ความประทับใจในการทำงานที่ศูนย์เปลรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
คุณสุวรรณ หัวหน้าศูนย์เปล
เริ่มเล่า ประวัติศาสตร์ ทวนความหลังไปยาว แต่วัยเด็ก ว่า พ่อผมทำงานโฮงยาไทมาก่อน ผมตามพ่อมาอยู่แถวโรงพยาบาลมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกเหมือนว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล
ในสมัยก่อนการทำงานเป็นแบบเอื้ออาทรเพราะมีเจ้าหน้าที่น้อย ตอนเข้ามาทำงานใหม่ ผมทำหน้าที่ผู้ช่วยเหลือคนไข้ ตอนหลัง ได้มีโอกาสเรียนเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง จนได้เป็นพยาบาลเทคนิค เมื่อก่อนเวรเปลไม่มีหัวหน้า ขึ้นตรงกับหัวหน้าพยาบาล OPD ป้าไล และไม่เป็นสัดส่วน ภายหลังก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารจัดสรรที่ให้ ให้คนเพิ่ม จนกลายมาเป็นศูนย์เปลอย่างในปัจจุบัน
ผมมาเป็นหัวหน้าเวรเปลมา 10 ปีแล้ว และอยู่มานานจึงทำให้เห็นพัฒนาการของโรงพยาบาลที่เจริญขึ้น ภูมิใจครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลที่ผ่าน ISOและ HA ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับก็เพราะทุกคนในทีม
ตอนนี้ทีมมีทั้งหมด 36 คน มีอายุการทำงานต่างๆ กัน ตั้งแต่ไม่ถึงปี จนถึงเป็น 20 กว่าปี เราประชุมกัน เดือนเว้นเดือน มีคุยกันเอง มีความร่วมใจ และ มีการปรึกษาหัวหน้าเป็นประจำครับ
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> คุณธรรมศักดิ์ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">ผมภูมิใจที่ได้ทำงานในหน้าที่ นี้ เพราะศูนย์เปลเปรียบเหมือนประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล เราบอกให้ข้อมูลแก่ คนไข้และญาติ คนไข้บ้านไกลจะมาโรงพยาบาลกันตั้งแต่เช้า พอมาถึงก็จะมาเจอเปลก่อนเป็นอันดับแรก </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"> ที่นี่บางคนมาทำงานตั้งแต่ตี 5 กว่าๆ แต่กลับหลังเพื่อนเลย </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal">คนที่มาสายทีสุดก็ไม่เกิน7.30 น. ที่นี่มีวัฒนธรรมที่ถือปฏิบัติกันอยู่โดยไม่มีใครบังคับนั่นก็คือถ้าใครมาสายก็จะมีการทำงานชดเชยเล็กๆน้อยเช่นการทำความสะอาดตู้เย็น จะทำเอง ไม่ต้องมีผู้อื่นมาคอยบอก</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 36pt; text-indent: -18pt; tab-stops: list 36.0pt" class="MsoNormal"></p><p>คนไข้ไม่มีญาติ ก็จะดูแลช่วยเหลือเช่น ไปเอายาให้, เรียกรถให้ ติดต่อสังคมสงเคราะห์ให้ บางทีให้เงินค่ารถกลับด้วย อำนวยความสะดวกไม่ให้ติดขัด </p><p>ที่นี่ เราไม่พักเที่ยงครับ เราสลับกันลง กินข้าว และ สมัครใจพักเที่ยงกันคนละแค่ครึ่งชั่วโมงมา สองสามปีแล้ว </p><p></p><p> ผมเอง อายุน้อยที่สุดในศูนย์เปลครับ ผมทำงานโรงแรมมาก่อน งานโรงพยาบาลก็เป็นงานบริการเหมือนกัน ผมมาทำงานที่นี่ก็สนุก ทุกคนในบ้านทำงานในโรงพยาบาลหมดเลย พ่อเคยเป็นพนักงานขับรถ แม่ทำงานอยู่OR และพี่ชายผมทำงานที่ห้องโสตฯ จึงเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวโรงพยาบาลเลย </p><p> ก่อนหน้านี้ผมเป็นทหาร แต่พ่อแม่พี่สาวผม ทำงานที่นี่ เลยตามมา คนโรงพยาบาลอัธยาศัยดีครับ </p>วันที่ผมมาแรกทำงานนั้นไม่ได้ตั้งใจมา แต่ตอนนี้ก็ทำงานมาได้ 2 ปี แล้ว เป็นการทำงานเกี่ยวกับคนดังนั้นเราต้องมีใจบริการ ทำไปนานเข้ามันก็เริ่มชินกับการที่เราต้องคอยบริการคนไข้ ซึ่งเหมือนกับการทำงานบริการอื่นต่างกันตรงที่นี่เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการเจ็บป่วย <p> ผมมาสมัคร 1 ปีกว่าจะได้มาทำงานในโรงพยาบาล เข้ามา ใหม่ๆสองสามวันแรกเหนื่อยมากครับ </p><p>เห็นพี่ๆ ทำงานสนุกสนานหน้าตาสดใส ทำไมทนกันได้ เลยลองถามดูว่าพี่ทำมากี่ปี ได้คำตอบว่าเป็นสิบๆ ปีแล้ว พี่ๆทำได้ทำให้ผมมีกำลังใจ ทำไปแล้วความรักในงานมันก็เกิดขึ้นมาเอง </p><p>แถมยังมาเจอคนที่ถูกใจ รักกับคนในโรงพยาบาลอีก ตอนนี้มีความผูกพันกับโรงพยาบาลเป็นอย่างมากวันไหนไม่ได้มาทำงานมันจะง่อม (คำเมืองแปลว่าเหงามาก) - ถึงตอนนี้พี่ๆที่นั่งฟัง เสริมว่า ใช่ ๆ ตอนแรกคิดว่าจะทำไม่ได้ เพราะตัวเล็กผอม ดูไม่แข็งแรง มาทำงาน ตอนนี้ ตัวโตและ แข็งแรงขึ้นตั้งเยอะ ได้ภรรยาแถมอีกแน่ะ)- </p><p> คุณอุดม ทำงานมาได้ 11 เดือน แล้ว ตอนมาใหม่ ๆรับว่าเหนื่อยมาก ยังไม่คุ้นกับสถานที่บางทีก็ไปไม่ถูก อาศัยเดินตามพวกพี่ๆเอา พอทำไปนานๆก็เริ่มชิน ไปได้ และเข้ากับเพื่อนได้ดี ตอนนี้ก็พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อที่จะได้เจริญรอยตาม พี่ๆในทีมที่ทำกันได้ดีมาก - </p><p>ที่มาเยี่ยมครั้งนี้ตอนแรกผมไม่ค่อยอยากมา ไม่ชอบให้สัมภาษณ์ ผมอยากให้บริการอยากไปช่วยส่งผู้ป่วยให้ถึงที่มากกว่า ให้ได้บริการแบบรวดเร็ว ไม่ชอบให้รอ ไม่ให้ค้าง เวลาผมมีปัญหาจะปรึกษาหัวหน้า เสนอหัวหน้าเลย-</p><p></p><p> เวรเปลเราช่วยอธิบายคนรอมาเร่งเราว่า “ไม่ต้องกลัว วันนี้ได้ตรวจทุกคน” มาตั้งแต่ ตี 5 6 โมงรอตั้งนาน พบหมอ 2-3 นาที ก็คลายทุกข์ เห็นหน้าหมอก็สบาย อาการดีขึ้นตั้งเยอะเลย- </p><p> ผมเห็นบางคน มาแต่เช้า ตอนเย็นเห็นยังไม่เสร็จ ยังไม่ได้กลับบ้าน ดูแล้วไม่สบายใจมากครับ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาคงต้องมีตรวจ แลป หรือตรวจพิเศษ เลยช้ามาก สงสาร - - </p><p> ทำงานเพื่อคนไข้ เพื่อ โรงพยาบาลผมก็มีความสุข บางทีตั้งแต่รับเวร ยุ่งมากไม่ได้เห็นหน้าเพื่อนร่วมงานเลย บางทีไม่มีคนอยู่รับโทรศัพท์ บางทีของไม่พอ คนไม่พอ ผมก็นึกว่าถ้ามีของพอ อุปกรณ์พอ ขอคนอีกหน่อย ทีมผมจะบริการได้มากกว่านี้ ดี กว่านี้- - </p><p></p><p> ผมมาทำงาน ตั้งปี 2522 ตอนแรกทำงานในแผนกช่างก่อนแต่ทำได้ 2ปีก็ย้ายมาทำงานในศูนย์เปล มีความประทับใจในหน้าที่นี้ เพราะช่วยคนได้เยอะ ต้องมีมิตรไมตรี เคยมีคนไข้มาถามพอเราให้คำตอบไปเขาจะไหว้ขอบคุณเรา ด้วย ทำให้ผมชื่นใจมาก- </p><p> </p><p>ผมชื่อ อาดุ ทำงานมาแล้ว 3 ปี ผมเป็นชาวอาข่า พูดภาษาชาวเขาได้ ตอนนี้ ถ้ามีชาวเขาพูดไม่รู้เรื่องทางตึกก็จะตามผมไปเป็นล่ามให้ครับ ผมเคยทำโครงการ ของ คุณหมอพัชรี พอจบโครงการ คุณหมอ เขามาฝากที่งานเปล</p><p> ผมทำช่วงหนึ่งแล้วหยุด ลองไปทำงานที่ประเทศใต้หวัน ไม่ไหวครับ สู้ทำงานที่นี่ไม่ได้ อยู่กันด้วยกันแบบมิตรภาพ หัวหน้าก็ชวนอีก ผมเลยกลับมาทำงานที่นี่เหมือนเดิม </p><p>หัวหน้าสุวรรณสรุปว่า- - งานเปลมีคนเข้าคนออกบ่อย เรามีรุ่นพี่ที่ดีๆ หลายคนเป็นตัวอย่างแต่ละคนตั้งใจ เต็มใจทำงาน อดทน เสียสละ คนอยู่ได้ที่นี่ ต้องรักงานจริงเพราะเป็นงานหนัก เหมือนเป็นการคัดคนที่ไม่ถนัด ไม่ชอบไม่รักงาน ออกไป ตามธรรมชาติ ตามกรรม ตามวาระของเขา - </p><p> ท้ายสุด อาจารย์หมอสุภัคเล่าเสริม ถึงอาจารย์ กนก คนที่สร้างตุงกระด้างที่ประกวดชนะและห้อยโชว์ อยู่ ที่ถนนในเมืองเชียงราย ว่า พวกเราคงเคยเห็นผลงานอาจารย์นะ อาจารย์มาหาผมบอกว่า “อยากมาทำงานช่วยในโรงพยาบาล และที่อยากทำคือเข็นเปล” </p><p>ถามว่าทำไมต้องเปลเท่านั้น “อาจารย์ตอบมาว่า</p><p>เพราะผม อยากทำความดี และอยากออกกำลังกาย งานก็ทำ ความดีก็ทำ แต่ถ้าทำได้สองอย่างก็จะดีมาก” </p><p>คนเวลาทำงาน มีสองประเภทคนทำงานทุกข์ใจ และคนทำงานหัวใจพองโต เข็นเปลเนี่ยนะ ได้ช่วยมนุษย์เห็นๆ คิดดี ทำดี ชะตากรรมดี เกิดโดยไม่รู้ตัว </p><p>มีเวรเปลเสริมอาจารย์สุภัคตอนท้ายว่าขนาดในหลวงขณะทรงไปเยี่ยมสมเด็จย่าที่ รพ ศิริราช ทรงเข็นล้อด้วยพระองค์เอง ไม่ให้พยาบาลเข็น </p><p> AARเกินความคาดหมาย- </p><p>คิดว่าจะมาตำหนิหน่วยเปล(ผมคิดเตรียมข้อมูลแก้ตัวไว้พร้อม เตรียมว่า ถ้าถามยังงี้ ผมจะตอบอย่างไร)</p><p> ไม่คิดว่าจะเป็นกันเอง คิดว่าจะเป็นแบบวิชาการมากกว่านี้</p><p> ไม่เครียด พี่ๆ น้องๆ เต็มห้อง- </p><p>ได้รู้จักห้องเปล โอ้โฮ เสียสละจังเลย น่าชื่นชม กินข้าว 30 นาที ถ้าเป็นหนูถ้าจะไม่ไหว- </p><p> หัวหน้าศูนย์ เปล มีการจัดเตรียมการรับการเยี่ยมได้ดี ทำให้การเยี่ยมเรียบร้อย- </p><p>ดีใจที่เห็นความตั้งใจ ที่พี่ๆเวรเปลมาร่วมเล่าให้ฟัง ทำให้ได้เรียนรู้ในการทำงานของทุกคน- </p><p>ฟัง อาจารย์ หมอ สุภัคแล้วรู้สึกปลื้มใจ มีกำลังใจมาก ในการได้ทำหน้าที่นี้ ได้ทำบุญ แล้วยังได้ออกกำลังกายอีก- </p><p>ทุกคนมีความเสียสละเพื่อการงานที่ทำ </p><p>ต่ำกว่าคาด- </p><p>เรื่องเล่าเยอะแต่เวลาไม่พอ- </p><p> ตอนแรก ทีมเยี่ยมมากันน้อย เพราะหลายคนติดธุระ ไปประชุมด่วนกัน ตอนหลังมี อาจารย์ สุภัคมา คุณหมอ ติ่ง มาเลยคึกคักขึ้น- </p><p>อยากจะให้คนทำงาน ผู้ปฏิบัติได้คุยได้พบกับฝ่ายบริหารบ้าง </p><p>สิ่งที่ จะทำต่อไป- </p><p>อยากได้คนเพิ่มในหน่วยเปล- </p><p>ขอเสนอให้ผู้บริหารมาเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานจริงๆ - </p><p>คราวหน้าจะเล่าดีกว่านี้</p>
ขอบพระคุณ เจ้าค่ะ ท่านพี่
ที่ท่านให้ความกรุณาสม่ำ เสมอ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะไปบ้านโน้นนะคะ มัทเลยแวะมาบ้านนี้บ้า ง: )
เวรเปลเป็นกลุ่มคนที่ใกล้ชิดคนไข้มากๆไม่แพ้หน้าที่อื่นเลยนะคะ ที่ีรพ.ที่คุณตาเคยไปล้างไต คนแรกที่วิ่งมารับที่รถ ทักทายคุณตาก็พี่เวรแปลนี่แหละค่ะ ยิ่งพี่เค้าจำชื่อคุณตาได้ รู้ด้วยว่ามาทำอะไร บรรยากาศก็เป็นกันเอง คนไข้ก็ได้ยิ้มตั้งแต่ยังไม่ลงจากรถ ยังไม่ทันถึงประตูรพ.ในของเลย : )
สำคัญมากๆนะคะ เป็นด่านแรกเลย ขอเป็นกำลังใจให้หน่วยเปลทุกคนเลยค่ะ
--------------------------------------
ของคุณคุณหมอที่นำบันทึกมาฝากนะคะ
ได้เห็นพลังของการรีวิวแบบเป็นกันเองจริงๆค่ะ ชองที่พี่เวรบอกตอน AAR ว่า
"คิดว่าจะมาตำหนิหน่วยเปล(ผมคิดเตรียมข้อมูลแก้ตัวไว้พร้อม เตรียมว่า ถ้าถามยังงี้ ผมจะตอบอย่างไร)"
จริงมากเลยค่ะ หลายคนก่อนเข้ารีวิวคิดแบบนี้จริงๆ แล้วคุณหมอก็ทำให้เห็นว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น
ดีจังเลยค่ะ : )
อบอุ่นมากค่ะ น้องม้ท ที่รัก
ดีใจเมื่อเจอบล็อกน้องมัทตอนเริ่ม ตามอ่านก็ยิ่งชื่นชมว่าเจ้าของบล็อก มีความสามารถถ่ายทอดเล่าเรื่องเป็นธรรมชาติมากเลย
อ่านเรื่อยๆก็พบว่า มีจิตใจดี มีใจช่วยเหลือผู้อื่นมากมาย สงสัยว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นใคร เลี้ยงอย่างไรเลยละ
ตามๆก็เข้าใจ และนึกในใจว่ามิน่า เล่า
น้องมัทโตมาท่ามกลางความเอาใจใส่ ความหวังดีต่อผู้อื่น ความเสียสละมีจิตอาสา
ที่มีกิจกรรมและตัวอย่างให้เห็นให้ปฏิบัติในครอบครัว(กรณีคุณตา) และรอบๆตัว(บรรยากาศการเจ็บป่วยในรพ และการทำงานของคุณพ่อ)
ชื่นชมค่ะ และขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยม
พี่หมอหน่อยขา ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แต่อย่าชมกันมากเลย เดี๋ยวรู้จักกันไปก็จะเห็นว่ามัทก็มี the dark force บ้าง ฮ่ะฮ่า : ) แต่อย่างที่พี่หมอว่าค่ะ มัทไม่ขอรับคำชมไว้ ขอยกให้ครอบครัว ครู และ เพื่อนๆ รวมทั้งเพื่อนๆพี่ๆน้องใน gotoknowด้วย
พี่หมอจี้ใจดำนิดนึงตรงที่มัทตั้งใจจะเขียนบันทึกถึงแม่ ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาแต่ตอนนั้นไม่ได้เข้า gotoknowเลย เพราะงานรุมเร้าแล้ว server ของ gotoknow กับเรื่อง log in ของมัทก็ติดขัด ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนตอนวันเกิดคุณแม่ตอนปลายเดือนพฤศจิอีกที
แม่มัทจะคนละแบบกับพ่อ แม่จะมันส์มาก รออ่านนะคะ
ขอบคุณพี่หมออีกครั้งค่ะ มัทก็ชื่อชมพี่หมอมากเช่นกันค่ะ ชอบรอยยิ้มที่ออกทางตาของพี่หมอด้วย : )