จากเกม blog tag ที่กำลังระบาดหนักเมื่อวานนี้
โดยได้เริ่มจาก อ.จันทวรรณ ในบันทึก ชวนเล่น Blog tag วิธิีละลายพฤติกรรมกระชับความสัมพันธ์ผ่าน blog ชั่วข้ามคืน เกมนี้ก็แพร่สะพัดดุจไฟลามทุ่ง
แล้ว k-jira ก็มีหรือจะเหลือ เหอๆๆ ^__^
โดนมาเหมือนกันค่ะ จาก อจ.หมอปารมี น้อง IS แล้วก็ น้อง สุธรา (โห.. มา 3 คนเนี่ย ต้องเผย 15 ข้อมั้ยคะ 555)
ขอบคุณนะคะ ที่ tag มาหา และก็ขอโทษที่มารับ tag ช้าไป(เกือบ 24 ชม. แน่ะ ) เหตุเพราะเมื่อคืนดึกมาก แล้วนึกไม่ออกด้วยว่าจะเลือกความลับอะไรมาเผยดี เพราะว่าส่วนที่เผยได้ ก็เขียนไว้ใน How come to be k-jira ? หมดแล้ว
แต่ก็เอาเต๊อะ... มันก็ยังมีส่วนที่เก็บไว้อีกสิน่า ส่วนนี้จะรู้กันเฉพาะในเพื่อนสนิท หรือพี่น้องเท่านั้นแหล่ะ
1. บ้าพระเอกหนังจีนมาก
เริ่มมีอาการตั้งแต่อยู่ประถมเลย พอโตขึ้นหน่อย นั่งรถตุ๊กไปโรงเรียน จะมีอยู่คันหนึ่ง ติดรูปฮุ้นปวยเอี้ยง พระเอกเรื่องกระบี่ไร้เทียมทาน โพสต์ท่ารำกระบี่ โอ้ย..ภาพนั้นหล่อมากหัวใจแทบละลาย ประมาณว่าทุกเช้า ต้องรอคันนั้น เพื่อจะได้นั่งรถไป ดูภาพพระเอกไป ฮ่าฮ่า แล้วตอนนั้นจะมีขนมช็อคโกเลตตราเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะแถมสติกเกอร์ดาราจีน ก็จะกินแต่ขนมนี้เพื่อสะสมสติ๊กเกอร์ค่ะ
แม้แต่เรียนจบทำงานเป็นพยาบาล ก็ยังชอบพระเอกหนังจีน ชอบฟังเพลงจีน เนื่องจากทำงานมีเงินเป็นของตัวเอง จึงสามารถทำอะไรได้ตามใจชอบขึ้น จะซื้อหนังสืออัลบั้มดารา มาตัดภาพดาราคนโปรดใส่อัลบั้มกาว คนอื่นเขาซื้ออัลบั้มกาวใส่รูปถ่าย แต่ตัวข้าพเจ้า k-jira เอามาใส่รูปดาราคนโปรดเจ้าค่ะ ฝาห้องจะแปะฟิวเจอร์บอร์ด ติดรูปดาราเพียบ แม้แต่ในกระเป๋าสะตังส์ ก็จะใส่รูปพระเอกคนโปรดเอาไว้
หนุ่มๆทำท่าจะมาจีบ พอเห็นรูปที่ติดในกระเป๋าถามว่า "หน้าหล่อ..เนี่ยใคร" ก็ตอบไปอย่างไม่อายปากว่า " แฟน" ชะรอยคงรู้ว่าหล่อเทียบสู้ไม่ได้ ต่างคนเลยล่าถอยไป สุดท้าย k-jira เลยขายไม่ออกมาจนถึงทุกวันนี้ 555555
(อดีต) 3 พระเอกหนังจีนในดวงใจ หลีหมิง กู่เทียนเล่อ จินเฉิงอู่ (ทาเคชิ)
สำหรับชื่อพระเอกคนโปรดมาเป็นรุ่นค่ะ รุ่นแรกคือ หลีหมิง ซัก 2-3 ปีต่อมา หัวใจอีกห้องก็เริ่มเปิดรับ กู่เทียนหล่อ (ชอบสุดคือบทเอี้ยก้วย ในเรื่องมังกรหยก) ต่อมากู่เทียนเล่อ เริ่มไปนิยมผิวแทน มาลุคใหม่ตัวดำหัวเกรียน ความนิยมจาก k-jira จึงเริ่มถดถอย โอนเอนไปชอบ จินเฉิงอู่ (ทาเคชิ คาเนชิโร่) ถ้าใครเคยดูเรื่อง ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา หรือเรื่อง จอมใจบ้านมีดบิน เขาก็คือพระเอกของเรื่องนั้นเอง มาช่วง 1-2 ปีให้หลังนี้ ก็เริ่มเปิดใจรับหนุ่มแดนกิมจิ หนุ่มคนนั้นคือ ควอน ซัง วู (พระเอกเรื่อง ฝากรักไว้ ที่ปลายฟ้า) ค่ะ
2. รักหมา (ที่ชื่อชูจัง)
เหมือนลูก
แรกๆก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะคะ พยายามประคบประหงม เพราะว่าเสียดายตังส์ที่ซื้อมาแพง แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมา มันฉลาดแถมขี้อ้อน เลยรักปักใจเลย ดูแลกันมาเกือบ 11 ปี นอนกอดกันทุกคืน ตอนปีแรกๆ ที่เลี้ยงมันไว้ เพื่อมันแล้ว k-jira ต้องซื้อที่นอนปิคนิค ย้ายตัวเองจากเตียงลงมานอนที่พื้นเป็นปี เนื่องจากเค้าตัวเล็ก กระโดดขึ้นลงเตียงไม่ได้ ห่วงกลัวเขาจะขาหัก เลยปูที่นอนปิคนิก นอนกับพื้นกับหมาซะเลย
( เปรียบรูปหมา กับ k-jira
ตอนเด็กๆให้ดูค่ะ
เพราะมีคนบอกว่า แววตาคล้ายกันมาก หุหุ หน้าตาก็คล้ายกัน
แหะๆ)
ตอนนี้ชูจังเค้าแก่ตัวลง ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ก็ใช้การ palliative care ทุกวันต้องคอยป้อนนมเอนชัวร์ให้เค้ากับไซริ้งค์ (เพราะไม่ยอมกินข้าว) กับใส่แพมเพิร์สเบอร์เอสให้ ตื่นนอนเช้าล้างก้นให้ลูก (หมา) เปลี่ยนแพมเพิร์สป้อนนม แล้วตัวเองค่อยอาบน้ำไปทำงาน ทิ้งไปไหนนานก็ไม่ได้ เป็นห่วงเค้า เมื่อเดือนที่แล้ว k-jira ไม่สบาย ปวดหลังมาก แต่ยืนกรานไม่ยอม admit ขอมานอนพักที่ห้อง (แต่ไม่กล้าบอกใครว่าห่วงหมา) โธ่.. ขืนนายเข้าโรงพยาบาลสิ ชูจังมีหวังตรอมใจตายแน่
3. ชอบซื้อหนังสือ
เห็นเล่มไหนถูกใจไม่ได้ จะซื้อไว้หมด เวลาซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ จะเสียดายมาก นานๆจะซื้อสักที โดยจะซื้อเวลาของใช้หมด หรือว่าไม่มีเสื้อจะใส่แล้วจริงๆ แต่สำหรับหนังสือนั้น เท่าไหร่เท่ากัน ไม่เคยนึกเสียดายเงินเลย ตอนนี้หนังสือจะล้นห้องอยู่แล้ว ซื้อมาทั้งที่ไม่ค่อยมีเวลาอ่าน สารภาพว่า อ่านยังไม่ถึง 10% ของหนังสือที่ซื้อมั้ง -_-'
4. แพ้ทุเรียน
ไม่ได้กินทุเรียนมา 20 กว่าปีแล้วมั้ง จำได้ว่าสมัยเด็กๆกินได้นะ ไม่เห็นมีอาการอะไรเลย แต่ต่อมา กินทุเรียนแล้วจะปวดศีรษะมาก หลังๆกินไม่ได้เลย แม้แต่ทุเรียนกวน แต่ว่าใจยังชอบนะ บางทีอดทนใจไม่ไหว กินข้าวเหนียวทุเรียน แบบเอาแต่กลิ่น ไม่ใส่เนื้อทุเรียนในน้ำที่ราดข้าวเหนียว แต่กินเสร็จก็จะปวดหัว ต้องวาง ice bag ไม่ก็กินยาแก้ปวดทุกทีเลย
5.
มีอ่อนแรงซีกซ้ายค่ะ
จำได้ว่าตอนแรกๆจะเข่าอ่อนทรุดบ่อย มารู้ว่ามีอ่อนแรงก็ตอนที่เป็นเยอะ พอจับมอเตอร์ไซต์แล้วล้มทั้งยืนเลย หาสาเหตุไม่เจอเหมือนกัน เคยทั้ง CT และก็ MRI รวมทั้ง EMG แต่ยังหาสาเหตุไม่เจอ ในเวลาปกติจะดูไม่ออกหรอกนะคะ ยกเว้น test motor power แล้วจะพบว่าขากับแขนซ้าย จะอ่อนกว่าซีกขวาเล็กน้อย ประมาณ gr 4+ ยกเว้นถ้าเป็นหวัด หรือไม่สบาย ก็อาจจะอ่อนลงเป็น gr 4- แต่คงเพราะร่างกายเริ่มปรับสภาพได้ เนื่องจากเป็นมา 10 กว่าปีแล้ว ช่วงหลังจึงไม่ค่อยหกล้มแล้ว เมื่อก่อนมีเครียดบ้างจากอาการที่เป็น แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว ไม่ค่อยตกใจอีก บางทีคนตกใจคือหมอที่ตรวจเจอ ต้องบอกหมอว่า ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นมานานแล้ว...ยังงี้แหล่ะ
แต่ก็มีบางช่วงเหมือนกัน ที่อยู่ๆแรงมันจะวูบตกไปเป็นพักๆ (อันนี้ไม่เกี่ยวกับซีกซ้าย) อย่างเช่นปากกาหลุดมือบ่อย ดังนั้นต้องระมัดระวังตัวมาก เวลาที่ถือของ ไม่กล้าถือพวกเครื่องมือหนักๆแพงๆด้วยมือเดียว ต้องใช้สองมือประคอง กลัวจะทำของเขาเสียหายน่ะค่ะ แหะๆ เหตุการณ์ที่ประทับใจสุดๆ จากการที่แรงมันตก แล้วไม่ทันระวัง คือ ถือขวดเบต้าดีนอยู่ แล้วทำเบต้าดีน หกรดชุดพยาบาลทั้งตัวเลย อายคนมากๆ
กับอีกครั้งหนึ่ง คือถือไซริ้งค์กับเข็มเบอร์ 18 จะเตรียมยา แล้วทำไซริ้งค์หลุดมือ จนเข็มเบอร์เสียบทะลุเอาง่ามนิ้ว ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของมือซ้าย โอย.. ตอนนั้นหวาดเสียวมาก อารามตกใจ ดึงเข็มออกจากง่ามนิ้วตัวเองค่ะ ใครรู้จักเข็มเบอร์ 18 นะ ว่ามันใหญ่แค่ไหน คิดดูว่ามันเสียบทะลุเนี่ย น่าหวาดเสียวแค่ไหน นึกถึงทีไร ยัง ซี๊ดไม่หายเลย หุหุ
โอ้..โห...พิมพ์เสร็จ
กลับมาทวนอ่านดู....เหอๆๆๆ ฟามลับของ k-jira
ยาวขนาดนี้เชียวเหรอ งั้นไม่พูดพล่ามทำเพลงล่ะค่ะ
ขอ tag ต่อละกัน
2. คุณ สุทิน
3. คุณ ครูตุ๊กแก
4. คุณ วิภู ชัยฤทธิ์
5. คุณ nidnoi
^_____________^
เห็นปุ๊บ ต้องเข้ามาอ่านปั๊บเลยค่ะ
ความลับที่ 4 ของพี่ K-jira แต่หนูชอบกินทุเรียนนะค่ะ
มาเก็บความลับของพี่ K-jira แล้วเลยเอา link ความลับของหนูมาแปะไว้ แลกกันนะค่ะ
ไปมาแล้วจ้า น้องมะปราง
ดันเผลอไปเผยความลับข้อที่ 6 ที่นั่นสะด้วย 555
ตามมาอ่านความลับค่ะ
สำหรับทุเรียน ถึงไม่แพ้สุก็เลือกที่จะไม่กินค่ะ ฌกลียดมากเลย เหอๆๆ
k-jira ชอบหนังสือเหมือนผมเลย จนอ่านไม่ทันเลยตอนนี้เลยเพลาๆ แล้วไปอ่านที่ร้านแทน
เอ แต่ที่ซีกซ้ายอ่อนแรงนี่แปลกนะ มันผิดปกติจัง พักหนึ่งนี่นานไหมครับ 5-10 นาที หรือเป็นที่เป็นเกือบครึ่งวัน
เป็นห่วงนะครับ
หลีหมิงจ๊ะ
มาอีกคนแล้ว สาวคนที่ดิฉันอยากรู้ความลับเธอเหลือเกิน ว่าจะน่าค้นหาเหมือนเจ้าของรึเปล่า รอมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ
และแล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ข้อแรก พระเอกหนังจีนแต่ละท่าน ดูชื่อคุ้น ๆ มาก เหมือนกลับไปอยู่ยุคเดียวกันเลยค่ะ อิ อิ
ข้อสอง ครอบครัวดิฉันก็รักหมามาก ตัวล่าสุดที่เลี้ยง ออกลูก ๆ น่ารักให้เราถึง 4 ตัว แต่สุดท้าย ด้วยความที่เขายังเด็ก เลยไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอ ไหนจะต้องเลี้ยงลูกน้อย ๆ อีก 4 ตัว เขาติดเชื้อไวรัส พาลทำให้ลูกน้อยทั้ง 4 ตัวของเขาติดเชื้อนี้ผ่านทางน้ำนมด้วย สุดท้าย เสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ เป็นอะไรที่ฝังใจดิฉันและลูก ๆ มาก นี่ผ่านไปปีกว่าแล้ว เด็ก ๆ ยังไม่กล้าเลี้ยงหมาอีกเลยค่ะ
ข้อสามเนี่ย ต้องยกให้ลูกสาวคนโตของดิฉัน เธอชอบอ่านหนังสือมาก ถึงมากที่สุด อ่านได้ทุกเรื่อง ผ่านร้านหนังสือไม่ได้ ต้องเสียเงินอย่างน้อย ร้อย สองร้อยบาททุกครั้งไป
ข้อ 4 เนี่ย เราอยู่กันได้ค่ะ คุณไม่ชอบในสิ่งที่ดิฉันชอบ อิ อิ
ส่วนข้อ 5 ดิฉันไม่แน่ใจว่าเคยเป็นรึยัง
ว่าแต่ว่า มีความลับอยู่อีก 1 ข้อ ที่ดิฉันอยากทราบมาก ๆ คือ อยากทราบว่า เราเคยรู้จักกันรึเปล่า เพราะคุยกันผ่านบันทึกทีไร เหมือนคนคุ้นเคยกันทุกครั้งเลยค่ะ
น้อง สุธรา คะ เพิ่งกลับมาจากไปอ่านความลับของน้องสุมาค่ะ
ทำให้พี่ประหลาดใจมาก... ถ้าหากให้พี่เติมความลับอีก 5 ข้อ รับรองว่า 4 ใน 5 ข้อของพี่ จะเหมือนกับน้องสุ มากเลยล่ะ
อิอิ ^___^
ก๊ากกก... อาจารย์หมอ มาโนช คะ เพิ่งรู้ เพิ่งรู้จริงนะคะว่า ที่แท้ หลีหมิง อดีตพระเอกในดวงใจของ k-jira ก็มาแอบเป็นหมออยู่ที่เมืองไทยนี่เอง 5555
เรื่องอ่อนแรงเนี่ย เวลาที่มันเป็นมากขึ้น จะเป็นวันๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 3 วัน กำลังตั้งสมมุติฐานให้กับตัวเองว่า จะเกี่ยวกับ viral infection รึเปล่า
ส่วนที่บอกว่าแรงตก วูบเป็นพักๆ คำว่า พักๆเนี่ย คือเสี้ยววินาทีค่ะ มันเหมือนกับอะไรที่ขาดช่วงไปแป๊บนึง เลยทำให้ของหลุดมือแบบไม่ทันตั้งตัว มันเหมือนคนสับประหงกน่ะค่ะ แป๊บนึงก็ชันคอกลับมา แล้วไม่ทิ้งร่องรอยผิดปกติใด
ขอบคุณมากสำหรับความห่วงใยค่ะ (โดยเฉพาะจากหลีหมิง 555)
^____^
คุณ รัตติยา คะ เรื่องว่าเคบรู้จักกันรึเปล่า สงสัยว่ารอวันนัดพบชาว blogger มอ. ครั้งต่อไป ความลับอาจจะได้รับการเฉลยก็ได้นะคะ
รอๆๆๆ อิอิ
^_________^
ฟังแล้วช่วงที่ผลอยจะเป็น cataplexy ครับ อาการเหมือนมากเลย
Episodes of muscular weakness which, depending on the severity of the attack, show up as anything from a barely perceptible slackening of the facial muscles to the dropping of the jaw or head, weakness at the knees, or total collapse on the floor.
These attacks are triggered by strong emotions such as exhilaration and laughter, anger and surprise. Cataplexy may be most severe when the subject is tired rather than fully alert
เคยมีอาการแบบผีอำไหมครับ อืมผมฟังดูก็ไม่ค่อยเหมือน narcolepsy เพราะเขาจะมีอาการอ่อนแรงวูบๆ แบบนี้อยู่บ่อยๆ ครับ แต่ของคุณ k-jira เป็นครั้งคราว วันหลังช่วงที่เป็นอาจต้องไปทำ sleep EEG ครับ
หมอหลีหมิง
มันคืออะไรเหรอคะ .. cataplexy ??
แต่ที่อ่านดูแล้ว ก็คล้ายๆค่ะ
พูดถึง ผีอำ หมายถึงอาการก่อนที่จะหลับ แล้วมันรู้สึกวูบๆ เหมือนถูกดูด หรือไม่ก็หายใจไม่ออกหรือเปล่าคะ
แหะๆ k-jira ไม่เคยเห็นผี (ไม่อยากเห็นด้วย หุหุ) มีคนเล่าว่า เวลาผีอำ คือผีขึ้นมานั่งทับบนตัวทำให้ขยับไม่ได้ อันนั้นไม่เคยโดนค่ะ เคยแต่นอนๆ ช่วงที่ใกล้จะหลับ แล้วมันหายใจไม่ออก ต้องสูดหายใจแรงๆ เพื่อให้ตื่นแล้วลุกขึ้นนั่ง
แบบนั้นเมื่อก่อนเป็นบ่อย แต่ช่วงหลังนานๆจะเป็นสักที สังเกตว่า ถ้าอะไรออกแรงมาเหนื่อยก่อนจะนอน เช่นออกกำลังกาย หรือไปวิ่งมาเนี่ย พอนอนก็มักจะเป็นค่ะ
ขอบพระคุณมากๆค่ะ พอคุยกับอาจารย์ ทำให้นึกถึงเรื่อง sleep EEG ขึ้นมาเลย ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลยค่ะ มัวแต่ตรวจทาง Neuro กับ ortho มาตลอด
^______^
ลืมบอกไปค่ะ ^__^
อาการ "นอนๆ ช่วงที่ใกล้จะหลับ แล้วมันรู้สึกวูบๆ เหมือนใจจะขาด หายใจไม่ออก ต้องสูดหายใจแรงๆ เพื่อให้ตื่นแล้วลุกขึ้นนั่ง " เนี่ย
พบว่า ลุกขึ้น กิน D2 หรือ D5 สักเม็ด พอนอนต่อ ก็จะหายค่ะ นอนหลับได้ ไม่มีอาการอีก
แต่ปกติไม่กินยานอนหลับนะคะ ยกเว้นถ้ามีอาการดังกล่าว
ก็เลยนึกว่า เกิดจากความเครียด ^^''
พี่ k-jira ค่ะ
ค่ะ คุณหมอมาโนช มีหลายชื่อเลยค่ะ
5555 ชื่อหลังเนี่ย เป็นปริศนาลับค่ะ เป็นความลับสุดยอด ต้อง tag double tag พี่ถึงจะเปิดเผยความลับนี้ 5555 (แต่อาจจะกระซิบบอกน้องมะปรางนะ)
พี่ K-jira บอกหน่อยไม่ได้หรอค่ะ ต้อง double tag เลยหรอค่ะ
ถ้ามีโอกาส งั้นขอหลังไมล์ วันพรุ่งนี้ก็ไปหาดใหญ่แล้ว จะได้หลังไมล์ถามตัวต่อตัวค่ะ
จริง ๆ ถ้าเป็นคุณหมอเรน นี่ อินเทรน ตอนนี้เลยนะค่ะ
น้อง มะปรางเปรี้ยว
ไว้ถ้าเจอกัน แล้วจะบอกค่ะ ^__^
อาจารย์ Kae คะ
อุ๊ย... รู้ได้ไงคะ ว่าตะกี้แว่บมา ?
ไม่ได้รีบไปไหนคะ รีบไปที่บล็อกของคุณ nidnoi จะไปอ่านความลับไงคะ แต่ยังไม่มีเลย ^__^
ส่วนพระเอกขาวๆตี๋ๆ มีดีตรงไหน อิอิ....อยากตอบ แต่เขิน 555555
kiss kiss
k-jira ครับ
ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้ มีเรื่องหนึ่งที่ผมเล่นแล้วหมอมาโนชเขาชอบสุดๆ ตอนเจอผมเขาบอกว่าเรื่องมันโรแมนติกมาก เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่อง favorite ของเขา (รวม Be With You , Crying Out for Love, In the Center of the World ) ที่สำคัญชื่อเรื่องเป็นชื่อเพลงของนักร้องสุดโปรดของเขาซะด้วย
หลีหมิง
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ มาโนช
เพิ่งทราบว่าอาจารย์ก็ชอบหนังญี่ปุ่นโรแมนติคเหรอคะ ^__^
เสียดายกดลิ้งค์ไม่ได้ เลยเข้าไป search หา ไม่ทราบว่าคือเรื่องสองเรื่องนี้รึเปล่าคะ
(อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก) คลิกดูรายละเอียดหนังที่นี่ เคยได้ยิน แต่เสียดายยังไม่เคยดู เข้าไปอ่านเรื่องย่อ ท่าทางจะเศร้านะคะ ^_^
|
สวัสดีค่ะ คุณ แผ่นดิน
เรื่องผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ เป็นหนังแอคชั่นโรแมนติค ที่ตอนนั้นดังจริงๆ จนทำออกมาถึง 3 ภาค (มั้ง..เท่าที่จำได้)
หนังจีนสมัยยุคนั้น.. น่าดูนะคะ แต่ช่วงหลังๆ ดูไม่ค่อยจะได้เลย เพราะหากไม่ใช่ฮาแบบไม่ค่อยมีสาระ ก็จะเป็นแบบฟิล์มมืดๆ พากษ์พูดบรรยายเหมือนตัวละครเล่าเรื่อง สไตล์นี้ดูเหมือนมีชื่อเรียก แต่เรียกไม่ถูก เป็นหนังศิลป์ แต่ท่าทาง k-jira เข้าไม่ค่อยจะถึง ดูแล้วอึดอัด ไม่ค่อยสนุก
หลายเดือนก่อนไปมุมขายวีซีดี ที่คาร์ฟู เห็นหนังแผ่นที่เป็นหนังกำลังภายในเก่าๆของชอร์บราเดอร์ ที่มีตี้หลุง เอ๋อตงเซิน ( ฯลฯ ใครอีกจำชื่อไม่ได้แล้ว) เล่นเป็นพระเอก ซื้อมาหลายเรื่องเลย ดูแล้วชอบมากๆ แม้เทคนิคจะเก่า ไม่ปล่อยแสง ปล่อยพลังระเบิดกันแบบปัจจุบัน แต่มันคลาสสิคดี ดูแล้วสนุกให้บรรยากาศและอารมณ์ กำลังภายในมากๆเลย โดยเฉพาะเสียงดนตรีของมัน
ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ วัดอยู่ไม่ไกลบ้าน เวลามีงานศพมักมีหนังกลางแปลงมาฉาย (เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักหนังกลางแปลงแล้วเนอะ)
นอนฟังแล้วได้ยินเสียง ดนตรีแบคกราวน์ เสียงฟันดาบ ปล่อยหมัด แล้วอยากดูมาก รู้ว่าเป็นหนังกำลังภายใน เพราะเคยดูจากทีวี แต่พ่อกับแม่ไม่เคยอนุญาตให้ไปดู ได้แต่นอนฟัง... มาตอนนี้พอได้ดูหนังเก่าๆจากวีซีดีเหล่านั้น มันเหมือนกับได้กลับไปทำความต้องการเดิมที่ยังค้างคาอยู่ในวัยเด็ก จึงรู้สึกมีความสุขบอกไม่ถูก ^__^
หนังจีนยุคปัจจุบัน ที่ดูได้ก็จะเป็นหนังกำลังภายในแบบฟอร์มใหญ่ๆ เช่น ฮีโร่ จอมใจบ้านมีดบิน แล้วล่าสุดที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ ....
เรื่องนี้อยากดูมาก.. แต่เสียดายช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย เลยไม่ได้ไปดู พอร่างกายเริ่มอำนวย เวลามันก็ไม่ให้อีก กว่าจะมีวันหยุด คงไปปลายเดือนหนังคงลาโรงแล้ว สงสัยได้แต่รอดูจากซีดีตามเคย T_T
สวัสดีค่ะ อ.ลูกหว้า
ยังไม่เคยสั่งซื้อหนังสือออนไลน์เลยค่ะ ซื้อไม่เป็น..เชยมาก แฮ่ๆ ประการสำคัญ..คงเพราะไม่กล้าด้วย ไม่แน่ใจในสภาพหนังสือ
อีกอย่างหนึ่ง สำหรับ k-jira ความสุขของการซื้อหนังสือประการหนึ่ง คือการเข้าไปในร้าน แล้วไปเดินดู เดินเลือกหนังสือน่ะค่ะ
ดังนั้น เวลาที่ไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์สิริกิตติ จึงได้ติดมือกลับบ้านไม่กี่เล่ม ส่วนใหญ่จะได้หนังสือเก่าที่ลดราคาเยอะๆ ส่วนหนังสือใหม่ๆ..ขอกลับมาซื้อที่หาดใหญ่ เพราะหากซื้อซะหมด เดี๋ยวเวลาเข้าร้านหนังสือ จะไม่มีหนังสือที่อยากได้ ให้เดินเลือกซื้อ
สรุปว่า.. ความสุขของการซื้อหนังสือ ท่าทางจะอยู่ที่การได้เดินเลือกหา มากกว่าจะอยู่ที่หนังสือจะแล้วนะนี่ ^___^
สวัสดีค่ะ คุณ นมินทร์ (นม.) และ อ.ลูกหว้า
ครูตุ๊กแก คะ
^___^
สวัสดีค่ะ พี่เม่ย
ปล. เหตุที่จำ ตี้หลุง กับ เอ๋อตงเซินได้ที่สุด เพราะสองคนนี้ สมัยนั้น.. หล่อมากกกกก.. ถึงมากที่สุดเลย ฮิฮิ
สวัสดีค่ะ คุณ แผ่นดิน
House of Flying Daggers จอมใจบ้านมีดบิน
k-jira ครับ เรื่องของหลีหมิงที่ผมชอบคือ เถียนมีมี่ 3650 วัน...รักเธอคนเดียว ไงครับ เพลงประกอบ k-jira ชอบไหมครับ ผมดูไปหลายรอบแล้ว
การแท็คนี่ดีนะขอรับ ทำให้ได้มาอ่านเรื่องของท่านแล้วย้อนถึงวัยเด็ก (มาแท็คช้าไปแย้ว)
พระเอกนักแสดงจีนที่ชื่นชอบมี 2 ท่านขอรับ ท่านเปาปุ้นจิ้นหน้าดำ ข้าน้อยชอบมั่กๆ แสดงดูเข้าจินตนาการข้าน้อยเป๊ะ
อีกท่านคือ ท่านที่เล่นเป็น ชอลิ้วเฮียงสมัยข้าน้อยยังประถม โอ้สุดยอด ภายหลังเจอ ชอลิ้วเฮียงหน้าสดารหลายท่านก็ดูไม่ลง เหอๆ
เรื่อง CROUCHING TIGER, HIDDEN DRAGON ข้าน้อยดูแล้วปลงตอนพระเอกตาย...เฮ้อ
สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ มาโนช
(ฉินอ้าว จากศึกชิงบัลลังก์)
แต่ก็ยังชอบคนแสดงค่ะ....อิอิ ^___^
สวัสดีค่ะท่าน จันทร์เมามาย
^___^
สวัสดีค่ะ คุณ แผ่นดิน
มาต่อเช่นกัน... ^^
^_____________^
แอบเข้ามาอ่านค่ะ ตามมาจากบล็อคอาจารย์พิชัย จึงรู้ว่าเป็นพยาบาลเเหมือนกัน มีแฟนประจำเยอะเลยนะคะ คนแถวบ้าน(คุณจันทร์เมามาย)ก็มาป้วนเปี้ยนแถวนี้
อ่านแล้วทำให้รู้ว่าคอเดียวกันเรื่องชอบซื้อหนังสือมากๆ และก็หมดไปกับหนังสือแต่ละเดือนเยอะมากๆ และไม่เคยคิดเสียดาย ชอบซื้อเผื่อแจกล้นเลยค่ะ บางครั้งยังไม่รู้ว่าจะแจกใคร ขอซื้อไว้ก่อน ปิ้งใครเมื่อไหร่ก็ให้เลย เมื่อเดือนที่แล้วปลวกขึ้นหนังสือเยอะมากเลยต้องทะยอยมาบริจาคค่ะ ปลวกสอนธรรมะ เลยมาตามอ่านเล่มเก่าๆที่เคยซื้อไว้แล้วยังไม่ได้อ่าน ตอนนี้มาซะสม ซีดีเพิ่มอีกอย่างค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็นซีดีธรรมะ
อีกเรื่องที่อ่านในประวัติ ชอบวีรบุรุษ เหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยติดทีวี เรื่อง "นรสิงห์" เป็นความลับอีกข้อที่ไม่ได้บอกใคร เพราะเห็นมีแต่เด็กๆชอบ ฮิ ฮิ
ขอสมัครเป็น แฟนคลับคนนึงนะคะ
คุณ แผ่นดิน
ว่าแต่ ปล. อยากให้เรื่องนี้มีภาค 2 จัง เพราะว่ามันเหมือนกับหนังเป้นตอนๆเลยเนอะ ^^
สวัสดีค่ะคุณ พัชรา
สวัสดีค่ะ อาจารย์ Phoenix
น่าอิจฉาจังเลยนะคะ ที่ครอบครัวไปนั่งดูหนังพร้อมกันแบบนั้น บ้านของ k-jira ไม่เคยมีเลยล่ะ T_T
สำนวน "หนอนกลับชาติ ประเภทห่มกระดาษเป็นดักแด้" อันสุดยอด เลื่อมใสๆ ค่ะ ไว้วันหลังขออนุญาตยืมไปใช้บ้างนะคะ
คำ "popular blogger" มิกล้ารับค่ะ k-jira ยังไม่อาจได้เกียรติถึงขั้นนั้นหรอก หากเป็นเพราะเหล่า blogger หลายท่านในที่นี้ ให้ความเอ็นดูมากกว่า
กลับเป็น อาจารย์ Phoenix นะคะ ขอยกตำแหน่ง " blogger คนนี้ที่รอคอย" ของ k-jira เลย เพราะชื่นชมอาจารย์มาตั้งแต่บอร์ดคณะแพทย์ฯแล้ว ขอบคุณอย่างยิ่งและดีใจอย่างยิ่ง ที่อาจารย์เข้ามาพูดคุยทักทายกัน ในบันทึกแห่งนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ ^___^