแบบต่างๆๆ และที่สำคัญที่สุดๆๆๆๆ เลย ....จากตัวเราเองไงคะ

สวัสดีค่ะ

ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ

รัก...ปฏิบัติการตามหารักแท้ ตอนที่ 1

มาถึงปฏิบัติการตามหารักแท้ตอนที่ 2 ค่ะ

 

อันที่จริงรักแท้ ถือเป็น รักในอุดมคติ

ดังนั้นไม่ได้เจอกันง่ายๆ หรอกค่ะ ในชีวิตจริง

ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิต เหมือนกันค่ะ

เพราะในบางครั้งบางคนก็เจอซะอย่างนั้นโดยไม่ได้ตั้งตัวเลยก็มี

ขณะที่บางคนหามาทั้งชีวิตยังไม่เจอก็มี

ดังนั้นวันนี้ยังไม่เจอ ก็ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้จะไม่เจอ

หรือ แม้ว่าวันนี้คุณยังไม่ได้รักเขาแบบรักแท้

ก็ไม่แน่วันนึงคุณอาจจะรักเขาแบบรักแท้ๆก็ได้

หรือ ถ้าวันนี้คุณรู้สึกว่ายังไม่ได้รับรักแท้จากเขา

ก็ไม่แน่ว่าวันนึง คุณอาจจะได้รับรักแท้จากเขาก็ได้ค่ะ

เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้ว 

 

รักแท้ไม่จำกัดแค่เรื่องแฟนนะคะ

รักแบบอื่นๆๆ เช่น จากพ่อแม่ จากญาติ พี่น้อง เพื่อนๆๆ ครูบาอาจารย์ เพื่อนร่วมงาน

ก็เกิดรักแท้ในแบบที่เหมาะกับสถานะนั้นๆๆได้ค่ะ

มีเหมือนกันที่หลายคนหลายคู่ ตอนเป็นคู่รัก

กลับรักกันแบบมีเงื่อนไข

เต็มไปด้วยความคาดหวังเยอะแยะไปหมด

อยากได้นู่นได้นี่จากเขา ร้อนรน พาลจะโกรธๆเกลียดๆกันเปล่าๆๆ

แต่พอห่างกัน หรือ เลิกรักกันแบบแฟน
มารักกันแบบเพื่อนแบบคนรู้จักที่ดีต่อกัน

ก็เปลี่ยน เป็นความรักที่ไร้เงื่อนไขได้

เป็นรักแท้ที่อยากเห็นเขามีความสุข เราก็สุขใจแล้ว

โดยไม่หวังผลตอบแทน ได้เหมือนกันค่ะ

 

ดังนั้น ความรักแท้เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ รอบตัวเรา เหมือนที่ว่า

Love is all around จริงนะคะ

ลองสำรวจรอบตัวเราสิคะ
 เราจะพบว่ามีความรัก ความปรารถนาดี กับเราในแบบต่างๆๆ

เช่น จากพ่อแม่  จากญาติพี่น้อง จากแฟนจากเพื่อน จากผู้ร่วมงาน

และ คนอื่นๆที่เข้ามาในชีวิต

และที่สำคัญที่สุดๆๆๆๆ เลย ....จากตัวเราเองไงคะ

 

แต่ปัญหาของเราโดยเฉพาะในวัยหนุ่มสาว

มักจะเพ่งไปที่เรื่องแฟนอย่างเดียว

ดังนั้นพอไม่สมหวังเรื่องรัก(แบบแฟน)

ก็มักจะมองว่าตัวเองไม่มีใครรัก ตัวเองไร้ค่า บ้างล่ะ

ซึ่งที่จริงแล้ว

กำลังมองข้ามความรักที่ไร้เงื่อนไข ที่มีรอบตัวเราเต็มไปหมด

ขอย้ำอีกครั้งไม่จำเป็นต้องมาจากแฟนค่ะ

 

และอย่างมีบอกเพื่อนๆๆ ไว้น่ะค่ะ

ที่ว่าจะ เฉลยว่ารักแท้ ที่ว่าอยู่ใกล้ๆนั้น อยู่หนใด?

ขอเฉลยว่า อยู่ที่..............ตัวเราเองไงคะ ^+^

ถ้าเรารักตัวเอง อย่าง มีรักแท้ๆ รักที่บริสุทธิ์ให้กับตัวเอง

คล้ายดั่งมี พรหมวิหาร 4 ให้กับตัวเองนั้น

เรากำลังมอบของขวัญอันล้ำค่า อันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองค่ะ

และ ตัวเราผู้ได้รับของขวัญล้ำค่านี้

จะได้พบรักที่ยิ่งใหญ่ งดงาม และ อ่อนโยนนั้นได้

โดยไม่ต้องทุกข์ ทรมาน รอคอยจากผู้อื่นค่ะ  

นั่นคือ การมีความรู้สึกดีๆ 4 อย่าง (The four aspects of love) ให้กับตัวเราเองค่ะ

คือ
 

อยากเห็นตัวเองมีความสุข (Loving-kindness to myself)

อยากให้ตนเองพ้นทุกข์ (Compassion to myself)

สามารถชื่นชมยินดีกับตัวเองเมื่อมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับตัวเอง

(Joy to myself)

และ ให้อิสระแก่ตัวเองไม่ยึดติดนู่นยึดติดนี่มากเกินไป

(Freedom to myself)

 

ซึ่งทั้ง 4 ข้อที่เราให้ความรักกับตัวเอง

ควรมีลักษณะใช้ "ปัญญา" กำกับค่ะ

ความรักที่เราให้ตัวเองนั้นจึงจะผลิดอก

เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความงดงามในตัวเราค่ะ

 

เพราะในบางคน เช่น บอกว่ารักตัวเอง อยากให้ตัวเองมีความสุข

ไร้ความทุกข์ โดยใช้ยาเสพติด เบียดเบียนผู้อื่น

ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ได้ใช้"ปัญญา"ในการกำกับดูแล

ทำให้ความรักตัวเองซึ่งก็เป็นเจตนาดีกับตัวเองนะคะ

แต่การผลิดอกออกผล ไม่ได้ช่วยให้เกิดเมล็ดพันธุ์แห่งความงดงามกับตัวเราค่ะ

และ ที่สำคัญของความรักแท้ คือ การรักและยอมรับตัวเองแบบไร้เงื่อนไข

ทำได้รับรองแจ่มค่ะ

อย่างที่บอกค่ะ พอเริ่มอ่านหนังสือ

จึงได้เริ่มค้นพบว่า ความรักแท้ที่เราถวิลหามานาน

แท้จริงคือ ได้มาจากตัวเรา ที่จะเติมให้ตัวเอง ค่ะ

คนมักบอกว่า อยากมีแฟน คู่รัก เพื่อมีคนมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของเรา

ที่จริง ไม่มีใครเติมเต็มใครได้ทั้งหมดหรอกค่ะ

และ การที่เรารอใครมาเติมเต็ม เราก็จะทุกข์ทรมานได้

ที่จริงแล้ว เราเติมความรัก ความปรารถนาดีให้ตัวเราได้ค่ะ

 

 มีคนบอกว่า ความรักคือการแบ่งปัน (sharing) ทุกสิ่งทุกอย่างต่อกัน


ดังนั้นเมื่อเราเต็มแล้ว การมีคู่จะดีขึ้น

เพราะ เรามีอะไรในตัวเราที่เต็มๆๆพอจะไป แบ่งปันกับเขา (share)

แต่ถ้าเรามีแต่ใจพร่องๆๆ แล้วจะเอาอะไรไปแบ่งปันกับเขาล่ะค่ะ

หรือ ไม่ก็จะหวังจะเอานู่นนี่จากเขาเพื่อมาเติมให้เราหายพร่อง

และนั่นค่ะคือ ที่มาของการรักแบบมีเงื่อนไข คาดหวังนู่นนี่ให้ตัวเองได้ก่อน

จึงกลายเป็นรักแบบเห็นแก่ตัวเองและ กลายเป็นรักเทียมค่ะ 

เพราะเป็นธรรมดาค่ะ ถ้าเรายังไม่เต็ม ยังไม่อิ่ม

เราก็จะพยายามหาอะไรมาเติมเป็นธรรมดา

เพื่อให้เรารู้สึกเต็ม รู้สึกอิ่ม ให้เรารู้สึกมั่นคง

แต่หลายครั้งเราอาจจะรู้สึกได้มาเท่าไหร่

ก็ยังรู้สึกไม่พอสักที ไม่อิ่มสักที

เนื่องเพราะการที่จะรู้สึกเต็ม รู้สึกอิ่ม รู้สึกพอ

ต้องเริ่มจากตัวเราเองที่จะเติมให้กับตัวเอง

การเติมให้กับตัวเองได้ ทำให้เรารู้สึกมั่นคงกว่าค่ะ

ไม่ต้องคอยวิ่งตามหาจากใครๆ ให้เหนื่อย ให้เจ็บปวด

 

ถ้าตัวเราเติมเต็ม จนอิ่มในใจ

เราจะสามารถรักเขาแบบรักแท้ไร้เงื่อนไขได้มากขึ้นค่ะ

รักด้วยใจอยากให้ มากกว่า อยากเอาค่ะ

ยังไงขอให้เพื่อนๆๆ มีความรักที่สวยงามนะคะ 
(ตัวเองด้วยง่ะ อิ อิ) ^+^

แล้วจะมาเล่าต่อ รัก...ปฏิบัติการตามหารักแท้ ตอนที่ 3(ตอนจบค่ะ)

หมายเลขบันทึก: 97835เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2007 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)
  • แบบนี้ต้องตามอ่านต่อแล้วครับ
  • งง ว่าทำไมใช้เวลาหานานมาก
  • สงสัยจะเป็นรักคุด
  • ฮ่าๆๆๆๆ
  • อ่านแล้วรู้สึกซึ้งครับ

 

สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล

ถ้าเรารักตัวเองได้แบบ 4 ข้อ 

พรหมวิหาร 4 (The four aspects of love) คือ
อยากเห็นตัวเองมีความสุข

นั่นคือ มีเมตตากับตัวเอง

อยากให้ตนเองพ้นทุกข์

นั่นคือ มีกรุณากับตัวเอง

สามารถชื่นชมยินดีกับตัวเองเมื่อมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับตัวเอง

นั่นคือ มีมุฑิตาจิตกับตัวเอง

และ ให้อิสระแก่ตัวเองไม่ยึดติดนู่นยึดติดนี่มากเกินไป

นั่นคือ มีอุเบกขากับตัวเอง

ผมขอแลกเปลี่ยนความรู้นิดหนึ่งครับ คือ พรหมวิหารสี่ ไม่ได้แปลว่า รักตัวเอง ๔ แบบ แต่เป็น พรหมคือพระพรหม วิหารคือการรักษา

สรุปว่า  พรหมวิหาร สี่ เป็นธรรมข้อที่ว่าถ้าปฏิบัติได้แล้วพรหมเทพจะมาคุ้มครองครับไม่ใช่เมตตา เท่ากับรักตัวเอง ไม่ใช่ครับ

เมตตา คือการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเมตตา ไม่ใช่ความรักที่มักจะเอนเอียงได้ เช่น เมตตากับผู้ที่ด้อยกว่าหรือคนที่รัก เช่นพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน สามีภรรยา ลูก หลาน

กรุณา คือการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่จำกัดเพศวัยคุณวุฒิ

มุฑิตา คือการปฏิบัติต่อผู้อื่นที่เราไม่รู้จัก หรือรู้จักแต่ไม่สนิทชิดชอบ ด้วยความยินดี เป็นการแสดงมุฑิตาจิตครับ

อุเบกขา คือการปฏิบัติต่อผู้อื่นที่เราไม่รู้จัก ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ หรือเข้าเกี่ยวข้องได้ เมื่อเขาได้ดี เราก็ไม่แสดงอาการ หรือเมื่อเขาตกทุกข์เราก็ไม่ทับถมเขา หรือว่ากระแทกเสียดสี ให้เฉยไว้ เป็นอุเบกขาครับ

ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเพียงแค่นี้ครับ

รัก เอามือจับไม่ได้ คนไม่มีมือ ก็มี รัก ได้

รัก เอาหูฟังไม่ได้ คนหูหนวก ก็มี รัก ได้

รัก เอาตาดูไม่ได้ คนตาบอด ก็มี รัก ได้

.

รัก ไม่ได้เอากายสัมผัส แต่เอา ใจสัมผัส

 คุณ ขจิต ฝอยทอง

ขอบคุณนะคะที่มาติดตามอ่านกันค่ะ

ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ

อย่างวันนี้ยังไม่เจอ พรุ่งนี้อาจเจอโดยไม่รู้ตัวเลยก็ได้ค่ะ

เอาใจช่วยนะคะ

นามสมมติ

ดีใจจังค่ะ ที่ทำให้ซึ้งๆได้ด้วย ^+^

ตัวเองอ่าน รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ

เพราะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกรัก

เป็นความรู้สึกที่งดงาม อ่อนโยน

และ มีพลังอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ใจรู้สึกอิ่มเอมค่ะ

ขอบคุณนะคะ ที่มาติดตามอ่านกันค่ะ

คุณ สมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาล

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆเลยนะคะ

พอทักอย่างนี้ก็จริงนะคะ คำว่า พรหมวิหาร 4 จะแปลอย่างนั้นค่ะ

แต่สำหรับตัวเอง กับ การอ่านหนังสือ True love

ประเด็นเกี่ยวกับการรักแท้นี้ ท่านติช นัท ฮันต์

สื่อถึงการที่เราจะมีรักแท้ให้กับตัวเองได้

เพื่อไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาจากคนอื่น จนเกิดทุกข์ ทรมาน เจ็บปวด เพราะ ผิดหวัง

ประเด็นอาจจะ เป็น 4 ข้อ ที่หมายถึงความรู้สึกรัก ที่เมื่อให้กับตัวเองได้ผู้นั้น จะมีสุขสงบภายใน ไม่ต้องดิ้นรนหาจากคนอื่น โหยหาจากสิ่งภายนอกให้วุ่นวายค่ะ

ดังนั้น เห็นด้วยค่ะ ที่คำว่าพรหมวิหาร 4 เกี่ยวข้องดังที่คุณสมพงศ์ว่าไว้ค่ะ การทำสิ่งดีนี้กับผู้อื่น พรหมเทพคุ้มครอง

สำหรับตัวเอง ขอแสดงความเห็นนะคะว่า

ให้สิ่งดีๆเหล่านี้ ทั้งผู้อื่น และ ตนเองได้ ในแบบสมดุล

น่าจะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดสุข สงบภายใน ได้อย่างมั่นคงค่ะ  

 ขอบคุณมากๆค่ะ

คุณ ตาหยู

ชอบมากๆๆๆเลยค่ะ

ใช่ค่ะ รักสัมผัสได้ด้วยใจค่ะ

ขอบคุณนะคะ ^+^

สวัสดีค่ะ คุณซันซัน

  • ตามมาอ่านอีกแล้ว อิอิอิ
  • เราต้องรักตัวเราเองก่อนสินะคะ ก่อนที่จะไปรักผู้อื่น
  • ถ้าเราไม่รักตัวเราเองแล้ว เราจะไปรักคนอื่นได้ยังไงจริงไหมคะ อุอุอุ
  • ไม่งั้นคงจะกลายเป็นสิ่งที่คุณซันซันเรียกว่า "รักเทียม" น่ะเอง

สวัสดีค่ะคุณหมอซันซัน

เพิ่งได้เวลาตามมาอ่านทีเดียวสองตอนเลย ชอบตรงที่บอกว่าความรักต้องมีปัญญากำกับค่ะ ^ ^  รู้สึกว่า..ใช่เลย..

ขอบคุณนะคะ แล้วจะรออ่านตอนสามค่ะ

ชอบจังเลยครับกับคำว่า ความรักแท้เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ รอบตัวเรา และ  

 ถ้าตัวเราเติมเต็ม จนอิ่มในใจ เราจะสามารถรักเขาแบบรักแท้ไร้เงื่อนไขได้มากขึ้น  เห็นด้วยอย่างยิ่งเลย คนที่ทำได้อย่่างนี้ ผมคิดว่าเขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่อะไรๆ ก็อยากมาอยู่ใกล้ เพื่ออาศัยความร่มเย็น 

กับคำว่า "รัก" ผมรู้สึกว่ามันจะค่อนข้างแคบ และถ้าใช้คำว่า รักแบบไร้เงื่อนไข มันก็ฟังดูเหมือนอยู่ในอุดมคติ  จริงๆ แล้วถ้าจะตีความผมคิดว่าคำว่า "รัก" ในแง่มุมนี้เราคงพยายามเทียบเคียงกับคำว่า "love"  แต่พอมาใช้แล้วมันขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ เหมือนกับคำว่า self-respect ที่มีคนแปลว่า "นับถือตัวเอง" มันก็ใช่อยู่นะ แต่มันทะแม่งๆ ยังไงชอบกล

คำที่ผมคิดว่าเราใช้กันบ่อยและน่าจะใกล้เคียงกับแนวคิดมากกว่า น่าจะเป็นคำว่าเมตตา คือพอพูดถึงคำว่า รัก เราก็มักจะแว๊บไปถึง การได้ครอบครอง การเป็นเจ้าของ  ขณะที่พอพูดถึงคำว่า เมตตา เราก็จะนึกถึง การให้ การช่วยเหลือ  มันคงเป็นเรื่องของรากแนวคิด (? ผมไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนจึงจะตรง) คือไม่ใช่เรื่องของการแปลตรงศัพท์ หรือการขยายความอย่างเดียว แต่การใช้คำมันควรจะเป็นคำที่พอเราได้ยินแล้วเราแว๊บถึงเรื่องอะไร

ในวังวนว่ายเวิ้ง....................วัฏเวียน
ล้าหน่ายกายใจเพียร............ยากพ้น
ทะเลทุกข์ว่ายฝ่าเจียน..........ถึงฝั่ง
แสนยากเข็ญสืบค้น..............ไขว่คว้าหาทาง

เพียรละวางว่างเว้น................ว่างหวัง
ทุกสิ่งไม่จีรัง...........................จุ่งรู้
ชีวิตนั่นเช่นดัง........................ธรรมชาติ
ทุกข์สุดใช้ธรรมสู้...................ดับสิ้นสงบเย็น

โลกนี้เป็นเช่นนั้น....................นั่นเอง
ผลเกิดแต่เหตุเพรง.................พินิจถ้วน
รู้ละบาปกลัวเกรง....................กรรมชั่ว
เหตุแห่งทุกข์นั่นล้วน.............ดับได้ด้วยตน

รักเอย..... ตถตา ตถาคต

ถ้าเราใช้คำว่า "รัก" จะมีคำว่า "อกหัก"

ถ้าใช้คำว่า "เมตตา" ไม่มีคำว่า "อกหัก"

คุณ อ.หนู

ช่ายค่ะ เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนต้องการความรัก

ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ความรักจากตัวเราเอง

เราก็หวังไปอยากได้จากคนอื่นๆมาทดแทนค่ะ

แล้วเราก็จะทุกข์ โหยหา ผิดหวังได้ เพราะ ไม่มีใครเกิดมามีหน้าที่มาให้ความรักเราตลอดเวลาค่ะ

เป็นหน้าที่ของเราที่จะดูแลรับผิดชอบ ความต้องการของตัวเองค่ะ

ตัวเองก็ยังทำได้บ้างไม่ได้บ้างค่ะ ยังแอบเผลอไปอยากได้ความรักจากคนอืนๆบ่อยๆค่ะ อิ อิ

คุณ กมลวัลย์

ที่สุดแล้วการทำทุกสิ่ง ถ้ามี"ปัญญา" กำกับนั้นเป็นผลที่เหมาะสมที่สุดค่ะ เพราะนั่นคือ เรากำลังมีสติค่ะ

ขอบคุณมากๆนะคะ ที่มาติดตามรักแท้กันค่ะ  

สวัสดีค่ะ อาจารย์ มาโนช

เห็นด้วยกับอาจารย์ทุกประการเลยค่ะ

เมตตาก็น่าจะเหมาะนะคะ เพราะ ภาษาอังกฤษ ใช้ Loving-kindness เป็นคำรวมที่หมายถึงการให้ การช่วยเหลือ เกื้อกูลกันค่ะ และ เป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์ดีค่ะ

จริงค่ะ การใช้คำไหน"ควรจะเป็นคำที่พอเราได้ยินแล้วเราแว๊บถึงเรื่องอะไร"

สำคัญนะคะ อย่างที่เรียกว่า โดน ค่ะ

ซึ่งคำนั้นจะเข้าไปอยู่ในใจเราได้โดยไม่ต้องการคำอธิบายเลยค่ะ

ดีใจจังค่ะ ที่อาจารย์มาติดตามรักแท้กันค่ะ

คุณ ปีศาจเดียวดาย

เป็นกลอนที่เตือนสติดีแท้ค่ะ

ที่สุดแล้ว คือ ทางแห่งการหลุดพ้นค่ะ

และ ผู้ที่จะนำพาเราพ้นทุกข์คือ ตัวเราเองค่ะ

ขอบคุณนะคะ ^+^

คุณ อกหัก

เห็นด้วยนะคะ ว่ายังไง เมตตา

ไม่มีการอกหักแน่นอนค่ะ

ส่วน รัก มักมีคำว่าอกหัก เพราะ รักมักแอบมีความคาดหวัง มาด้วยเสมอค่ะ

ขอบคุณนะคะ ^+^

  • ความรักเกิด
  • ในวันที่
  • เกิดความรัก

คุณ นายสายลม

ช่ายเลยค่ะ

และ

ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล

ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์

อิ อิ กำลัง ชอบเพลงนี้ค่ะ

ขอบคุณนะคะ ที่มาติดตามรักแท้กันค่ะ

ชอบครับ ตามมาช้าเพราะว่าวุ่นๆอยู่หลายเรื่อง
    เห็นพูดถึงพรหมวิหาร ๔ กันก็เลยนึกถึง บันทึกนี้ ของตัวเองครับ
    และกลอนที่เขียนไว้นานแล้ว อันนี้ด้วยครับ

                คนมากรัก

    คนหลาย รักสังคมมัก จะติฉิน
เคยได้ยิน มานมนาน เกินขานไข
หญิงรักชาย ชายรักหญิง ต้องจริงใจ
อย่ามัวไป หลงเริงร่า หาคู่ชม

    แท้ความรัก สูงส่งนัก ใช่ความใคร่
ยิ่งแจกจ่าย เท่าไร ยิ่งสุขสม
แบ่งใจรัก เผื่อแผ่ไป ให้สังคม
น่านิยม หรือตำหนิ ตริตรองดู

    เห็นแก่ตัว มากมาก อยากได้รัก
ยิ่งอยากมาก ก็ยิ่งหนัก น่าอดสู
ทุกทุกอย่าง ต้องเป็นไป ตามใจกออู
แล้วจะรู้ รสรักได้ อย่างไรกัน

    ลองสิลอง คิดใหม่ ด้วยใจว่าง
มองทุกอย่าง ด้วยใจ อย่าไปฝัน
ล้าง บวก-ลบ ชั่ว-ดี ที่ผูกพัน
จะพบวัน เบาสบาย ทั้งกายใจ

    แล้วความรัก อันสูงค่า จะมาสู่
คำว่ากอ สระอู จะเลือนหาย
เห็นทุกอย่าง ตามเป็นจริง ได้มากมาย
พร้อมแจกจ่าย แบ่งรักไป ให้ทุกคน.

เวลาเราอยากมีรถ ดีดี สักคัน คนแรกที่เรานึกถึงคือ พ่อกับแม่  แต่เวลาที่พ่อ แม่ เราให้รถไว้ใช้  คนแรกที่เรานึกถึงคือ แฟน หรือเพื่อนสนิท จะได้พาไปเที่ยว มีความสุข

เวลาพ่อแม่เราเห็น ร้านอาหารอร่อย ๆ คนแรกที่นึกถึงคือ ลูก ๆ จะได้พาลูก ๆ มากินให้อร่อย  แต่เวลาเราเห็นร้านอาหารหรู ๆ  คนแรกที่เรานึกถึงที่อยากจะพามา คือ แฟน หรือเพื่อนสนิท จะได้ดินเนอร์ อย่าง โรแมนติก

เวลาเราป่วย คนแรกที่รีบเข้ามาดูแลและป่วยกับเราไปด้วย  ก็คือพ่อแม่ ของเราเอง  แต่เวลาที่ แฟนเราป่วย เราอยากเป็นคนแรกที่จะได้ดูแล

เวลา เราทุกข์ เราท้อกับชีวิต  คนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ และทุกข์กับเราที่สุด คือ พ่อกับแม่เรา แต่เวลาที่เรามีความสุข สนุกสนาน เรามักมีความสุข สนุกสนานกับ คนรักและเพื่อน ๆ ของเรา

 

ความรักไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อไรนะครับ

            เมื่อมีชีวิตเกิดขึ้นแล้วหรือไม่

           หรือมีอยู่แล้วในโลกก่อนมีชีวิตเกิดขึ้นซะอีก

           พระเจ้าประทานมาให้

           หรือเราสถาปนามันขึ้นมาเองต่างหาก

           ....................................

            ความรักไม่ใช่การแสดงออกหรือความรู้สึก

            เพราะมันประกอบอยู่ทุกความเป็นมนุษย์

            ทุกคนมีความรักอยู่ในสำนึก

            ทำไมเรารัก ท้องฟ้า ต้นไม้ แม่น้ำ รวมทั้งโลก

            ไม่ใช่ความรู้สึก  แต่เป็นส่วนความรักที่มโนสำนึกบ่งบอกความเป็นผู้คนตลอดเวลา

             หากเราขาดความรักเมื่อไร หากต้นไม้ แม่น้ำ ท้องฟ้า ไม่มีความรัก  เราและโลกจะสลายไปไม่มีทุกสิ่ง

              .........................

สวัสดีครับ
Pซันซัน   ผมได้คัดเอาบทความดีๆต่างๆไปรวมในที่ดีๆครับ   ขออนุญาตินะครับ  ขอบคุณครับ  http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502

คุณ Handy

กลอนคนมากรัก ลึกซึ้ง ความหมายดีจังค่ะ

เข้าไปอ่าน พรหมวิหาร 4 ใน บันทึกนี้มาค่ะ

ทำให้เข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นค่ะ

ขอบคุณนะคะ สำหรับกำลังใจ และ แบ่งปันข้อคิดดีๆมาตลอดเลยค่ะ

 

คุณ หมอจิ้น

เห็นจริงๆที่สุดเลยค่ะ

คนที่รักเราที่สุดคือ พ่อแม่ และ เป็นคนที่เราอาจจะลืมนึกถึงได้บ่อยที่สุดเช่นกัน

อ่านแล้วสะท้อนใจเลยค่ะ

นี่คือธรรมชาติของมนุษย์

ขอบคุณนะคะ มาแบ่งปันข้อคิดดีๆกันค่ะ

P

เห็นด้วยนะคะ ว่าความรักเปรียบเหมือนสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตเลยค่ะ ทุกสิ่งล้วนสวยงามและเบิกบานด้วยรัก

ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ

หากเราขาดความรักเมื่อไร หากต้นไม้ แม่น้ำ ท้องฟ้า ไม่มีความรัก  เราและโลกจะสลายไปไม่มีทุกสิ่ง

ขอบคุณนะคะสำหรับการแบ่งปันข้อคิดเรื่องราวดีๆค่ะ

คุณ สิทธิรักษ์

ขอบคุณเช่นกันค่ะ

และดีใจนะคะที่มาติดตามอ่านกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท