กำลังใจ...(R2R) สู้ต่อไป


หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านวารสารสายใยพยาธิฉบับล่าสุดจบในวันอาฑิตย์ ปรากฏว่ามีคอลัมน์หนึ่งกินใจและตรงใจกับอารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียนเป็นอย่างมาก นั่นคือคอลัมน์ "3 สร้างทางวิจัยของรศ.นพ.พรพรต ลิ้มประเสริฐ"  ซึ่งเขียนเอาไว้ ผู้เขียนขอยกเอามาทั้งประโยค

"การทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง ทำให้นึกถึงคำพูดที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล ได้ยกไว้ในเอกสารการสอน Health Economics ว่า......
Pessimist : See difficultes in every opportunity.
Optimist    : See opportunitiesin every difficulty.
นอกจากนี้ได้นึกถึงการบรรยายของพลอากาศโทบุญเลิศ จุลเกียรติ ที่ท่านได้แสดงการดำเนินชีวิตแบบมีจุดมุ่งหมายโดยอาศัยการผสมผสานของหลัก เมื่อพบอุปสรรคก็อย่าท้อ ใช้ปัญญา แก้ปัญหา เหนื่อยนักก็พักเป็นครั้งคราว"

เพราะสัปดาห์นี้ผู้เขียนมีเรื่องท้อแท้ใจถึง 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องของผู้เขียนเอง เกี่ยวกับงานวิจัย R2R เรื่องการเปรียบเทียบผลการตรวจ SI & TIBC จากหลอดเก็บเลือดล้างพิเศษและหลอดเก็บเลือดล้างธรรมดา ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของ.....และไม่ให้นำมาใช้อีกด้วย  หากผู้ป่วยรายไหนลืมเก็บเลือดใส่หลอดล้างพิเศษก็ให้เจาะเลือดเก็บใหม่เท่านั้น ห้ามใช้กับหลอดเลือดล้างธรรมดา แม้ผลการวิเคราะห์จะสวยงามมากขนาดไหน และผู้เขียนก็พยายามชี้แจงก็ไม่เป็นผล ตอนนั้นผู้เขียนรู้สึกท้อใจเป็นอย่างมาก และนึกถึงอาจารย์หรือนักวิจัยไทยบางท่าน ที่เคยได้เล่าถึงผลงานไม่เป็นที่ยอมรับ ว่าความรู้สึกก็คงเป็นแบบนี้นี่เอง....

ได้อ่านคอลัมน์ที่ผู้เขียนกล่าวข้างต้นแล้ว รู้สึกผู้เขียนมีกำลังใจขึ้น ก็อาจทำการพัก และเก็บข้อมูลไปอีกเรื่อย ๆ  ก่อน ทำให้ผู้เขียนนึกถึงผลงานของตัวเองเรื่องการเปลี่ยนมาใช้ Primary tube แทนการใช้ Sample cup ซึ่งจำได้ว่าผู้เขียนขาย Idea ตั้งแต่มาทำงานใหม่  ๆ (ปี 2539) จนเวลาผ่านไปกระทั่ง ส.ค. 2547 ถึงได้นำมาใช้และเป็นที่ยอมรับจนถึงปัจจุบัน 

ต้องขอบคุณ Gotoknow ที่สอนให้ผู้เขียนมองโลกในแง่ดี ๆ เปลี่ยนจากความท้อแท้ใจ ....สิ้นหวังมาเป็นให้กำลังใจแม้แต่ตัวเองและให้กับคนรอบข้าง ผู้เขียนไม่ได้หวังอะไรมากมายอีกต่อไป เพียงแต่อยากบันทึกเก็บความรู้สึกและความทรงจำเช่นนี้ไว้ จำได้ว่าจากอบรมคนเขียน Blog มอ. มีหลาย ๆ ท่านบอกว่าการเขียนบันทึกอย่ารีบผลีผลามตีพิมพ์เป็นอันขาด ควรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบเสมอ  ชื่อบันทึกนี้แรกเริ่มเดิมทีผู้เขียนตั้งใจให้ชื่อว่า "ความท้อแท้ใจ....กับ R2R"  แต่หลังจากหลายต่อหลายอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวข้างต้น จึงขอเปลี่ยนชื่อบันทึกนี้เป็น "กำลังใจ...(R2R) สู้ต่อไป"

อ้อ! ลืมไปความท้อใจอย่างที่2 เป็นความท้อใจของชาวเคมีคลินิกหลาย ๆ ท่าน และผู้เขียนก็เป็น 1 ในนั้น (ไม่น่าเข้าไปเกี่ยวเลยเรา) แล้วจะเล่าในบันทึกต่อไป

หมายเลขบันทึก: 38015เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2006 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

การไม่ยอมรับผลงานวิจัยดังกล่าว คงต้องประกอบด้วยเหตุผลที่สมควร และ ควรประกอบด้วยคำแนะนำ เชิงสร้างสรรค์ ว่า จะให้ปรับแก้อย่างไร

อีกประการ หากคุณศิริเชื่อในวิธีการดำเนินงานวิจัย ผลการวิจัยที่ได้ (ซึ่งจะต้องสามารถอธิบายผลที่ได้เชิงทฤษฎีด้วย) เราสามารถสร้างความยอมรับในผลงานโดยนำไปเสนอในที่ประชุม เช่น ที่ประชุมเทคนิคการแพทย์ เพื่อฟังความเห็น รวมทั้งนำไปลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาชีพ ที่มีการ review ที่ดีระดับหนึ่ง

อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ

  • ยินดีด้วยค่ะที่คุณศิริ   ที่มีกำลังใจ...ดีขึ้น
  • ชอบคอลัมภ์นั้นเหมือนกันค่ะ   พยายามที่จะอ่านให้จบ   ที่ใช้คำว่าพยายามเพราะเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง    อ่านไปหันมามองตัวเองไป    แล้วเลย....ไม่อยากอ่าน
  • อยากเป็น  แบบ  Optimist    : See opportunitiesin every difficulty.   เหมือนกันค่ะ    ทำไงดี ?     รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแบบ  See difficulties in everything and See nothing in every difficulty.
  • บ่น...ไปงั้นแหละ   เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น...นะ
ขอพี่เม่ยพูดมั่งนะ...!
   การไม่ยอมรับนั้นคงไม่ใช่ไม่ยอมรับ (พูดเองก็จะงงเอง...)  แต่อาจมีเหตุผลหรือจุดที่คิดว่าต้องการให้มีการปรับแก้ได้อีกหรือเปล่าคะ?  ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วก็น่าจะขยายผลด้วยการทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีก เพื่อให้ผลการศึกษานี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ โดยไม่ต้องมีความกังวลใดๆหลงเหลืออยู่อีก....
    สู้ต่อไปนะ! ทา.เค.ศิริ..ฉิ-หน่า-ฮือ- ช๊อก-กา.....
ลืมสังเกตไปค่ะ...รูปสวยนะคะ

เรียนรู้...แลกเปลี่ยนปรับปรุง..พัฒนา..

เชื่อและศรัทธา...ในสิ่งที่เราทำนะคะ

เห็นใจและเห็นใจค่ะ รู้ว่าแม้จะปลอบใจไปแล้วก็ยากที่จะทำใจ แต่ก็ดีใจที่คุณศิริไม่หยุดยั้งค่ะ ต้องถือเสียว่า ถ้าราบรื่น ง่ายดาย เราก็คงไม่ได้รู้สึกว่าน่าภูมิใจเมื่อมันสำเร็จมากเท่ากับเมื่อมีอุปสรรค ใช่ไหมคะ ดังที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว

ระบายได้สร้างสรรค์ดีค่ะ ขอปรบมือให้

มาอีกครั้งหนึ่งค่ะ   เนื่องจากความคิดเห็นของตัวเองอันเมื่อวานไม่ค่อยจะสร้างสรรค์ (ลบทิ้งได้ค่ะ)...เอาใหม่ๆ
งานวิจัยทุกชิ้นมีค่าในตัวมันเอง   ถึงแม้ว่าจะไม่ถูกนำมาใช้เพราะเงื่อนไขบางอย่าง      แต่ถ้าได้รับการตีพิมพ์    ก็อาจจะมีคนนำไปใช้    อ้างอิงและวิจัยต่อยอดได้...
.
สู้ต่อไป..
ด้วยความสัตย์จริงตอนแรกตัวเองจะไม่เขียนเรื่องของตัวเองแล้วน๊ะค่ะ แต่พอได้อ่านคอลัมน์ 3 สร้างทางวิจัย แล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้น ได้ทั้งข้อคิด คติดีๆ มากมาย ซึ่งคุณ nidnoi ก็ได้นำไปต่อยอดได้อย่างสวยงามค่ะในเก็บข้อคิดคติเตือนใจฯ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจค่ะ รับรองว่าจะสู้ต่อไปค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท