ภาพของการออกไปกินอาหารตามร้านหรือภัตตาคาร ยังคงเป็นเรื่องของการเดินเข้าไปในร้าน หาที่นั่งให้เรียบร้อย แล้วรอให้พนักงานมาบริการ เมื่อสั่งอาหารที่ต้องการเสร็จ ก็ต้องรอสักพักใหญ่ก่อนที่จะได้กิน กินเสร็จแล้วต้องรอคิดเงิน จ่ายเงินและรับเงินทอนเงิน
การกินอาหารแบบนี้ ใช้เวลารวมเบ็ดเสร็จมักเกินหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป และไม่เหมาะสำหรับจะไปตอนหิวจัดๆ เหตุเพราะต้องรอ
จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ชีวิตต้องรีบเร่งรวดเร็ว ร้านอาหารก็แปรเปลี่ยนไปด้วย คนรุ่นใหม่ต้องการร้านอาหารที่บริการฉับไว ไม่เสียเวลา คำว่าอาหารจานด่วนหรือ Fast Food จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักกิน
ร้านอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นจานด่วน มีหลักการหนึ่งร่วมกันคือ บริการที่ฉับไวเกิดจากลูกค้าต้องมีส่วนร่วมด้วยการ “บริการตนเอง”
ระดับของการบริการตนเองที่ลูกค้าจะต้องกระทำนั้นแตกต่างกันตามรูปแบบของการจัด ซึ่งที่พบเห็นมาขอแบ่งเป็น 4 กลุ่ม
@ ศูนย์อาหาร ( Food Center ) เป็นที่รวมของร้านอาหารหลายร้านไว้ในที่เดียวกัน โดยมีผู้ดำเนินการบริหารศูนย์อาหารนี้
สิ่งที่ลูกค้าจะต้องบริการตนเองเริ่มจาก นำเงินสดไปแลกเป็นคูปองหรือเครดิตการ์ดในวงเงินที่ต้องการเพื่อจับจ่ายในศูนย์อาหาร
ถ้ามีร้านในดวงใจอยู่แล้วก็ไม่ต้องเสียเวลา ตรงไปที่ร้านนั้นได้เลย ถ้ายังไม่ได้ตัดสินใจก็เดินดูและเลือกร้านที่โดนใจ
จัดการสั่งอาหารที่อยากกิน รอรับอาหาร จ่ายเงิน เติมเครื่องปรุงและหยิบอุปกรณ์ในการกินเอาเอง ถ้าซื้อหลายอย่างก็ใส่ถาดที่มีไว้ให้ ถือมาหาที่นั่งกินเอาเอง กินเสร็จก็ลุกไปได้ทันที ไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน ยกเว้นว่าจะมีคูปองหรือเงินเหลือในการ์ด ก็ไปแลกคืนก่อนจากไป
แบบนี้รวดเร็ว สะดวกสบาย ไม่เหนื่อย ไม่ต้องเสียเวลาทำอาหารเอง ไม่ต้องล้างจาน และมีรายการอาหารให้เลือกกินเยอะแยะไปหมด
@ ร้านอาหารเครือข่าย ( Franchise ) เป็นร้านแบบศิลปินเดี่ยว ขายอาหารเฉพาะอย่างที่เป็นจุดเด่นของตน อาทิ ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า โดนัท ไอศกรีม แต่จะมีร้านภายใต้ชื่อเดียวกันจำนวนมาก ตั้งอยู่กระจัดกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ในทำเลที่ให้ความสะดวกแก่ลูกค้าได้ดี
รายการอาหารในเครือข่ายเดียวกันออกมาเหมือนกันทุกร้าน การตกแต่งร้านก็จะคล้ายๆกัน เห็นที่ไหนเป็นจำได้ว่ายี่ห้อนั้นๆ
สิ่งที่ลูกค้าจะต้องบริการตนเองในร้านแบบนี้ จะถูกใจคนที่ไม่ชอบแลกคูปอง เพราะใช้เงินสดได้เลย ฉะนั้นเดินเข้าไปสั่งอาหารที่ต้องการหน้าเคาเตอร์ จ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วรอรับอาหารที่สั่งไป ได้แล้วก็ยกถาดมาหาที่นั่งเอาเอง เครื่องปรุงและอุปกรณ์การกินมีให้เสร็จ บริการตัวเองตามสบาย
กินเสร็จแล้ว ถ้าเป็นเมืองไทย มักจะลุกไปเลยเพราะชินกับการให้ผู้อื่นบริการ แต่ที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นต้นคิดเจ้าของเครือข่าย ออกแบบไว้ให้ลูกค้าเป็นผู้ยกถาดไปเก็บ โดยเทภาชนะบรรจุอาหารลงถ้งขยะที่เตรียมไว้ให้ แล้ววางถาดซ้อนๆ กันตรงเหนือถังขยะ
ทั้งนี้ก็เพราะของที่จัดให้เป็นประเภท “ใช้แล้วทิ้ง” ภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์การกินจึงทำจากกระดาษหรือพลาสติกสำหรับเมืองไทย คงเห็นว่าทำแบบนั้นสิ้นเปลืองทรัพยากรเกินไป น่าเสียดาย ร้านบางแห่งจึงมีภาชนะซึ่ง “ใช้แล้วไม่ทิ้ง” เพราะค่าแรงคนเก็บคนล้างถูกกว่าตั้งแยะ
ดังนั้นภาพที่คนไทยกินเสร็จแล้วลุกออกจากร้านไปเลยจึงเป็นปกติ แต่คนดีๆก็มี เพราะเคยเห็นหลายคนที่พบว่าของในถาดเป็นพวกใช้แล้วทิ้งทั้งหมด ก็จะเก็บถาดให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้านไป
@ ร้านอาหารแบบคาเฟทีเรีย (Cafeteria) เป็นร้านแบบบริการตนเองที่มีมานานก่อนเพื่อน โดยทั่วไปจะพบในหน่วยงานต่างๆ เช่น สถานศึกษา องค์กรเอกชน ซึ่งต้องให้บริการแก่บุคลากรจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน แต่คาเฟทีเรียที่เปิดเป็นเครือข่ายให้บริการแก่บุคคลทั่วไปก็มีเหมือนกัน
ร้านแบบนี้แตกต่างจากสองแบบแรกตรงที่ มีเส้นทางเดินกำหนดไว้ให้ลูกค้า เริ่มจากทางเข้า ลูกค้าหยิบถาดก่อน จากนั้นก็เดินไปตามทาง ชอบอาหารอันไหนก็หยิบใส่ถาดตัวเอง หรือบอกพนักงานที่ยืนบริการอยู่ช่วยตักให้ ก่อนจะออกจากแถวไปจะมีแคชเชียร์นั่งรออยู่ ยกถาดไปให้ตีราคาแล้วชำระเงินให้เรียบร้อย
จากนั้นก็ยกถาดไปหาที่นั่งกินร้านแบบนี้เวลากินเสร็จ มักจะต้องเก็บถาดเองด้วย โดยทางร้านจะมีตู้ที่ลูกค้าสามารถสอดถาดเข้าไปได้เหมือนเป็นลิ้นชัก ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตู้ไหนที่แต่ละชั้นมีถาดเต็มก็จะมีพนักงานมาเข็นออกไป แต่บางร้านอาจมีพนักงานมาเก็บให้
@ ร้านสะดวกซื้อ ( Convenience Store ) ร้านชนิดนี้ความจริงไม่ใช่ร้านอาหารโดยตรง มีของอุปโภคบริโภคจิปาถะขาย แต่ก็มีอาหารแบบบริการตนเองขายด้วย ส่วนมากจะเป็นอาหารแช่แข็ง ซึ่งเมื่อลูกค้าต้องการก็จะอุ่นให้ด้วยเตาไมโครเวฟ หรือจัดวางไว้ให้ลูกค้าอุ่นเอง จ่ายเงินแล้วจะถือไปกินที่ไหนก็ไม่สนใจ
แต่ร้านที่เน้นให้ลูกค้าบริการตนเอง จะมีมุมหนึ่งจัดเป็นโต๊ะเล็กๆ ไม่มีเก้าอี้ สูงในระดับที่เหมาะสำหรับให้ลูกค้ายืนกินอาหารที่ตนเองอุ่นเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมเครื่องปรุงและอุปกรณ์การกินที่จำเป็นไว้ให้
หากไปกินในร้านแบบนี้ เสร็จแล้วก็ควรเก็บขยะของตนทิ้งให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้านด้วย
ร้านอาหารแบบบริการตนเองทุกประเภทมีข้อปฏิบัติหลักที่สำคัญร่วมกัน
2 ข้อคือ
ข้อหนึ่ง
การเข้าคิว
ผู้ที่มาก่อนจะได้รับบริการก่อน
ฉะนั้นการเข้าแถวถือว่าเป็นมารยาทที่ถูกต้อง
และถ้าพบเห็นการแซงคิวเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ควรช่วยกันตักเตือน
ข้อสอง
ไม่นั่งแช่
ร้านแบบนี้มีไว้เพื่อการกินที่ฉับไว
ไม่ใช่ที่นั่งคุย
นั่งอ่านหนังสือ
กินเสร็จแล้วควรลุกทันที
เพื่อหมุนเปลี่ยนให้ลูกค้าอื่นได้ใช้บริการด้วย
เพราะหลายแห่งมีพื้นที่จำกัด
แม้จะเป็นร้านอาหารแบบบริการตนเอง ก็ใช่ว่าจะทำอะไรๆ ตามใจตนเองได้อย่างอิสระเสรี ธรรมเนียมปฏิบัติก็มีเหมือนกัน
ดังนั้นภาพที่คนไทยกินเสร็จแล้วลุกออกจากร้านไปเลยจึงเป็นปกติ
“แต่คนดีๆก็มี” เพราะเคยเห็นหลายคนที่พบว่าของในถาดเป็นพวกใช้แล้วทิ้งทั้งหมด
ก็จะเก็บถาดให้เรียบร้อยก่อนออกจากร้านไป
สรุปแล้ว คนที่ไม่เก็บไปทิ้ง คือ “คนไม่ดี” หรือเปล่าครับ แฮะๆ