การทำงานให้ประสบผลสำเร็จ ต้องอาศัยวิธีการหลายๆวิธีผสมผสานกัน หลายกลยุทธ์ว่างั้นเถอะ อย่างโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ ทำเต็มพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ความร่วมไม้ร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีความจำเป็นมาก ราชการก็มีการปรับเปลียนวิธีการทำงาน ภาคส่วนต่างๆก็คิดค้น สร้างเครื่องมือหรือนวัตกรรมขึ้นขับเคลื่อนงานไปสู่เป้าหมาย ภาคประชาสังคมเองนั้นก็มีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก
วันที่ 11 ธ.ค. ภาคประชาสังคมของจังหวัดนครศรีธรรมราช นำโดยคุณทวี สร้อยศิริสุนทร และน้องพัชนี พนิตอังกูร ได้นัดหมายคนคอเดียวกัน ไปพบปะพูดคุยกัน ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้ ถนนพัฒนาการคูขวาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผมได้รับการติดต่อล่วงหน้าสองวัน พอดีเป็นวันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ ไม่มีธุระที่ไหน ผมจึงได้ไปร่วมพูดคุยด้วย มีคนคอเดียวกันประมาณ 50 คน คละกันมาจากหลายภาคส่วน ชาวบ้านเสียกว่า 90 % มีราชการอย่างผมอยู่ 3 คน คือ ผมเอง น้องวาสนา เจ้าพนักงานปกครองจากสำนักงานปกครองจังหวัด และคุณเกษตร ขุนจันทร์ จากสำนักงานเกษตรกิ่งอำเภอช้างกลาง มีน้องทวี และน้องพัชนี ร่วมกันทำหน้าที่คุณอำนวยครับ
เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์การพูดคุยในวันนั้นมี 3 ประการครับ 1.ทำความเข้าใจทิศทางขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราช 2.ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 3.ค้นหาพื้นที่ศักยภาพการพัฒนาในประเด็นงานต่างๆ
ผมว่าวันนั้นเราคุยกันอย่างไม่เกรงใจใครกันครับ ใส่หมวกใบเดียวกันคือหมวกคนนครฯ พูดกันได้แรงอกครับ (ได้แรงอกศัพท์ใต้คำนี้แปลว่าสะใจ มันส์พะยะคะ) สาระการพูดคุยก็ได้ตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ครับ เช่น จะเชื่อมต่อการพัฒนาภาคประชาชนกับโครงการแก้จนเมืองนครฯนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างไร จะสื่อสารความคิดอ่านของภาคประชาสังคมให้ไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโดยอาศัยช่องทางการสื่อสารใด จะค้นหาพื้นที่ศักยภาพในการพัฒนาประเด็นงานต่างๆได้อย่างไร ค้นหาได้แล้วจะพัฒนาต่อเนื่องด้วยกระบวนการKM อย่างบูรณาการจะต้องทำอย่างไร ซึ่งในที่สุดได้รายชื่อตำบลที่มีศักยภาพ 50 ตำบล กระจายไปตามโซนพื้นที่อำเภอ 5 โซน จะช่วยสร้างเสริมแกนนำหมู่บ้านๆละ 8 คน ให้เป็นคุณอำนวยหมู่บ้านให้ได้จะต้องทำอย่างไร จะนำหน่วยงานตระกูล ส เช่น สกว. สสส. NGO มาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันในพื้นที่จะมีวิธีการอย่างไร จะอาศัยข้อมูลกันและกันระหว่างภาคประชาสังคมกับภาครัฐ เช่น ข้อมูลผลการประเมินหมู่บ้านในระยะเวลาของการดำเนินการโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนครฯซึ่งดำเนินการไปแล้ว 2 ปี โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งจังหวัดเป็นผู้ประเมินเสริมหนุนกันอย่างไร เป็นต้น แต่ละประเด็นมีรายละเอียด แต่ผมจะไม่กล่าวครับ
ในที่สุดที่ประชุมก็เซ็ทองค์กรภาคประชาสังคมขึ้นมาชื่อศูนย์ประสานงานพัฒนาภาคประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งสำนักงานอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 25 ธ.ค. คือวันนัดหมายเวทีแลกเปลี่ยนครั้งต่อไป ประเด็นพูดคุยก็เป็นการสืบเนื่องเรื่องการค้นหาพื้นที่ศักยภาพ 50 ตำบลครับ จะเป็นการออกแบบวิธีการดำเนินงาน ค้นหา / สร้างเครื่องมือที่จะใช้ในการดำเนินงาน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความพยายามของคนคอเดียวกัน ที่จะหาเวทีพูดคุยขับเคลื่อนโครงการจัดการความรู้แก้จนเมืองนครฯให้มีพลังทวีคูณขึ้นครับ เวทีหน้าเป็นอย่างไร ผมจะได้มาเล่าต่อนะครับ
ผมมีภาพบรรยากาศการพูดคุยมาฝากครับ
<h5 style="text-align: center"> ผู้เข้าร่วมเสวนามาจากหลากหลายกลุ่ม </h5><div style="text-align: center"></div><div style="text-align: center"></div><h5 style="text-align: center">คุณทวี สร้อยศิริสุนทร และคุณพัชนี พนิตอังกูร</h5><h5 style="text-align: center">(ชาย - หญิง นั่งใกล้กัน) ทำหน้าที่คุณอำนวย</h5><p align="center"></p><p align="center"></p><h5 align="center">คุณเสถียร รัตนโชติ (เสื้อเหลือง)</h5><h5 align="center">อดีตรองอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ แกนนำคนสำคัญ</h5><p align="center"></p><p align="center"></p>
เรียนท่านพี่นง
ฅน คอเดียว ร่วมเกี่ยวก้อย
ร้อยสังคม ระดมปัญญา
มุ่งหาหนทาง วางฐานต่อยอด
อยู่รอดเมืองไทย
ห่างไกลอวิชชา
สุดยอด
"เติ้นเก๋งฆาต"
อยากเห็นบ่อยๆ ท่านเป็นพลังของคนใต้จริงๆครับ
ขอชื่นชม ฉาดเติ้น หร๋อยจังหู๋ ครับ
จังเสี้ย
หร๋อยบ่าเติ้น
อ.หมอ JJ ดร.แสวง และน้องสิงห์ป่าสัก
ต้องขยันเดินใต้ดินมากๆหน่อยเท่านั้นเอง มันจะได้เข้าถึงตัวคนทำงานจริงๆ อุดจุดอ่อน KM ภาคราชการที่ค่อนข้างแข็งตัว คับขยับยาก ท่านทั้งสามจะแนะนำอย่างไรประการใด ยินดีเป็นที่สุดเลยครับ รออยู่ครับ
ขอบคุณครับ
ยกนิ้วโป้งให้ 10 นิ้วเลยค่ะ
คุณหมอนนทลี แห่งเพื่อนร่วมทาง
แสดงว่าคุณหมอก็เห็นด้วยกับการทำงานแบบบนดินกับการทำงานใต้ดิน และทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการควบคู่กัน ใช่ไหมครับ งานจึงจะไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
ขอบคุณที่เข้ามาเติมกำลังใจให้ครับ
น้องพัชนี แห่ง พอช.
ดีใจที่น้องพัชนีเข้ามาทิ้งความเห็นไว้ ไม่ทราบว่าวันที่ 25 นี้ เราจะร่วมกันพูดคุย เรียนรู้อะไรกันบ้างเอ่ย พี่ว่าน่าจะเอากระดาษปรู๊ฟทุกแผ่นที่บันทึกไว้เมื่อคราวที่แล้ว มาทบทวนพร้อมกันไปทีละแผ่น คนเก่า คนใหม่จะได้เข้าใจไปด้วยกัน และให้ผู้ที่รับการบ้านไปทำแต่ละข้อ เช่น ชักชวนคนคอเดียวกันมาเพิ่ม ในแต่ละหมู่บ้าน ตำบลได้ใครเข้ามาบ้าง อย่างพี่ก็ได้คนคอเดียวกันจาก สสจ.นครศรีฯมาเพิ่มอีก 2 คน รายงานและแลกเปลี่ยนกัน จากนั้นก็กำหนดเรื่องที่จะพูดคุยร่วมกัน หยิบยกประเด็นพูดคุยกันสดๆ อย่างอิสระ ปลายเปิดไว้เลย หรือจะมีกรอบกว้างๆ หารือกันก่อนนอกรอบ คุยกันก่อนกับทีมงานบางคนก็ได้ นัด อ.ภีม ด้วยก็จะดี ไม่ต้องมีพิธีการมากนักเหมือนคราวที่แล้วพี่ว่าดีแล้ว หรือน้องคิดไว้ในใจอย่างไร...ขอบคุณมาก ....เออ! อย่าลืมประสานน้องวาสนา (ปลัดวาสนา) จาก สนง.ปกครองจังหวัด นำผลการประเมินหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงมาด้วย