เมื่อ ม. ต้น เลือกเรียนพื้นฐานเกษตร แล้ว ม.ปลายหล่ะ เรียนไรดีครับ


แล้วคุณหล่ะครับ เคยคิดถึงวิชา เกษตร ว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ ในอดีต


สวัสดีครับทุกท่าน

          สบายดีกันทุกท่านนะครับ เมื่อวันก่อน ได้นำเสนอชีวิตใน ม.ต้นไปแล้วตามบันทึกนี้ครับ "หากไปเรียนวิชาสาขาเกษตร ไม่ต้องเรียน ออกมาอยู่บ้านกรีดยางที่บ้านดีกว่า" จริงหรือ! มาวันนี้ เลยมาทำให้ต่อเนื่องใน ม.ปลายครับ

          ด้วยเป็นคนชอบ คณิตศาสตร์ และอังกฤษ วาดเขียน แล้วตามด้วยพื้นฐานเกษตร จบ ม.สาม ก็ไปสอบคัดเลือกที่โรงเรียนประจำจังหวัด เบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่าวิชาแรกที่สอบ คือคณิตศาสตร์ เจอโจทย์ ข้อแรก เลยสรุปได้เลยว่า ไม่ผ่านแน่ๆ งานนี้ ไม่เคยเจอโจทย์ แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ทั้งๆที่ชอบคณิตศาสตร์ ก็ตาม เพราะไม่เคยลับมีดทางปัญญา กันเลย นอกจากเรียนแล้วตั้งใจเรียนในห้องเรียนเท่านั้น และก็ไม่ไปดูผลการสอบเลย ฝากให้เพื่อนดูให้ ช่วงนั้นกำลังสับสนว่าจะเรียนสายไหนดี วิทย์คณิตศาสตร์ หรือว่าสาย ศิลป์สังคม ดี แต่ก็หวังว่า หากไม่ได้สายวิทย์คณิตศาตร์ ก็คงไม่เอา

          และแล้ว โชคดีครับ ที่ได้ทราบข่าวว่า ร.ร. ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ได้ประกาศเปิดสอบรอบที่สอง เลยไปสมัครสอบดูครับ ในวันไปสมัคร ก็ไปรับแบบฟอร์มแล้วต้องกรอกรายละเอียด ก็กรอกไปตามปกติ แล้วปรากฏว่ามีวิชาพื้นฐานให้เลือกเต็มเลย มีศิลปศึกษาด้วย ช่างยนต์ ไฟฟ้า เกษตร สาธารณสุข และอื่นๆ

          คุณคิดว่าผมจะกาเลือกอะไรครับ อิๆ ก็เกิดคำถามในหัวสมองทันใดนั้น ว่าเอ ศิลปะ สงสัยจะไม่ทันเพื่อนแล้ว เอ หรือว่าเริ่มใหม่ดี ยังชอบอยู่ดี แต่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลยเน้อ เอ เอาไงเอากัน เลือกเกษตรนี่หล่ะ อิๆ และแล้วก็กาลงไปเลย พื้นฐานเกษตร ทันใดนั้น ท่านผู้ปกครองของใครมิทราบครับ ท่านเหลือบมาเห็นใบสมัครผมกาเลือก พื้นฐานเกษตร แล้วท่านก็บอกมาทันทีว่า

                 "เอ เด็กคนนี้ แปลกดี เลือกพื้นฐานเกษตร"

         ผม แอบยิ้มในใจครับ

         และแล้ววันสอบก็มาถึง ข้อสอบดูแล้ว เจอคณิตศาสตร์ข้อแรก ยังดีกว่าที่เคยเจอที่เบญจมราชูทิศ และแล้วก็ผมโชคดีเมื่อในวันประกาศผลมาถึง ผ่านให้อยู่ในสายวิทย์ คณิตศาสตร์ สมใจ และก็ได้พื้นฐานวิชาเกษตรเช่นกัน และแล้วคุณเชื่อไหมว่า เค้าใช้หลักการเดียวกันเปะ ใครตกจากช่างต่างๆ มาก็กวาดให้มาอยู่ในเกษตรเช่นเดิม สงสัยเป็นเหมือนกันทั่ว เลยครับ อิๆ แต่ผมก็เลือกไปนั่งคอยอยู่แล้ว อิๆ คงสร้างความแปลกใจให้กับ คุณครูเกษตรเป็นยิ่งนัก

        จากนั้นก็เรียนต่อยอดจาก ม.ต้น ดินและปุ๋ย พืช สัตว์ โรงเรือน และวิชาอื่นๆ สนุกครับ สนุก

        ได้ทำอะไร หลายๆ อย่างสนุกสนานครับ

จากประสบการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทราบคุณค่าของเกษตรมากเลยครับ แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังต่อ สำหรับการเรียน ม.ปลาย และการเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่อครับ ว่าแต่ละอันดับเลือกอะไรกันบ้าง สนุกๆ ครับ

แล้วคุณหล่ะครับ เคยคิดถึงวิชา เกษตร ว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ ในอดีต

ขอบคุณมากครับ

เม้ง

หมายเลขบันทึก: 87827เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2007 06:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 14:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
Good morning P’Meng How everything this morning.I hope you are happy and have many good idea all day นะคับพี่เม้ง .Do you have breakfast? take care too!!!
  • Dear my lovely boy,
  • You changed the new photo. It is so cool and so cute.
  • Thank you very much for your nice phases.
  • My time is slower than you for five hours.
  • Can you guess where I am now?
  • I don't have the breakfast yet, but I have Khanon Jean Namya ขนมจีนน้ำยา last night.
  • I hope you are happy with your lovely mom krap.
  • One day, we could meet in Pattani krap.
  • All the best to you krap,
  • P'Meng
Are you oversea now? If not...Are you in Phuket? o.k.ๆๆ.Oh about my new photo I can not see it,may be it's errer on page again so boring about it.How do you guess about my mom?
  • Dear my little boy,
  • Yes, I'm now in Europe/Germany.
  • You can press F5 to refresh for your new photo, hopefully, you can see how cute you are.
  • What should I guess about your mom?
  • Do you start to learn in school?
  • If yes, tell me how nice your class is.
  • Have a nice day. krap
* Is it far from France? My uncle and there family are working there through this month. * I mean how do you know that she is lovely mom? * I start to learn in school when I am 3.5 years old in Narathiwat.Next term I'll be a Prathom 2 in (English programe class) * It's alright,I study with Foreigner teacher Ex.from London,Philipines Russia Malaysia and Thai teacher too! but the language make me confuse sometime.

Dear my lovely solomon,

      France is the neighbor of Germany. Nice to know that you have relative in France. I knew your lovely mom from your comments in some articles. You love and care your mom very much. I feel it.

      You had started your school since 3.5 years, incredible boy....it means you are genius. It is very nice for me to know that there is an english programme there. It is very nice for you to listen from different pronounciations/teachers.

      All the best and enjoy your class. It's very nice to know you.

      What is your favorite subject in school?

Have a nice day.

P'Meng

I don't sure between sience and math that every subject use english except socail and thai but I am not a genius because my grade is only 2.8 while my friens 3 - 4 more than me.My mom want me just to be an experience and good bot that's all and I agree with her.Oh! Wow She's calling me to have breakfast now! สงสัยวันนี้โลกจะแตก คุณแม่มีเวลาทำขนมปังชุบไข่ให้ผมกินแล้ว 1ใน 30 วัน ครับผม...!!! Let's have with me P'Meng.See you soon!!
  • เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
  • พี่ไม่คิดถึงเกษตรเลย คิดถึงอาชีพอื่นๆตามกระแสสังคม (เน้นกระแสสังคม)
  • แสดงว่ากระแสสังคมมีอิทธิพลมากทีเดียว
  • สังคมบ้านพี่ตอนนั้นใครๆก็เรียนครู เพราะเรียนจบเร็ว ทำงานเร็ว ได้เงินใช้ เรียบง่าย พ่อแม่ชอบ
  • ญาติพี่น้องเป็นครูกันหมด
  • แต่เอาไปเอามาไม่ได้เป็นครูสอยคนแต่เป็นคนทำงานพัฒนา
  • ความจริงมองย้อนหลังและการใช้เวลาในปัจจุบัน เกษตรเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะบ้านเราเป็นเมืองกสิกรรม ควรเอาความรู้มาดัดแปลงใช้ให้มากๆเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรของเราครับ
P
  • Dear my little Solomon
  • The genius boy was defined by me is not for having a high score/grade, but in the other perspectives.
  • If you try to learn the core of the subject, you will know more and be happy. One day, you will know what I mean. I never pay more attention to the grade, but let it more than 2.0 or 2.5. You don't need to have 4.00 or 3.50, but if you have it. That is your interest, but you know the main idea of the subject.
  • Have a nice day and enjoy for study every day.
  • All the best my little boy
P

สวัสดีครับพี่บางทราย

  • ขอบคุณพี่มากครับ
  • ตอนนั้นแถบบ้านผม ขอให้เป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เกษตรนะครับ ตอนแรกผมก็นึกว่าจะเป็นเฉพาะละแวกคนในระดับอำเภอหรือตำบล แต่เหมือนว่าความคิดนี้จะทั่วบริเวณอื่นด้วยครับ
  • ตอนผมไปออสเตรเลีย โปรเฟสเซอร์ผมท่านหนึ่งที่ออสเตรเลีย ท่านพาพวกเราไปรู้จักกับท่านหนึ่ง ท่านเรียนจบ ดร. แล้วทำงานในมหาวิทยาลัย ทางด้านวิศวะ
  • แต่ท่านก็ลาออกมาเป็นคาวบอย เลี้ยงวัวเป็นฝูง แล้วปลูกไร่องุ่นในพื้นที่บริเวณบ้าน เอาวิชาทางวิศวกรรมไปประยุกต์ใช้ทุกระบบภายในบ้านและการเกษตร ทำให้ผมประทับใจตราบอยู่จนทุกวันนี้
  • เวลาผมไปเห็นอะไรแบบนี้ในต่างประเทศผมจะนึกถึงเมืองไทย แล้วพยายามลองกลั่นๆ ดูว่า เราจะประยุกต์ใช้โดยยังเป็นไทยอยู่ได้อย่างไร โดยยังมีรากของไทยหยั่งอยู่เป็นรากแก้วและรากแท้ได้อย่างไร ไม่ใช่เป็นการยกทั้งระบบไปใช้ แต่ต้องศึกษาให้ละเอียดทั้งทางกายภาพและนามธรรม
  • สำหรับเรื่องครูครับ ผมเคยถามเล่นๆ ว่า หากพี่มีลูก ลูกพี่จะเข้าโรงเรียน พี่อยากให้เรียนหนังสือกับครูเก่งๆ ไหมครับ (หากคำตอบคือใช่) แล้วหากลูกพี่เรียนเก่ง แล้วมีคุณสมบัติเหมาะสมจะเป็นครู ใจลึกๆ พี่อยากให้เป็นครูไหมครับ (สังคมส่วนใหญ่คงอยากให้เรียนอะไรอย่างอื่น) แล้วเราจะได้ครูเก่งๆ ดีๆ มาได้อย่างไร
  • พอไปย้อนถึงที่มาของครู เราจะเจอหลายๆ อย่าง แต่ผมชอบเรื่องการที่ให้ครูไม่เก่งแล้วศึกษาอย่างจริงจัง เพราะจะเข้าใจระบบว่าจะสอนอย่างไรให้เด็กเก่งได้ อันนี้น่าสนใจมาก และมีตัวอย่างอยู่มากแล้ว
  • ครูเองก็ต้องถ่ายทอดเก่งด้วย ซึ่งการถ่ายทอดตรงนี้หล่ะครับ ผมว่าสำคัญ และเสริมด้วยการสร้างแรงจูงใจให้เกิดในใจของนักเรียนผู้เรียน ทำให้เด็กอย่างรู้เพิ่ม รู้ต่อ ให้เด็กคิดตลอดเวลา แล้วเค้ารู้สึกสนุก จนเค้าเป็นนิสัย หลังจากนั้นคุณครูก็ปล่อยวางมือได้เลยครับ
  • การเลือกงานของคนปัจจุบันเรามุ่งประเด็นไปที่ค่าตอบแทนเป็นหลัก เพราะการศึกษาบ้านเราเป็นการศึกษาแบบธุรกิจ หรือ ธุรกิจการศึกษา ว่าด้วย การศึกษามาจากการลงทุน ดังนั้นจะต่างจากการศึกษาที่มาแบบฟรีๆ
  • สำหรับเด็กจะตั้งใจเรียนหรือไม่ คนจะมีคุณภาพหรือไม่ ผมว่าคงอยู่ที่คนเป็นหลัก การฝึกเพาะบ่มนิสัยที่ดีเป็นสำคัญ
  • พอพูดถึง ธุรกิจการศึกษา ก็พาลไปสู่ ธุรกิจการเมือง แต่ให้ท่านๆ ไปต่อยอดเอาเองครับ ว่าคืออะไร

สวัสดีค่ะ

ดิฉัน จบตรี และ โท เกษตร

จะบอกว่า ตอนเอนทราน ก็เลือกมันเป็นอันดับสุดท้ายนะคะ (เผื่อไม่ได้อะไร)สุดท้ายก็ได้เรียนเกษตรจริงๆ

ถ้าถามว่า ชอบมั้ย ก็ไม่ชอบ เฉยๆ

แต่เรียนไป เรียนไป ก็ดี ตอนเรียนไม่อะไรมากมาย

กลับบ้านใครถามว่าไปเรียน มข เรียนคณะอะไร ก็ ไม่อยากตอบนะ ว่าเรียนเกษตร เพราะเคยได้ยิน ประมาณว่า

....เรียนทำไม เรียนเกษตร ไม่เรียนก็ทำนาเป็น...

คนอีสาน อยากให้ลูกลาน เรียนครู เรียนหมอ ตำรวจ

เรียนอะไรฉันไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่า จบมาจะไปสอนที่ใหน  คำถามมีแค่นี้จริงๆ

แต่ตอนนี้ดีใจนะคะ ที่ผ่านมาการเรียนเกษตร ทำให้เรารู้จักที่จะให้ รักธรรมชาติ ไม่ได้ตักตวงเอาผลประโยชน์ให้ตนอย่างเดียว

ทำให้เรารู้จักความพอดี และอยากพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีวธีคิด และมุมมองดี ต่อวิชาชีพเกษตร

ยังอยากให้อาชีพชาวนา คู่กับประเทศไทยต่อไป

อยากให้เค้าถ่ายทอดอารมณ์คววามรัก ความชอบ อาชีพชาวนา ให้กับลูกหลานเค้าต่อไป

บางที อาชีพชาวนาบ้านเรามันอาจจะไม่มีแล้วก็เป็นได้

 

 

P

สวัสดีครับคุณกาเหว่า

  • คำตอบและแนวคิดคุณคือพันธมิตรของผมเลยครับ
  • โดนสุดๆ ครับ แม้ว่า ปริญญาตรีผมจะไม่ได้เรียน เกษตรก็ตามครับ แต่คุณเชื่อไหมว่า พอเป็น ป โท และ เอก มันเอา ประถม มัธยมต้น ปลาย ตรี โท เอก มารวมกันหมดเลยครับ เหลือเชื่อจริงๆครับ
  • ไว้ว่างๆ จะเขียนเล่าไปเรื่อยๆ ครับ
  • ชอบแนวคิดของคุณกาเหว่าครับ ผมก็เคยคิดครับ ว่าต่อไป เผลอๆ ชาวนาอาจจะได้ทำนาในที่นาตัวเองแต่ในฐานะลูกจ้างครับ
  • ขอบคุณมากนะครับ

ที่โรงเรียนชาวนา สุพรรณบุรี   เขากำหนดพันนี้ครับ

จบประถม  คือชาวนา  ที่เลิกใช้ยาฆ่าแมลงได้

จบมัธยม  คือชาวนา ที่เลิกใช้ปุ๋ยเคมีได้  หมายถึงว่ารู้จักวิธีบำรุงดิน  และมีความรู้สร้างปุ๋ยใช้เองได้

จบมหาวิทยาลัย  คือชาวนา ที่สามารถผลิตพันธุ์ข้าวเองได้  ผสมพันธุ์ข้าวเองได้

ตอนผมเรียนเกษตรในระดับมหาลัย   มีเหตุการณ์ที่แปลก  คือ  ในสายเอ็นสะท้าน นั้น  เด็กคณะเกษตรปี 1 ค่อนข้างจะสับสนในชีวิตหลายคน   คืออย่างนี้ครับ  ระหว่างเรียนก็ลาออกไปบ้าง   พอจบเทอมก็เตรียมตัวเอ็นกันใหม่    เพราะว่าอะไร?

เพราะตอนสมัยนั้น   การสอบเข้ามหาลัย  เขามีลำดับการเลือกคณะที่เลือกเข้า   ท้ายสุด  คือ คณะกันเหนียวเข้าเรียนมหาลัยเอาไว้ก่อน    คณะเกษตร  จึงเป็นคณะกันเหนียว    สิ้นปีการศึกษา  เด็กหายไปหลายคน  ไปเรียนที่อื่นอีก

อีกเหตุการหนึ่ง  คือ ในระดับวิทยาลัย    เด็กเกษตรจำนวนไม่น้อยที่จบออกไป  ต้องไปเป็นเซลล์แมนขายเคมีภัณฑ์   อาหารสัตว์  ปุ๋ยเคมี  อีกหลายคน  ก็ไปเป็นพนักงานขายในร้านสะดวกซื้อ   

เหตุการณ์เล็กๆ (แต่มีมาก)  คงเป็นดัชนีบางอย่างว่า  ทำไมโลกยิ่งพัฒนา  ภาคเกษตรกรรม  ยิ่งแย่  

คงไม่ใช่เพราะวิธีเรียน  วิธีสอนเพียงอย่างเดียว   แต่ยังโยงไปถึงความคิด  ความเชื่อ ของคนในสังคม (ส่วนใหญ่)  ที่เป็นแรงผลักให้เกิดปรากฏการณ์แบบนี้    ถ้าลูกบ้านไหนเรียนจบมา  แล้วกลับมาทำเกษตรที่บ้าน   จะถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่มีเกียรติ   ไม่เหมือนลูกบ้านที่เขาจบแล้ว ไปทำงานในสำนักงานดูดี  มีเกียรติ  

การศึกษาภาคเกษตร  เลยต้องกลายเป็น  "วิชาแพะ"  ไปเสียนี่

ประเทศไทยมีสถาบันการศึกษาภาคเกษตรกรรม  กี่แห่ง  กี่คณะ  กี่ภาควิชา    แต่ละปีผลิตบัณฑิตจำนวนกี่คน      

approach  ของการจัดการหลักสูตรของแต่ละสาขาอาชีพ  จึงน่าจะต้องต่างกัน    คนเรียนเกษตร   เรียนแบบเดียวกับนักเรียนสาขาการตลาด   มันเลยออกมาแปลกๆ   เพราะว่ามองอะไร  เป็นกำไร-ขาดทุนไปหมด

ลองมองลูกเกษตรกร  ที่มีใจอย่างทำเกษตรอย่างพ่อ  แต่ไม่มีปัญญาเรียน  เพราะพ่อไม่มีปัญญาส่ง    ให้โอกาสเด็กพวกนี้   ติดอาวุธวิธีการพัฒนาภาคเกษตรจริงๆ (ไม่ใช่เรียนเพราะใบปริญญา)  ให้พวกเขา  เชื่อมโยง"วิชาของพ่อ"  ที่บ้าน   กับ "วิชาครู" ที่โรงเรียน   แล้วส่งกลับเข้าชุมชนที่เขามา   และไม่ลืมที่จะใช้กิจกรรมของพวกเขาเป็นฐานการเรียนรู้  ของนักเรียนรุ่นต่อๆไปด้วย       น่าจะลดคำถามที่ว่า  "จะมีซักกี่ครุย  ที่ลุยโคลน"  มาติดเอาไว้ที่หน้าสถานศึกษาอีก

เข้าซอยไปลึกเลย   อาจจะไม่ตรงประเด็นบันทึกของเม้งแบบตรงๆนะครับ

 

P
  • สวัสดีครับพี่ธวัช ดีใจจังที่พี่เข้ามาเยี่ยมด้วย
  • ชอบในคำตอบและประเด็นครับ ขอให้เป็นประเด็นเกี่ยวกับการเรียนเกษตรครับ ชอบทั้งนั้นครับ ตลอดจนการนำไปสู่การประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับชุมชน เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งครับ
  • ชอบมากครับ "จะมีซักกี่ครุย  ที่ลุยโคลน" หรือ "จะมีปริญญาซักกี่ใบ ที่ไถนา" อิๆ แต่ผมก็เจออยู่บ้างครับ แม้ว่าจะน้อย แต่เมื่อได้ยินทีไรก็ดีใจตลอดครับ แต่ก็จะมีเสียงที่บอกมาว่า จบปริญญาตรีทุกวันทำนา กันไม่เป็นแล้ว แต่ก็ยังมีให้เห็นในรายการทีวีวันก่อน เอาเด็กวัยรุ่นไปทำนาแข่งกันสองทีม แม้ว่าจะเป็นการโชว์ให้เห็นว่าทำนากันอย่างไรในแบบของวัยรุ่น ขับควายเหล็ก ก็คิดว่าคงมีอะไรยึดอยู่ในใจของน้องๆ เหล่านั้นเช่นกันครับ
  • ลองเปลี่ยนข้อสอบเข้ามหาลัยใหม่ดูไหมครับ หรือเพิ่มเข้าไปในการสอบเข้าแต่ละระดับครับ ให้มีการสอบวิชาภูมิปัญญาท้องถิ่น วิธีการทำนา ทำสวน ผสมเข้าไปให้หมด ไม่ว่าจะสอบเข้าสาขาใดก็ได้ แล้วให้ประยุกต์ข้อสอบดูว่า จะใช้ความรู้ในสาขานั้นๆ ไปประยุกต์ใช้กับการเกษตรอย่างไร ทำให้เด็กได้สร้างความเชื่อมโยงถึงกระบวนการบูรณาการสาขาเข้าหากันได้ แม้ความจริงจะเป็นไปได้น้อย แต่อย่างน้อย อาจจะมีบางคนคิดได้ว่า อย่างน้อยครุยของฉันก็ลุยโคลนได้
  • ขอบคุณพี่มากเลยครับ ที่ให้แนวทางและแสดงถึงพันธมิตรทางแนวคิดและหนทางหนึ่งที่ไทยควรจะเป็นครับ
  • มีความสุขในการทำงานนะครับ

"ผมเรียนวิทย์ - คณิต , พื้นฐานเกษตร"  เพราะสมัยนั้นรับรู้มาว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยต้องเรียนตามแนวนี้  ก็เราคนบ้านนอกไม้รู้ประสาอะไรก็เลยจำต้องเรียนในสายวิทย์ฯ  จนจบ ม.6

อันที่จริงผม "ปึก"  (ไม่เก่ง)  คณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก  แต่เรียนก็ไม่เคย "ติดศูนย์"  ..และเอาดีไม่ได้ในเรื่องตัวเลข (จนบัดนี้) ..แต่ตอนเรียน ม.4  เริ่มค้นพบตัวเองจึงรู้ว่าชอบด้านศิลปะ...อ่าน ๆ เขียน ๆ ...พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยโควตาภูมิภาค  เลยหันเหชีวิตไปสอบสายศิลป์.....สบายกว่ากันเยอะครับ....

.....

แต่ภาษาอังกฤษ...ผมไม่ได้เรื่องเหมือนกัน...

 

P

สวัสดีครับพี่พนัส

  • ดีใจที่ได้รับรู้แลกเปลี่ยน ก็มีหลายคนที่เดินมาในทางคล้ายๆ กันครับ
  • ผมชอบคณิตศาสตร์ ก็ไม่ได้เรียนเก่งครับ เพราะไม่ได้เน้นเรื่องเกรดครับ เน้นความเข้าใจเป็นหลักครับ ส่วนการนำไปใช้ ยอมรับว่ามองไม่ค่อยออกเลยครับ ว่าแต่ละบทต้องเอาไปใช้อย่างไร
  • เพราะรู้แต่ว่า หากมีโจทย์ให้มา รู้ว่าจะมั่วไปอย่างไร จนได้คำตอบ ทั้งๆ ที่คำตอบที่ได้ ไม่รู้ถูกหรือผิด แต่เน้นกระบวนการก่อนได้คำตอบเป็นสำคัญ
  • ผมก็ยังชอบศิลปะมาถึงทุกวันนี้ครับ แต่ให้วาดภาพก็ไม่ได้เรื่องครับ บางทีแค่เลือกสีก็ยังแย่เลยครับ
  • ส่วนภาษาก็กระท่อนกระแท่นเหมือนกันครับ ผมยังเป็นเป็ด อยู่ตลอดเวลาครับ
  • ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนครับ
  • ไม่ว่าพี่จะเป็นอย่างไร แต่ผมชื่นชมในงานที่พี่กำลังดำเนินการอยู่นะครับ ขอเป็นกำลังใจนะครับ
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท