สองพี่น้องท่องลาว ตอนที่ 1 : สะบายดี สปป.ลาว


26 ธค. 50

04.00 นาฬิกาปลุกดังลั่น อืมม์ นอนต่ออีกนิดน่ะ รู้สึกตัวอีกที อิ๊บอ๋ายแล้ว รีบโดดขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว
สองคนพี่น้องหิ้วสัมภาระสามใบเรียกแท๊กซี่ด่วนจี๋ไปดอนเมือง เจอเรื่องเซอร์ไพรส์ ด่านดินแดงขึ้นค่าผ่านทาง
จาก 20 เป็น 35 บาท แท๊กซี่สวดบ่นให้ฟังตลอดทางไปจนถึงสนามบิน โอ้ ทำไมรอบเช้าคนมันเยอะอย่างนี้นะเนี่ย
เช็คอินเสร็จแล้วก็ไปกินข้าวดีกว่า อ้อยอิ่งกันจนจะตกเครื่องเพราะไม่ได้ยินเสียงเรียก 555 ง่วงด้วยล่ะ เลยโก๊ะๆ

06.00 เครื่องขึ้นเลทเพราะรอเคลียร์คิวรันเวย์ ตายล่ะวา แล้วจะไปถึงกี่โมงเนี่ย นั่งรอกันด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ
ในที่สุดเครื่องก็ออกจนได้ เลทไป 25 นาที วันนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ ตื่นเต้นมากกลัวไปไม่ทันเที่ยวรถ
International Bus พอเครื่องลงก็รีบไปหารถจะไปสถานีขนส่ง มีรถตู้ราคาคนละ 60 บาท แต่ต้องรอคน
แหม..อุตส่าห์ยอมแบกกระเป๋าไม่โหลดก็เพราะไม่อยากรอ ก็เลยเหมารถไปท่ารถดีกว่าแค่ 200
รถก็ดีด้วยนั่งสบาย มาถึงท่ารถทันเวลาสบายๆ ได้ตั๋วแบบเฉียดฉิวเป็นสองคนสุดท้าย ราคาตั๋วใบละ 80 บาท
พอรถตู้จากสนามบินมาถึง คนอื่นที่ช้ากว่าเราก็ได้ตั๋วนั่งชั้นล่างไป คือนั่งกับพื้นเพราะที่นั่งเต็ม หุ หุ

08.00 รถออกตรงเวลา แล่นไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ยังไม่ 9 โมง พนักงานบนรถแจ้งว่า
พวกเราต้องลงไปกรอกเอกสารที่ด่านเอง 9.15 ทุกคนก็ได้กลับมาขึ้นรถ แอบประทับใจว่าเร็วจริงๆ
รถวิ่งข้ามสะพานแป๊บเดียวพวกเราก็ต้องลงที่ด่านฝั่งลาวอีกรอบ คราวนี้ล่ะขบวนการโสลวโมชั่น
บริการแบบลาวก็เริ่มขึ้น เราติดแหง่กอยู่ที่ด่านจนถึง 10.20 ไม่มีทางทันเที่ยวรถ 10.30 น. แล้วล่ะ
ต้องทำใจอย่างเดียว 1 ชั่วโมงสำหรับการบริการ ช้าไปซะทุกอย่าง เรียกว่าเจอตั้งแต่ด่านแรกก่อนเข้าลาว


10.45 รถมาถึงท่ารถที่เวียงจันทน์ มหกรรมตอมนักท่องเที่ยวก็เริ่มขึ้น แทบจะยื้อยุดฉุดกระเป๋ากันทีเดียว
ในที่สุดเราก็เจรจากับรถ Mini Van ได้หนึ่งคัน มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเป็นคนไทยทั้งหมด 8 คน + เราอีก 2
รวมเป็น 10 มีกลุ่มใหญ่ 5 คนเขามาด้วยกัน (กลุ่มนี้ล่ะที่ช่วยชีวิตเราสองคนไว้ จะเล่าในตอนต่อไป)
น้องอีกสองคนเป็นเด็กวิศวะจุฬานิสัยดี ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงมาคนเดียว เพื่อนเขามาล่วงหน้าแล้ว
พอเจรจาเรียบร้อยด้วยราคา 70,000 กีบต่อคน เราก็จะไปหาเพื่อนเพื่อแลกตังค์ ผู้หญิงที่มาคนเดียว
เดินตามเราต้อยๆ หันไปก็ตกใจ เอ้ย...จะตามเราไปไหนเนี่ย เขาก็บอกว่าขอไปด้วย 555
เราเลยบอกให้ไปหาข้าวกินก่อนเดี๋ยวค่อยเจอกัน จากนั้นก็เรียกรถไปส่งที่ร้านโจมา น้องโหน่งยืนยิ้มเผล่รออยู่
น้องเขาเตรียมเงินไว้ให้แลกพร้อมซื้อซิมโทรศัพท์ไว้ให้ บริการประทับใจ (ที่อื่นเขาแลกเงิน 1 บาท : 278-279 กีบ
โหน่งให้แลก 1 บาท : 282 กีบ) เราก็นั่งดื่มกาแฟแก้วแรกของลาวที่ร้านนี้นี่เอง จากนั้นก็พาเราไปกินข้าว
ที่ร้านอร่อยใกล้ๆ เปิดประเดิมอาหารลาวมื้อแรกเช่นกัน มื้อนี้ไม่ยอมให้โหน่งเลี้ยง อยากลองใช้เงินกีบดู
ก็จ่ายไปซะ 80,000 กีบ เดินออกมาตรงสี่แยกเห็นตำรวจลาวพกปืนน่ากลัวจริงๆ ไม่มีซองปืน
เล่นสอดเหน็บเอวไว้เลย นี่ถ้าปืนลั่นนะ สูญพันธุ์แน่...

12.30 รถจัมโบ้ที่มาส่งเราก็มารับไปขึ้นรถมินิแวนเพื่อเดินทางไปวังเวียง รถขับไปตามทางออกเมืองเรื่อยๆ
แอร์ร้อนดีจริงๆ คนขายตั๋วบอกว่าถ้าแอร์ไม่เย็นให้เหยียบเลย เออ..จำไว้นะ เดี๋ยวกลับไปถึงเวียงจันทน์เมื่อไหร่
จะตามไปเหยียบ ถนนหนทางค่อนข้างแคบ รถสวนกันทีก็เสียวแวบ บ้านคนก็ปลูกติดริมถนนเลย
ไม่ยอมเว้นระยะห่างออกไป รถร้อนถนนกระดอนขึ้นลงเป็นลูกระนาดบางช่วงแต่ก็หลับคร่อก
รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปสมัยนักเรียนที่นั่งรถเมล์ ฝุ่นคลุ้งเข้ามาในแอร์จนรู้สึกได้ รถวิ่งมาจอดพัก
กลางทางให้เข้าห้องน้ำ ด้วยความหิวน้ำก็ซัดน้ำไปซะครึ่งขวด พอรถวิ่งไปได้เกือบชั่วโมงน้ำก็ทำพิษ
ปวดฉิ้งฉ่อง ทำไงดีล่ะเนี่ย แจ๊กพอตเป็นคนแรกเลยตรู ในที่สุดคนขับก็หาเวิ้งเหมาะๆ ข้างทางให้
ดีนะที่เป็นคนไทยทั้งคันรถ อายจนอยากจะมุดแผ่นดิน แต่ไม่ลงก็ไม่ไหว เวิ้งนั้นเหมือนสร้างมา
สำหรับการณ์นี้โดยเฉพาะ 555 เบาสบาย


16.30 เราก็มาถึงวังเวียงโดยปลอดภัย ฟ้าเริ่มโพล้เพล้ เหนื่อยจะรากเลือด แถมจะต้องเดินไปที่พักอีก
ในที่สุดคนขับใจดีก็ยอมขับรถไปส่งเราสองคนที่รีสอร์ต เพราะทนดูสายตาอ้อนวอนของเราไม่ไหว เหอๆ
เห็นที่พักแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง โอ้สวรรค์ ด้านหน้ารีสอร์ตเราติดลำน้ำซอง มีภูเขาสูงตระหง่าน
เป็นฉากหน้าทอดไปเป็นทิวสลับกัน สวยสมคำร่ำลือ รีบเข้าที่พักอาบน้ำแล้วไปหาจักรยานขี่
ท่องเมืองสำรวจหาร้านอาหาร ในที่สุดก็เปลี่ยนใจกลับมากินที่รีสอร์ต เพราะในเมืองมีแต่ร้านเหมือนบาร์ 
อาหารเป็นพวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ แต่ในที่สุดก็เจอร้านเบเกอรี่ก็ได้ครัวซองกับมัฟฟิ่นกลับมาคนละชิ้น
วันนั้นเรียกว่าตัดสินใจถูกมากๆ อาหารที่ถาวรสุขอร่อยและราคาไม่แพง น้องชายบอกว่าพุงจะแตกแล้ว
แต่บริการของเด็กเสริฟก็ช้าตามแบบฉบับลาว ใครใจร้อนไปเที่ยวต้องไม่มีความสุขแน่นอน คืนนั้นเรานั่งกินอาหารริมน้ำ
ฟังเสียงแมลง อากาศเย็นเจี๊ยบสะใจ จากนั้นก็กล่าวราตรีสวัสดิ์เข้านอนกันตั้งแต่สามทุ่ม หมดก๊อกแล้ว
เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาว่ากันใหม่ กู๊ดไนท์วังเวียง

...

หมายเลขบันทึก: 157083เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2008 21:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 16:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

สวัสดีปีใหม่คะ พี่ Little Jazz

แค่เริ่มเดินทางก็มีเรื่องฮาเลยนะคะ

เมื่อปีก่อน เคยแบกเป้บุกเวียงจันทร์ ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เหมือนกันคะ...เลยแอบนึกภาพบริการแบบลาวในความทรงจำตามไปด้วยคะ

เกือบโดนจับที่เวียงจันทร์ เพราะไปถ่ายรูปหน้าป้ายแบงค์ชาติลาว...ไม่มีป้ายโนโฟโต้ หนูจะรู้ได้ไงว่าเค้าห้ามถ่าย เหอะๆ

รออ่านตอนต่อไปคะ

มีความสุขมากๆ ในปีหนูนี้นะคะ

---^.^---

 

น้องพิมพ์ดีด เรื่องตื่นเต้นเกี่ยวกับกล้องพี่ก็เจอวันสุดท้าย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะ ติดตามตอนต่อไป... รับรองมีทั้งนางร้าย พระเอก ครบเครื่องเหมือนดูละคร
สวัสดีครับ หนุกหนานครับ ขำด้วย ฮาตลอดทริปแน่งานนี้ สมกับที่รอคอยมาตั้งกะปลายธันวา ได้อ่านซะที ตอนสองไม่ต้องรีบก็ได้ครับ เดี่ยวอ่านไม่ทัน ;)
P  คุณธวัชชัย

อันนี้มันเหมือนแค่เกริ่น ของจริงต่อจากนี้ไปนี่มีฮาทุกวัน ซึ้งๆ น่ารัก หวาดเสียว โลดโผนเฉียดคุกก็มี ครบทุกรสเลยล่ะงวดนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป.... ^ ^
  • สวัสดีค่ะ น้องซูซาน
  • ดูท่าทางสนุกไม่เบาเลย
  • เสียดาย มาบ้านป้าแดงไม่ได้ให้การต้อนรับเลย
  • โชคดีปีใหม่ค่ะ

วังเวียงสวยมาก ผมนั่งถ่ายรูปบนรถที่วิ่งไป ยังได้ภาพสวยๆ เห็นน้ำใสๆอยากเล่น แต่ต้องรีบกลับเวียงจันทร์

วังเวียงสวยครับ เห้นบอกว่าคล้ายปาย

ซูซานว่าคล้ายหรือเปล่า>??

แล้วห้องน้ำที่กว้างที่สุดในโลก เป้นยังไงบ้างครับ น่าจะเย็นดีนะครับ อิอิ

สวัสดีค่ะ...ซูซาน..

...

ดีใจที่ได้ทราบว่าไปเยือนลาว...พี่กะปุ๋มชอบเมืองลาวมาก...

และมักข้ามไปเวียงจันทร์...เสมอเวลาที่อยู่ที่ขอนแก่น..

ลาว...หากเทียบได้กับเมืองไทยอาจดูล้าหลัง แต่พี่กะปุ๋มก็ชอบในความล้าหลังนั้น ซึงมีเสน่ห์ในตัวเองซ่อนไว้อยู่อย่างมากมาย... อยู่ที่นั่นทำให้ชีวิตเราช้าลง... งดงามภายในมากขึ้น...

ยังเคยฝันไว้เลยค่ะว่า...สักวัน..จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นค่ะ

(^___^)

จะติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ

พี่กะปุ๋ม

P  ป้าแดงขรา

โถ ป้าแดงขราแค่ที่แนะนำให้นั่งเครื่องในลาวตอนกลับก็ทำให้หนูรอดชีวิตกลับมาแล้วค่ะ เกรงใจว่าถ้าแวะบ้านป้าแดงหนูอาจจะตกเครื่องบินตอนขากลับได้ ^ ^ เวลารถแต่ละเที่ยวจวนเจียนเหลือเกิน ในลาวนี่เล่นทิ้งระยะเวลาเที่ยวรถรอบละสองชั่วโมง แถมให้ญาติและเพื่อนจองล่วงหน้าก่อน นักท่องเที่ยวก็รอไปตามระเบียบ

นอกจากรถแล้ว สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว พอเวลา 11.30 ก็พักแล้ว ไปเริ่มใหม่ 13.30 น. หนูล่ะเซ็งชีวิตจริงๆ ยิ่งกว่าเมืองไทยอีก
P  เอก

วังเวียงสวยมาก เป็นที่ที่เรากับน้องประทับใจที่สุดเลยล่ะ ตัวเมืองเหมือนปายมาก พูดได้ว่าเป็นคู่แฝดก็ไม่ผิด แต่ลำน้ำเราว่าสวยกว่าเพราะน้ำเยอะ บรรยากาศสองฝั่งเงียบสงบ น้ำใสจนมองเห็นหินด้านล่าง เสียแต่ไม่ชอบใจพวกฝรั่งที่มาเปิดเพลงอึกทึกเหมือนเธคบางช่วง แต่ก็ยังดีที่น้อยอยู่

เราชอบบรรยากาศริมน้ำมากกว่าในเมือง ในเมืองมันเต็มไปด้วยฝรั่งขี้นก นอนกินเบียร์ทั้งวัน ตัวก็เหม็นตุๆ เวลาเดินผ่าน - - " ริมน้ำวิวดี ผู้คนที่นี่น่ารักจ๊ะ

ปล. ขออภัยเรื่องส่งของ เดี๋ยวเราว่าต้องจัดการเองซะแล้ว รอคนอื่นนี่ท่าจะไม่ได้เรื่อง ของกองอยู่เป็นเดือนไม่มีใครทำ
P  พี่กะปุ๋ม

หนูว่าเวียงจันทน์มันยังวุ่นวายไปหน่อยเมื่อเทียบกับวังเวียง แต่ผู้คนก็อัธยาศัยดี และทุกอย่างมันเดินไปช้าๆ เหมือนอย่างที่พี่ว่า ยิ่งถ้าได้นั่งกินกาแฟริมถนนดูบรรยากาศในเมืองมันก็สงบสุขดีค่ะ

ลูกน้องเก่าหนู (เจ้าโหน่ง) เขาก็ติดใจลาว นี่เห็นว่าจะลงหลักปักฐานที่โน่น เขาอยู่มาหกปีแล้ว เขาก็คิดเหมือนพี่กะปุ๋มน่ะค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณ Little Jazz
  • กำลังอ่านเพลิน ๆ อ้าวจบแล้ว
  • เป็นไงมั่งคะ ห้องน้ำขนาด 4 พันไร่ 5555 
  • รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ อิอิ
P  คุณ Stardust

อย่างนี้ล่ะ ของดีต้องมีรอหน่อย อิ อิ ห้องน้ำแบบโอเพ่นแอร์มันเย็นวาบ ดีนะที่เวิ้งนั้นมันมิดชิดจริงๆ ไม่งั้นก็คงไม่กล้าแน่ น้องชายบอกว่าเรื่องนี้เผากันไปอีกสิบปีไม่เลิก : ) ไอ้เราก็หวังว่าเขาจะเจอบ้างเพราะเขาเป็นพวกท้องไส้ไม่ค่อยดี แหมเสียดายไม่ได้สัมผัสธรรมชาติใกล้ชิดเหมือนเรา

สวัสดีจ้ะน้องซูซาน.....

มาเกาะติดตามเที่ยวลาวจ้า...ท่าทางจะโหด มัน ฮา นะคะ...แค่ตอนแรกก็เริ่มมีกลิ่น ที่อยู่ชิดใกล้กับธรรมชาติแล้ว อิอิ....สมัยก่อนเมื่อสมัยสัก 10 กว่าปีที่แล้ว เวลาเดินทางก็ใช้บริการธรรมชาติแบบนี้บ่อยเพราะรู้สึกปลอดภัย และสะอาดกว่าปั๊มน้ำมัน  จ้า....

เขียนมันส์จริงๆๆ อ่านแล้วเหงื่อแตก หายหนาวไปเยอะเล๊ย!

ขอเรื่อง ขอภาพอีก

อย่างนี้ต้องบอกว่า สบายดีปี๋ใหม่ ขอรับ

ไปเที่ยวต่างประเทศซะด้วย น่าอิจฉาๆ น่าสนุกดี ชอบๆ "บักหัมน่อยตุหรัดตุเหร่" "ย่างพ้นร้านแหกตา"

สวัสดีแหม่ค่ะน้องซูซาน

อ่านแล้วสนุกจัง จะติดตามอ่านต่อไปค่ะ

โชคดีปีใหม่ และตลอดไปนะคะ

P  พี่แป๋ว

ก็โหดเรื่องการเดินทางแหล่ะค่ะพี่ แต่อย่างอื่นส่วนมากเน้นไปทางฮา ตามกลิ่นมาหรือพี่ อิ อิ จริงๆ แล้วห้องน้ำฝั่งลาวเป็นอย่างหนึ่งที่เป็น topic คุยกันกับน้องชายว่า แปลกมาก สะอาดกว่าทางบ้านเรา ถึงวัสดุของห้องน้ำจะไม่ดีเลิศ แต่ความสะอาดนับว่าดีกว่าต่างจังหวัดของเรามาก เข้าได้อย่างสบายใจค่ะ ส่วนห้องน้ำธรรมชาติเข้าบ่อยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ลมมันเย็น ^ ^
P  พ่อครูฯ

หนูเน้นฮาค่ะ เก็บเรื่องที่เจอมาเล่าให้ฟังก็สนุกดี ไม่อยากให้ซีเรียส หนูเขียนอีกตอนไว้แล้วเมื่อคืน แต่หมดแรง เดี๋ยววันนี้กลับไปบ้านจะเอาขึ้นให้อ่านต่อกัน
P  คุณณัฏฐ์

สะบายดีปีใหม่ค่ะ ฟังแล้วดูหรูเชียว ไปเที่ยวต่างประเทศ : ) ได้ตุหรัดตุเหร่ไปทั่ว เลยได้ของราคาถูกและเห็นชีวิตประจำวันของชาวบ้านเยอะ ไม่ได้เดินอยู่ในเส้นทางที่นักท่องเที่ยวใช้อย่างเดียว ซอกแซกไปทั่ว เดินจนขาจะหลุด
P  ครูอ้อย

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ โชคดีเช่นกันค่า : >
ตอนต่อไปรอไม่นาน เดี๋ยวคืนนี้ก็ได้อ่านแล้วค่ะ ปั่นต้นฉบับยิกๆ กลัวลืม

สวัสดีปีใหม่ค่ะ เขียนเล่าได้มันมาก ช่วยย้ำให้ผู้อาวุโสแน่ใจว่าการเดินทางเช่นนี้แม้จะสนุกแต่ไม่เหมาะกับวัยตัวเองนะคะ

นักท่องเที่ยวที่พี่เคยเห็นที่วังเวียง กับที่น้องซูซานเห็นยังคงเหมือนๆกันคือเป็นพวกบัดเจ็ดทัวร์ ค่อยๆไป และกินเบียร์ เข้าร้านเน็ต ราวกับว่าหากไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกแล้วจะสาปสูญ

จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ

P  พี่นุช

หนูก็ไม่ได้ตะลุยแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่ถึงกับแบกเป้แบ๊กแพคทัวร์ ก็มีเตรียมการณ์ไปเหมือนกัน จองที่พักล่วงหน้า ลดการเดินทางโหดๆ ด้วยเครื่องบินในช่วงที่สามารถ แต่ช่วงที่ไม่มีสนามบินอย่าง เวียงจันทน์-วังเวียง และวังเวียง-หลวงพระบาง ก็ต้องนั่งรถล่ะค่ะ คนก็ไปน้อย เหมารถไม่คุ้ม แต่ก็ได้รสชาดอีกแบบ ถ้าหลังจากนี้ไปสักห้าปีก็คงไม่ไหวแล้ว เที่ยวแบบนี้ทรหดพอควรค่ะ หนูไม่ชอบไปกับทัวร์ ไม่ชอบให้ใครมากำหนดเวลาว่าต้องทำอะไรตอนไหน เลยต้องลุยเองแบบนี้ พี่นุชก็น่าจะยังไหวนะคะเนี่ย อิ อิ ยังสาวยังจ๋วยอยู่เลย

แล้วก่อนปีใหม่ตกลงได้ไปดูโขนมั้ยคะพี่ น้องชายหนูบอกว่าสนุกดี และเครื่องประกอบทั้งหลายก็อลังการ เสียอยู่แต่ที่คนดูฟังภาษาไทยไม่ค่อยเข้าใจ เขาประกาศทุกช่วงเบรก บอกว่ากรุณาอย่าใช้แฟลชถ่ายรูปก็ไม่มีใครฟัง ถ่ายกันวอบแวบตลอด น้องชายเลยเซ็งเล็กๆ ค่ะ แย่นะคะอยู่เมืองไทยแต่ฟังภาษาไทยไม่เข้าใจ

สวัสดีค่ะน้องซูซาน

ถึงแม้จะไปลำบาก

แต่พี่ว่าคุ้มจัง สวยมากค่ะ

แต่พี่ขอชมตามที่น้องเล่าให้ฟังไปก่อนนะคะ

หวัดดีจ๊ะซาน

             เล่าสนุกชะมัดยาดเลย เห็นภาพอีกต่างหาก หัวเราะจนปวดท้องอะ       .....น้องได้ดูทีวีเขายัง  โคด-สะ-นา เขาเป็นไงมั่งอะคะ  .... ถามเจาะเลยเหนี่ย...  อิอิ      อย่างไรก็ดี  ให้น้องเล่าตามสะดวกเน้อ  พี่จะรอขำ เอ๊ยรออ่านเน้อ : )

P  พี่อุบล

ไว้ต้องลองหาโอกาสไปเที่ยวดูค่ะพี่ แล้วทำตัวซอกแซกทัวร์เหมือนหนูถึงจะสนุก
P  พี่แอมแปร์

อ้าว เห็นหนูเป็นตระกูลเชิญยิ้มซะแล้ะ ตลกตัวเองเหมือนกัน โก๊ะๆ หลายเรื่อง ดูโคดสะนาแล้วค่ะพี่ ถ้าพี่ไม่ถามก็ลืมแล้วนะเนี่ย ขำจะตายมีโคดสะนายาอายุวัฒนะด้วยค่ะ จริงๆ นะ ไม่ได้ตลกเล่นเลย ยังหัวเราะกับน้องชายแทบตาย เป็นพวกยาลูกกลอนค่ะ แต่เขาบรรยายสรรพคุณว่าเป็นยาอายุวัฒนะเลยนะนั่น อยู่บ้านเรานี่ต้องโดน อ.ย. เล่นงาน
  • ตามมาเก็บตกเมืองลาว
  • โอ้โหธรรมชาติยังคงงดงามจริงๆ
P  พี่นารี

ธรรมชาติยังสวยจริงๆ ค่ะพี่ ดูเหมือนรัฐบาลลาวเขาก็รู้ว่าจุดขายของเขานี่อยู่ที่ธรรมชาติ เห็นในข่าวยกเลิกสัมปทานหันมาปลูกป่าแทนแล้วค่ะ ที่นี่เขารวยไม้จริงๆ ถ้าช่างสังเกตุจะเห็นบ้านเรือนคนทำด้วยไม้แผ่นเบ่อเริ่ม ขนาดที่บ้านเราต้องเป็นเศรษฐีเท่านั้นถึงจะมีปัญญาซื้อมาทำ เตียง โต๊ะ แคร่ เก้าอี้ก็ไม้ทั้งดุ้น เฟอร์นิเจอร์สารพัดทำจากไม้แผ่นใหญ่ทั้งนั้น

ความจริงเที่ยวแบบนี้มันกว่าเยอะเลยนะน้องซูซาน มันเห็นชีวิตสองข้างทาง

เห็นผู้คน และเพื่อนร่วมเดินทาง หนุ๊กอีแหล่ว....

P  พี่บางทราย

ลุยแบบนี้นานทีปีหนก็ดีค่ะ ทำให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวของเรา ปกติจะเน้นสบาย ไฮโซเล็กๆ พอมาตลุยเที่ยวก็ทำให้รู้สึกกลับไปเหมือนช่วงวัยรุ่น สะใจดีค่ะ

อ่านไปดื่มกาแฟไป สนุกดีนะคะ

พี่เคยจับรถไฟไปมอนติคาร์โลกันหลายคน วิ่งกันตับแลบ พอขึ้นรถไดเ รถออกเลย เหนื่อยแทบแย่

พอขากลับรถlateมาก รออยู่จนตี 3กว่าจะมีรถกลับปารีส

ที่เล่านี่เพราะ เคยไปเที่ยวแบบวิ่งไล่รถไฟมาแล้วเหมือนกัน เป้นรสชาดของชีวิตค่ะ

P  พี่ศศินันท์

ประสบการณ์พวกนี้มาเล่ากันหลังจากเหตุเกิดไปแล้วมันก็สนุกสนานดีนะคะ แต่ตอนที่เจออยู่ตอนนั้นคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลุ้นระทึก

ที่ปารีสมีพี่คนสนิทเขาไปเมื่อช่วงที่เกิดเหตุขู่วางระเบิด ผู้คนทยอยออกจากรถไฟใต้ดินไปเรื่อยๆ เขาก็ไม่รู้เรื่องเพราะฟังประกาศไม่ออก สี่คนพ่อแม่ลูกรอจนไม่มีใครก็งงๆ ออกจากรถขึ้นมาข้างบน ถนนปิด ต้องเดินฝ่าฝนกลับโรงแรม ยิ้มไม่ออกเลยค่ะ แต่พอมาเล่าให้ฟังก็เล่าแบบขำๆ ได้

ถ้านับประสบการณ์ไล่ตะครุบรถไฟนี่หนูก็เคยครั้งหนึ่ง แต่ที่เด็ดสุดคือเครื่องบิน ถึงขั้นเขาจะถอดบันไดออกแล้ว วิ่งไปทันเฉียดฉิว กำลังจะปิดประตูเครื่อง คนในนั้นมองกันตาเขียวปั๊ด ^ ^

เคยไปครั้งนึง ประทับใจมากๆครับ

อ่านแล้วนึกภาพออกเลยโดยฉพาะนั่งรถโดยสารน่ะครับ 555+

จะหาโอกาสไปอีกให้ได้ครับ

คุณรินทร์

ก็สนุกดีนะคะ เป็นอะไรที่ปกติไม่ค่อยได้เจอ เปลี่ยนบรรยากาศให้ชีวิตบ้าง นานๆ ครั้งก็ไม่เลวค่ะ แต่คงอีกนานกว่าจะได้ไปลาวอีก เพราะมีหลายประเทศที่ยังไม่ได้ไป จะลองไปเที่ยวที่อื่นดูบ้างค่ะ พเนจรไปเรื่อยๆ ตามเวลาและโอกาสที่สะดวก : )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท