เธอไม่ช่วยฉันก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาซ้ำเติม ฉันอีก


เพื่อนหนูหายหมด ตอนนี้ หนูอยู่คนเดียว ทำไมแม่ต้องเอาเชื้อนี้มาให้หนูด้วย

น้องมาลีเพิ่งเปลี่ยน โรงเรียนค่ะ


คุณแม่บอกว่า ตอนมาสอบ เธอและน้องมาลีลุ้นมากว่า จะได้เข้าโรงเรียนนี้ หรือเปล่า


 กลัวมากๆ ว่า ถ้าคุณครูรู้ แม้แต่นิดเดียวว่าหนูมาลีมีเชื้อ เอชไอ วี   กรรมการโรงเรียนอาจจะคัดชื่อออก


แต่เหตุการณ์ก็ผ่านไปด้วยดี หนูมาลีได้เข้าไปเรียนเทอมนี้ ในโรงเรียนใหม่ อย่างเต็มภาคภูมิความสามารถของเธอ


วันนี้ ทีมเยี่ยมบ้านของเชียงราย แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า หนูมาลี โดนรังเกียจ เพื่อนๆที่เคยมี ที่ไปกินข้าวด้วยกัน ที่เดินไปเรียนด้วยกัน ไม่ยอมไปไหนด้วย แล้ว  หายหมด ตอนนี้ หนูอยู่คนเดียว


 สันนิษฐานว่า  คนในหมู่บ้านที่เขามาเรียนด้วยพร้อมกันซึ่งเคยทราบเพียงคนเดียวในห้องจะเป็นผู้กระจายข่าว


ดิฉันขอพบคุณแม่และน้องเป็นการส่วนตัว


คุณแม่ตาแดง และเล่าต่อหน้าน้อง ว่า น้องมาร้องไห้ และ ต่อว่าที่บ้านว่า ทำไมแม่ต้องเอาเชื้อนี้มาให้หนูด้วย


ฟังแล้ว จุก แน่นในลำคอ ทำไม่ มนุษย์ ด้วยกัน โดยเฉพาะเด็กๆด้วยกันจึงใจร้ายกันเช่นนี้


 แล้วก็ หวนนึกได้ ว่าเด็กๆทำร้ายเพื่อนก็เพราะความกลัวโรคร้าย และไม่ได้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า โรคนี้ไม่ได้ติดต่อโดยการเป็นเพื่อนกัน

อีกประการน้องได้ยา เชื้อเอชไอวีตรวจไม่พบ และภูมิต้านทานเป็นปกติแล้ว น้องมาลีคือ เด็กปกติ คนหนึ่ง เพื่อนๆไม่ทราบเท่านั้น


ดิฉันบอกน้องว่า
คุณแม่คุณ พ่อหนู ไม่ได้ ทราบเรื่องนี้ ตอนมันเริ่มระบาดในประเทศไทย

 เป็นอุบัติเหตุ ที่เกิด ไม่ได้ตั้งใจ
สมัยก่อนผู้ชายแทบทุกคน มีเพศสัมพันธ์ ครั้งแรกกับหญิงที่ไม่ได้คิดว่าจะแต่งงานด้วย  ส่วนมากมีกับหญิงที่ขายบริการ  เป็นอย่างนี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง

เพราะฉะนั้น

ไม่มีใครสักคน  ที่  ออกบ้านไป เพื่อตั้งใจจะไปรับโรคนี้มาแพร่ให้กับคนและครอบครัว ที่ตัวเองรัก 


แต่คนส่วนหนึ่งโชคร้าย ติดโรคมาจากการมีเพศสัมพันธ์นี้ บางโรครักษาได้ บางโรคไม่ได้ อย่างเจ้าเอชไอวีนี่หละ
ไม่ใช่น้อยนะคะคาดว่าประเทศไทยมีเกือบๆ ล้านคน

น้องร้องไห้ ดิฉันนั่งกลั้นน้ำตา และ ส่งกระดาษทิชชู ให้

เธอเช็ดน้ำตาแล้ว ดิฉันบอกน้องว่า

มีวิธีหนึ่งที่เคยฟังเด็กๆรุ่นพี่ของน้องมาลี เล่า ว่าเขาจัดการอย่างไรกับเพื่อนๆที่รังเกียจ


 น้องมาลี  และคุณแม่จ้องเป๋ง  นั่งฟังตั้งใจ

โจทย์ ที่หนูมี มันยากกว่าเด็กทั่วไป ต้องพยายามมากกว่าเด็กคนอื่น 

แต่หนูแก้ได้หนูทำได้แน่นอน


การกินยา และรักษาสุขภาพจนหนูแข็งแรงยากกว่านี้อีก หนูมาลี ยังทำได้มาแล้ว


   ตอนนี้ให้หนูทำหน้าที่ของตนเองดีที่สุด เรียนเต็มที่ มุมานะให้ได้ดี เป็นคนดี ของเพื่อนๆ เป็นคนดีของคุณครู

 และเมื่อมีโอกาส ให้พูดกับคนที่ทำท่ารังเกียจเรา ตรงๆ   บอกเขาเรียบๆ และมั่นคงว่า


เธอไม่ช่วยฉันก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาซ้ำเติม ฉันอีก


เด็กๆ หลายคน เคยนำไปใช้แล้ว ได้ผลดี


หนูลองดูนะ ลองซ้อมกับกระจกก่อน ซ้อมจนมั่นใจ ทำใจให้นิ่ง หน้าให้สงบ

 แล้วพูดโดยไม่ทำท่าโกรธเคือง น้อยใจ


แต่เป็นการเตือนเพื่อน ให้เขารู้ว่า สิ่งที่เขาได้ทำนั่นนะ ไม่ถูกต้องนะ เป็นการแสดงความ ไม่มีเมตตา ไม่มีมุทิตาจิต

และ ใจร้ายมากๆ

หมายเลขบันทึก: 153675เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2007 06:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 16:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ อ.หมอหน่อย

  • รู้สึกว่า น่าเห็นใจมากนะครับ
  • ยังดีที่มีผู้ที่รัก เมตตา  ปรารถนาดี อย่างทีมงานของท่าน ช่วยเยียวยา
  • เชื่อว่าทุกอย่างต้องดีขึ้น  ด้วยกำลังใจ และความเชื่อมั่นที่เธอมีครับ

สวัสดีครับอาจารย์

   มาเยี่ยมครับ...

  รู้สึกเศร้าเหมือนกันครับ

  ผมเคยบันทึกเรื่องไกล้ๆกันครับ..

   แต่เป็นเด็กที่ยังเล็กมาก  คิดแล้วก็เศร้าๆเหมือนกัน

   ตอนนี้ญาติคงนำกลับไปให้พ่อซึ่งก็ป่วยเหมือนกัน(ตอนแรกพ่อนำมาฝากญาติห่างๆที่ปายครับ)

  

    เคยได้ยินปัญหาเรื่องเข้าเรียนเหมือนกันครับ  ผมเห็นน้องคนหนึ่ง11 ขวบ  ย้ายโรงเรียนครั้งหนึ่ง  แต่ไม่ได้ถ่มเหตุผลว่าทำไม  ถ้าพบครั้งหน้าคงต้องลองถามดูบ้างครับ  อาจจะได้ช่วยเหลือเพิ่มเติมถ้าเขามีปัญหา  บางทีเขาก็ไม่บอกเรา  หรือเพราะว่าระบบเรายังไม่ดีก็ได้ครับ

   ฝากให้กำลัใจน้องด้วยครับผม  ถ้าเขาทำได้ถือว่า  เขาจะอยู่ต่อไปด้วยความสุขสบายใจแน่นอนเลยครับ น่าจะเป็นบทเรียนที่ทำให้เขาได้เรียนรู้และอดทน เพราะเขาอาจจะต้องเจอแบบนี้..ไม่วันนี้ก็วันหน้าครับ  เพราะนี่คือสังคมไทย....

   ขอบพระคุณมากๆครับอาจารย์.^_^

สังคมจะดีก็ด้วยการช่วยเหลือกัน
ผมติดตามข่าวสารของอาจารย์อยู่เสมอ และขอเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์ในการช่วยรักษาทั้งกายและจิตสังคมให้แก่เด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ แม้ว่า20 กว่าปีผ่านมาเด็กที่ติดเชื้อก็ยังได้รับผลกระทบจากสังคมรอบข้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเด็กทีติดเชื้อที่เข้าโรงเรียนแม้ไม่มีอาการก็ยังได้รับผลกระทบอยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งที่สังคมไทยจะต้องเข้าไปช่วย ซึ่งทุกครอบครัวไทยก็ทราบดีว่าการติดเชื้อไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่ก็ยังเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อเด็กโดยตรง การสร้างความเข้าใจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ที่สำคัญจะต้องมีความเชื่อมั่นในสื่งที่ถูกต้องด้วย เช่นการแสดงออกของครู เพื่อนบ้าน ญาติ บุคคลากรทางการแพทย์ เพราะถ้าบุคคลเหล่านี้ที่อยู่ใกล้ชิดกับเด็กยังไม่แสดงความเชื่อมั่นแล้ว ก็จะเป็นปัญหาสำหรับเด็กที่ติดเชื้ออย่างที่เห็นในปัจจุบัน ผมเคยเห็นโครงการของอาจารย์มีชัย ที่หาเพื่อนที่ไม่ติดเชื้อมาเป็นเพื่อนสนิทของเด็กที่ติดเชื้อ โดยที่เด็กก็ที่ไม่ติดเชื้อจะต้องเข้าใจเรื่องโรคเอดส์อย่างดีและมีผู้ที่ให้การปรึกษาเด็กอยู่เสมอและพร้อมที่จะช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้กับเพื่อน เช่น เล่นด้วยกัน  กินอาหารด้วยกัน นั่งในห้องเรียนด้วยกัน  สิ่งเหล่านี้จะเป็นการเรียนรู้ของเพื่อนในห้อง และเกิดการยอมรับมากขึ้น แม้จะใช้เวลาก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ  แต่ประการสำคัญในการหาเพื่อนให้กับเด็กที่ติดเชื้อนั้นจะต้องมีการเตรียมความพร้อม  และการช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเด็ก ญาติ ครู ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กที่ติดเชื้อ  เป็นกำลังใจให้กับอาจารย์เสมอและขอบคุณอาจารย์แทนเด็กที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ด้วย

ขอบคุณอาจารย์ ทั้งสามท่าน มาก มากเลยค่ะ

อาจารย์ Handy อาจารย์ สุพัฒน์ และ อาจารย์สังคมฯ

มาช่วยกันนะคะ

อยากให้ ไม่เกิดการซ้ำเติม คนทั้งหลาย เด็กๆ และผู้ใหญ่

แต่สังคมเรายังต้องเดินไปแบบนี้ ยังมีคน ที่ช่วยเหลือกันมากมาย แต่ก็ ยังมีคนที่กลัวโรค จนใจร้ายกับคนโชคร้ายได้

อาจารย์ พัชราพร ที่เชียงรายเธอให้แนวการดูแลเด็กป่วยว่า ว่า เลี้ยง ดูแล ให้เขา เป็นเด็กปกติ

 อย่าให้เป็นแก้วเจียรนัย เพราะเราไม่อยากให้แตกง่าย ถูกทำลายง่าย ทีเดียว ร้าว

ต้องแข็งแกร่งและสวยงาม  ให้เป็นเพชร ค่ะ

 

เคยมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้บ้าง  แต่เป็นผู้ใหญ่ค่ะ  เราก็ดูแลเขาเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้ปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม  เคารพสิทธิของเขา  เพียงแต่บอกเขาว่าให้ระวังตัวเองอย่างไรบ้าง   ในเมื่อเราไม่อยากให้คนอื่นรู้ ก็ต้องป้องกันตัวเราไม่ให้มีการแพร่กระจายออกไป

สำหรับเด็ก มันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ที่ยากจะบอกได้  ขอเอาใจช่วยคุณหมอ ให้สามารถดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

สังคมต้องให้อภัยซึ่งกันและกันครับ

ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้หรอกครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับอาจารย์

ขอบคุณค่ะ  น้องกระติก ชอบที่น้องบอกว่า

เราก็ดูแลเขาเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้ปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม  เคารพสิทธิของเขา  เพียงแต่บอกเขาว่าให้ระวังตัวเองอย่างไรบ้าง  

สมบูรณ์ และ พอเพียง แล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท