ผมได้รับเอกสารรายงานผลการประเมินความเข้มแข็งของหมู่บ้านจากปลัดวาสนา โครงการเสริมสร้างกระบวนการชุมชนเข้มแข็งอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน(ชุมชนอินทรีย์)จังหวัดนครศรีธรรมราชรุ่นที่1 จำนวน400หมู่บ้าน จัดทำโดยปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย
เนื้อหามี3ส่วนคือ
1.ตัวโครงการ (เหตุผล/ที่มาการดำเนินโครงการ กรอบแนวคิด พื้นที่เป้าหมายและRoad mapการเคลื่อนงาน/ผู้รับผิดชอบ)
2.หลักการและกรอบแนวคิดการประเมินความเข้มแข็งของหมู่บ้านรุ่นที่1 จำนวน400หมู่บ้าน
3.สรุปผลการประเมินความเข้มแข็งของหมู่บ้าน
ตัวโครงการนำเสนอหลายครั้งแล้ว โดยสรุปคือ ใช้กระบวนการแผนแม่บทชุมชน และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ทำร่วมกันแบ่งกันรับผิดชอบทั้งภาครัฐและชุมชน รุ่นแรก 400 หมู่บ้าน ปกครองกับยมนาสนับสนุนจัดทำแผน ปีสอง แปลงแผนสู่การปฏิบัติด้วยKM กศน.เจ้าภาพ
ปีสาม KM เชื่อมต่อการพัฒนากับศูนย์ถ่ายทอด เกษตรจังหวัด สกย.และธกส.เจ้าภาพ
ปีสี่ สร้างความยั่งยืนด้วยKMมาตรฐานชุมชน/สุขภาพ พัฒนาชุมชนและสาธารณสุขเจ้าภาพ
ในรายละเอียดการดำเนินงานของแต่ละรุ่น และจากรุ่นสู่รุ่น มีการผสานกิจกรรมและงบดำเนินการ ไม่เถรตรงตามกรอบที่กำหนดไว้ ดังที่เล่าไว้ในวงเรียนรู้คุณเอื้อวันที่9ม.ค. ซึ่งจะมีการหารือกันในวันที่11ม.ค.นี้ ลิงค์
ในที่นี้จะเสนอกรอบในการประเมินซึ่งกำหนดไว้5เรื่องคือ ผู้นำ แผนชุมชน การจัดการความรู้ ทุนของชุมชน และการบริหารจัดการ โดยมีแบบประเมินความเข้มแข็งของหมู่บ้าน 9 ประเด็นคือ
ทำบัญชีครัวเรือน
การออม
กิจกรรมลดรายจ่าย
กิจกรรมเพิ่มรายได้
ทำเกษตรทฤษฎีใหม่
กิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากร/สิ่งแวดล้อม
กิจกรรมเอื้ออาทร/สวัสดิการ
การดำรงชีวิตตามหลักศาสนา
ผู้นำ
นอกจากนี้ยังมีการประเมินกิจกรรมออมทรัพย์ อาชีพ วิสาหกิจชุมชน ศูนย์การเรียนรู้และด้านอื่นๆ
ตัวบ่งชี้ทั้งหมดจะจัดไว้ในกลุ่มครัวเรือนและระดับหมู่บ้านเพื่อนำมาวิเคราะห์จัดลำดับความเข้มแข็ง 3 ระดับคือ มาก ปานกลาง น้อย แยกเป็นรายหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ โดยมีข้อมูลกลุ่ม/กิจกรรม/โครงการที่สามารถเป็นตัวอย่าง/แหล่งเรียนรู้ในแต่ละตำบลด้วย
ผมไม่แน่ใจว่าตัวบ่งชี้ต่างๆบ่งชี้ความเข้มแข็งได้หรือเปล่า ไม่ทราบว่าทีมประเมินเก็บข้อมูลอย่างไร (ครบถ้วน ถูกต้อง) ซึ่งก็คงเหมือนกับการประเมินทั่วไป เช่นการประเมินสถานศึกษาของสมศ. แต่ไม่ใช่ปัญหา
ผมชื่นชมการทำงานของทีมงานที่มีความตั้งใจ มีหลักคิด แนวทางที่ค่อนข้างเป็นระบบชัดเจน ในรายละเอียด เราต้องเรียนรู้จากกันและกัน สร้างภาพฝันร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งๆขึ้น ขยายภาพฝันให้รับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น สร้างทีมเรียนรู้ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงานเป็นทีมKMหลากหลายบทบาท ส่งลูกรับลูกเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ สอดประสานกัน เพิ่มเติมการคิดเชิงระบบให้เห็นภาพย่อยในภาพใหญ่ และเห็นภาพใหญ่ในภาพย่อย
เรื่องที่ทำเป็นเรื่องยาก เป็นการปฏิรูปที่มีคุณค่ายิ่งใหญ่กว่าการปฏิรูปของคมช. เป็นการทำลายตราสังข์ที่ผูกมัดประเทศ ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือมีนโยบายที่ดีอย่างไร เรื่องเหล่านี้ก็ยังมีความสำคัญเป็นอันดับต้น
รายงานประเมินผลนี้ควรนำเข้าสู่การเรียนรู้ของทีมทำตัวชี้วัดเศรษฐกิจพอเพียงด้วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการ คิด ทำ ประเมิน เรียนรู้ ทั้งเป้าหมาย กระบวนการ และผลที่เกิดขึ้น ให้เกิดเป็นวัฏจักร/วัฒนธรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนKMนครศรีธรรมราชสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
ได้เห็นพลังของพื้นที่แล้วรู้สึกชื่นชมมาก
นครฯมีหลายภูมินิเวศน์ มีฐานเศรษฐกิจหลายฐาน ในขณะที่เป็นข้อดี ก็อาจทำให้มีเรื่องต้องดูแลหลายเรื่อง เช่น นา ประมง สวน ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่นๆ ทำให้ต้องกระจายทรัพยากรในการดูแลและบริหารจัดการ (เทียบกับจังหวัดอื่นๆที่อาจไม่มีความหลากหลาย เช่น ข้าวเป็นฐานเศรษฐกิจสังคมที่สำคัญเพียงอย่างเดียว การแก้ปัญหาก็มุ่งไปที่ข้าวได้เลย)
ดังนั้น การทำแผนแม่บทที่เชื่อมโยงกิจกรรมหลายฐานเหล่านี้ (โดยมีคนเป็นศูนย์กลาง) จึงเป็นความปราดเปรื่องของน้ายงค์ และการทำงานเป็นขบวนอย่างเชื่อมโยงก็เป็นความปราดเปรื่องของท่านผู้ว่าฯ ถ้าสำเร็จ ขบวนเมืองนครฯก็จะเป็นตัวแบบที่สำคัญสำหรับที่อื่นๆค่ะ
สนใจการทำตัวชี้วัดเศรษฐกิจพอเพียงนะคะ ตัวเองได้มีโอกาสร่วมทำตัวชี้วัดเศรษฐกิจพอเพียงในระดับประเทศให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ) เพื่อเป็นตัวชี้เพื่อตรวจสอบหรือให้คำแนะนำทิศทางในการดำเนินนโยบายของรัฐ หนึ่งในตัวชี้วัดที่สภาที่ปรึกษาฯสนใจด้วย คือ ความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งวัดยากในระดับประเทศเพราะชุมชนมีความหลากหลายและอาจมีตัวชี้วัดที่ต่างกัน จะหาตัวชี้วัดความเข้มแข็งชุมชนชุดหนึ่งสำหรับทั้งประเทศได้อย่างไร
ถ้าได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมงานก็คงจะน่าสนใจค่ะ
ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ
วันนี้ดิฉันและคุณพิพัฒน์ได้ไปเป็นวิทยากรคุยเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับภาคตะวันออก ที่ ม.บูรพา ข้าราชการในพื้นที่ และคณาจารย์ดูจะกระตือรือร้นและรู้สึกเหมือนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ทำให้เห็นภาพการเป็นเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรมขึ้น ท่านรองผู้ว่าฯบอกว่า "ได้เห็นแนวทางในการขับเคลื่อน" เราสองคนดีใจที่ได้ทำประโยชน์ค่ะ
ทีมสภาที่ปรึกษาฯแจ้งว่าอยากจะลงพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที่ 18-22 เมษายน พื้นที่ที่อยู่ในใจดิฉัน (ยังไม่ตัดสินใจ) คือ ที่ตรัง (ปะเหลียน) พัทลุง สงขลา (จะนะ) รวมทั้งนครฯ ค่ะ
ถ้ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมพื้นที่ก็ยินดีค่ะ
ดิฉันเองก็ได้เรียนรู้จาก KM เมืองนคร ผ่าน blog คุณภีม ขอบคุณค่ะ