แทบทุกวันจะได้เห็นพี่วั้นเปิดคอมพ์แล้วก็นั่งพิมพ์ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด อย่างรวดเร็ว หน้าจอของพี่วั้นจะแพรวพราวไปด้วยแถบเล็กๆเป็นตัวแสดงการสื่อสารจากเพื่อนๆในขณะที่ทำงาน หรือเล่นคอมพ์อยู่ เป็นที่รู้กันว่าคนที่คุย M มากที่สุดในบ้านคือพี่วั้น พี่เหน่นกับน้องฟุงมีบ้างแต่น้อยกว่าพี่วั้นหลายเท่า
เมื่อคืนวันศุกร์ คุณแม่นั่งทำงานอยู่ พี่วั้นมาขอส่ง M นัดเพื่อนบนหน้าจอ ก็เลยได้เห็นชัดๆว่า พี่วั้นจัดแบ่งกลุ่มเพื่อนที่คุยด้วยออกเป็นกลุ่มๆ เยอะมากๆๆๆๆ มีเป็นชั้น โรงเรียน (นี่ขนาดเรียนเมืองไทยมายังไม่ถึง 2 ปีเลย) บอกพี่วั้นว่า โอ๊ย...ป่านนี้จะยังมีใคร on อยู่อีกเหรอ (ตอนนั้น 5 ทุ่มแล้ว) พี่วั้นบอกว่า "แม่คอยดูสิ...." ใน list จะมีด้วยว่า ในกลุ่มนั้นๆมีกี่คนที่ on-line อยู่ เห็นแล้ว อัศจรรย์ใจนะคะ คิดว่า...โอ้โฮ เด็กสมัยนี้เค้าคงเลิกคุยโทรศัพท์กันแล้ว เปลี่ยนเป็นนั่งหน้าคอมพ์ พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ กันแทน
พี่วั้นเรียกเพื่อนด้วยการ พิมพ์คำชื่อเพื่อน ตามด้วยใส่สัญลักษณ์ตัวกระโดดโลดเต้นที่มีเรียงรายให้เลือก เค้าเลือกรูปมือ เคาะประตู มีการรูปใหญ่ขึ้นด้วยเวลาเคาะ เพื่อนก็ตอบมาด้วยคำสั้นๆ (จำไม่ได้แล้วค่ะ แต่ภาษาเค้าสั้นมากๆกัน พิมพ์ไม่กี่ครั้ง) วั้นบอกเพื่อนว่า เช้าพรุ่งนี้คุณพ่อจะไปส่งที่โรงเรียนได้ และรับเพื่อนๆไปด้วยได้อีก 2-3 คนให้มาเจอกันที่ม้าหินหน้าแฟลตตอนเช้า 7 โมงครึ่ง เค้าเขียนใจความขนาดนี้ด้วยคำเพียงไม่กี่คำเลยนะคะ อ่านแล้วขำมาก ถามว่าแล้วนี่เพื่อนวั้นเข้าใจเหรอ วั้นบอก "เค้าคุยกันทาง M แบบนี้แหละแม่" เรียกว่า ส่งสั้น รับสั้น จนรู้เรื่องกันได้ในเวลาไม่นานเลย สิ่งที่ยังจำได้มาจนถึงตอนนี้ก็คือ คำตอบของเพื่อนวั้นคำสุดท้าย ก่อนที่พี่วั้นจะบอกลาออกจาก M ก็คือ "เค" เค้ามีคำนี้บ่อยมากๆ เวลาตอบรับ มาจาก OK ค่ะ เล่นเอาประทับใจ คิดว่าต้องบอกพี่วั้นให้รวบรวมศัพท์ใน M ให้แม่สักที คงจะสนุกแน่เลยนะคะ
เชื่อว่าคุณแม่ คุณพ่ออีกหลายๆท่านก็คงมีประสบการณ์เรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังบ้างแน่ๆเลย ใช่ไหมคะ
สวัสดีค่ะ พี่โอ๋
ป่านนี้น้องวั้นคงหลับแล้วใช่ไหมค่ะ เมื่อก่อนมะขามอ่อนก็ติด M เหมือนกันแต่ตอนนี้เลิกแล้ว มันสนุกกว่าคุยโทรศัพท์อีกค่ะ แต่เล่นมากก็ปวดหัว สายตาเสียค่ะ เป็นห่วงน้องวั้นค่ะ
สวัสดีค่ะ
อ่านไว้เผื่อหลานตอนโต จะได้ตามเด็กๆถูกค่ะ
สวัสดีครับ
ใช่แล้ว ไปทางไหนใครๆก็เล่น M .. M-100 M-150ไม่เกี่ยวนะ .. M คือ MSN Messenger โปรแกรมยอดฮิตของ Microsoft ยักษ์ใหญ่เจ้าเก่า
จะว่าไป ประสิทธิภาพเขาสูงมากครับ เพราะนอกจากพิมพ์ Text ตอบโต้ สลับหรือผสมภาพ icon อันหลากหลาย เพื่อสื่อความหมายตามใจนึกแล้ว ยังส่งไฟล์เสียง รูปภาพ หรือเอกสารต่างๆให้กันสดๆได้อีกด้วย ครั้นต่อไมค์+หูฟังเข้าไป ก็ใช้สื่อแทนโทรศัพท์ไปทั่วโลกได้แล้ว ยิ่งได้ติดกล้อง Web Cam. ด้วยก็เห็นหน้าตากันได้ยามสนทนาเลยทีเดียว
ระยะหลังๆมา มีตัวอื่นเช่น Skype ที่มีจุดเด่นเรื่องการสื่อทางเสียง เช่นจัดประชุมทางไกลให้คนมาร่วมพูดคุยสดๆได้ถึง 100 คนพร้อมๆกันได้เข้ามาอีก .. ควบคุมตนเองได้ไม่ดี เวลาก็จะเสียไปเพราะความเร้าใจเหล่านี้ได้ไม่น้อย แต่มองในมุมบวก นี่คือช่องทางการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ที่สูงด้วยประสิทธิภาพ และสุดประหยัดอีกด้วย .. จัดการดีๆ ผนวกกันให้พอเหมาะกับวิธีการเดิมๆที่เป็นธรรมชาติ การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และ ไมตรีจิต มิตรภาพก็อาจเกิดขึ้นได้กว้างขวาง และรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อได้เช่นเดียวกัน
ดาบที่คม จะบอกว่าดี หรือ ร้าย คงไม่ได้ ต้องดูที่การนำไปใช้จึงจะได้คำตอบที่แท้จริง ใช่มั้ยครับ.
โชคดีจังที่จุ๊บแจง ลูกสาวคนโต กับน้องริคกี้ ยังไม่รู้จัก M เด็กๆที่นี่เล่น Bebo กันค่ะ เฉพาะเด็กวัยรุ่น ลักษณะ program เหมือนกัน แต่ให้เด็กเล่นหน้าคอมนานเกินไปก็ไม่ดีนะค่ะ ไม่รู้ chat กับใครบ้าง
สวัสดีค่ะพี่โอ๋
ฮิฮิ เข้ามาอ่านแล้วแอบดีใจ แสดงว่าเรายังเป็นเด็กสมัยใหม่ ...เพราะยังคุย M อยู่
(แอบกระซิบ แต่มันมีมาตั้งนานแล้วนะคะ)
ระลึกชาติได้คราวๆว่า
ตอนแรกของ internet จะมีการคุยผ่าน unix โดยใช้การพูดคุยว่า talk, ntalk, ytalk ตอนนั้นยังมีแต่พิมพ์ text แล้วก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ เพราะ font ไทยไม่มี (หรือเค้าไม่ได้ลงให้ไม่รู้นะคะ ใช้เครื่องที่โรงเรียน)
ต่อมา... ไม่ได้เล่นไปพักใหญ่ เพราะเค้าเล่น IRC กัน (internet relay chat) mIRC เป็นอันที่ดังสุด
ประโยชน์คือ ใช้คุยกันได้พร้อมกันหลายๆ คน แล้วเหมาะสำหรับประชุมทางไกล แต่เด็กๆ ฮิตไว้คุยๆๆๆๆ กัน หาคู่จนเป็นแฟนกันก็มี
อีกช่วง icq มาแรง รูปดอกไม้เปลี่ยนสี
icq เป็นรูปแบบของ instant messaging computer program ของ Time Warner's AOL
โอ้ย ช่วงนั้น ไม่มีใครดังเท่า icq อีกแล้วนะ (ล่ะมั้ง) วันๆ เปิดเครื่องขึ้นมา จะได้ยินเสียง ..โอ๊ะโอ...โอ๊ะโอ... เวลามีคนมาทัก
มาสักพัก ทำไม icq ซาๆ ไม่ทราบ ทั้งๆ ที่คนเล่น(ในไทย) เยอะมั่กมาก
กลายเป็นยุคของ yahoo messenger ในเวลาต่อมา
เล่นอยู่พักนึง เพื่อนๆ ไม่ค่อยใช้ เค้าย้ายไปใช้ Msn กัน เพราะตอนนั้น hotmail เพิ่มเนื้อที่ให้ ทำให้คนใช้ mail เยอะขึ้น จึงใช้ Msn แล้วมีเพื่อนใช้เยอะ โดยทีคนที่ไม่ได้ใช้ e-mail ของ hotmail ยังสามารถสมัคร เพื่อ login ได้ ยิ่งทำให้คนใช้เยอะ
Msn พัฒนาจนถึงเว่อชั่น Windows Live Messenger
ว้าวววว ลูกเล่นมากมาย
ที่ต้องพัฒนาอะไรกันขนาดนั้น เพราะมี Skype มาดึงลูกค้า
ใครอ่านว่าอะไรกันน้า แนนอ่าน สไคร์ปี้ ฮิฮิ
Skype เป็น peer-to-peer Internet telephony network ใช้งานได้ดี เพิ่งเข้ามาตีตลาดเด็กชอบ chat เมื่อไม่เกิน 2 ปีเอง(ล่ะมั้ง หรือเกิดมานานแล้ว ตั้งแต่ 2003 คนต่างชาติใช้กันเยอะ แต่เพิ่งฮิตเร็วๆ นี้ในเมืองไทยนะ) ด้วยคุณภาพเสียงที่ดี และตอนหลัง เว่อร์ชั่นใหม่ 2 ขึ้นไปใช้ webcam ได้ (ตอนนี้ 3.0.0.216)
ข้อดีคือเล็ดลอดการบล๊อคขององค์กรได้ ไม่เหมือน M ฮ่าฮ่า (ข้อดีคนที่จะคุย ไม่ใช่ขององค์กร)
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ยังมี Trillian, AIM, GoogleTalk, Voip, etc อีกที่เอาไว้คุยผ่านเน็ต และ PC-to-Phone หรือ PC-to-PC หรือ Phone-to-Phone ผ่านเน็ต
อีกเยอะแยะเลยพี่โอ๋
โม้มาเยอะมาก ยิ่งเขียน ยิ่งคิดย้อนไปในอดีต ได้ดูวิวัฒนาการการคุย ยิ่งมันส์ ฮ่าฮ่าฮ่า
ตอนนี้ไม่ใช่แต่เด็กๆ ฮิตแล้วนะคะ
แนนสอนคุณแม่เล่น M แล้วใช้ Webcam บางทีคุณแม่ก็เข้ามาตอน offline แล้วพิมพ์ข้อความทิ้งไว้ให้อ่านเป็นหน้าๆ แล้วก็ออก ถ้าคุยตรงกัน ก็เมาส์ๆๆๆ เรื่องโน้นเรื่องนี้ คุณแม่ก็ติด M ไปแล้วเหมือนกัน โดยเฉพาะรูปดุ๊กดิ๊ก ใหม่ๆ รูปน้องแพนกวิน น้องลิง น้องหัวหอม คุณแม่สะสมเก็บไว้ ส่งไปมากันสนุกสนาน
แต่...
เวลาสอนหนังสือ เด็กแอบเล่น M ในห้องเรียนเนี่ย โกรธสุดๆ เหอะๆ
ไปแล้วค่ะ โม้จนนานไปแล้ว
คิดถึงนะคะ ไว้วันหลังจะมาโม้ใหม่ค่ะ
^_____^
พี่โอ๋
ตามมาอ่านน้องแนนโม้
ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ
ไม่ได้ติด M นะคะ แต่ on ทุกครั้งที่เปิดคอมฯ (อิอิอิ)
จะได้ทันลูก ๆ หลาน ๆ ไงคะ (หลานบ้านอึ่งออนเอ็มทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ เปิดทีไรเจอทุกที....ต้องบอกให้นอน ๆ บ้าง แต่....เค้าจะบอกว่าโหลดโปรแกรมบ้าง ทำงานบ้าง เปิดเฉย ๆ บ้าง......ก็เชื่ออยู่หรอก..)
น้อง มะขามอ่อน คะ พี่วั้นได้เล่นครั้งละไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ ยกเว้นเวลาทำรายงานหรืออะไรที่ต้องพิมพ์คอมฯที่จะได้ m นานๆหน่อย เค้าค่อนข้างมีวินัยในตัวเองค่ะ พี่สอนให้เค้ารู้ว่าการนั่งหน้าคอมฯนานๆมีผลเสียยังไง โดยไม่ได้ห้ามโดยไม่มีเหตุผล คิดว่าทั้ง 3 หนุ่มค่อนข้างรักตัวเองในเรื่องนี้ค่ะ แม้จะมีเกินเลยบ้างก้ไม่มากมาย
คุณ sasinanda คะ ถึงตอนที่พระเอกตัวน้อยโต วิทยาการคงไปไกลขนาดที่คุณเม้งเธอว่าแล้วมังคะ
เห็นด้วยกับพี่ Handy ค่ะ ถ้ารู้จักใช้ให้เป็นมีประโยชน์มาก พยายามสอนให้ลูกๆคิดในแง่นั้นด้วยเหมือนกันค่ะ ให้ใช้วิทยาการให้เกิดประโยชน์ วั้นเค้าก็ใช้ consult น้าๆอาๆในสิ่งที่เค้าไม่เข้าใจด้วยเหมือนกันค่ะ ติดต่อกันได้ทั่วโลก
น้อง IS คะ เยี่ยมมากๆเลย อยากให้เอาไปเขียนเป็น 1 บันทึกเลยนะคะ เพราะนี่เป็นบันทึกประวัติศาสตร์การสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ได้เลยนะคะ จะได้แพร่หลายกว้างขวางและ tag ได้ด้วยค่ะ พี่โอ๋ทันเล่นหลายๆเรื่อง แต่เป็นคนรักความเป็นส่วนตัว ชอบอยู่คนเดียวในเวลาที่ไม่เห็นหน้าใครๆ ก็เลยไม่ค่อยชอบ chat แต่อ่านที่น้อง IS เขียนแล้วจำได้ว่า เคยใช้ประโยชน์กับ ICQ สมัยที่โน้ตบุ้คตัวแรกเสีย ถามปัญหาวิธีแก้ไขกับเพื่อนคนไทยผ่าน ICQ นี่แหละค่ะ ทันใจมากๆ ส่งไฟล์แก้ไขกันด้วย ส่วน สไค้ปี้นี่ก็รู้จักมาตั้งแต่กลับมาใหม่ๆ เพราะคุณพ่อส่งมาทักทายค่ะ แต่อย่างที่บอกแหละว่า เป็นโรคชอบมีโลกส่วนตัวเวลาอยู่คนเดียว เลยไม่อยากให้ใครเข้าถึงตัวได้แม้ทางอิเลคโทรนิก
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ สำหรับความเห็นอันแสนมีค่านี้ เดี๋ยวจะตามไปบอกให้เอาไปใส่บันทึกใหม่นะคะ
ต้องยกนิ้วให้กับน้องอึ่งอ๊อบสำหรับความทันสมัยจริงๆค่ะ รู้สึกว่าเป็นบุคลากรสารพัดประโยชน์จริงๆนะคะ สมกับที่พ่อครูบาชื่นชม เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องเป็น ฯลฯ ให้กับใครหลายๆคน ตั้งแต่รุ่นจิ๋วหลิวไปจนถึงรุ่นเดอะเลย ก็เพราะความทันสมัยไปเสียทุกทางอย่างนี้นี่เอง
สวัสดีครับพี่
คุณโอ๋-อโณคะ
สวัสดีค่ะพี่โอ๋
แอมแปร์ตามอ่านบันทึกถึงสามหนุ่มของพี่โอ๋มาเกือบจบแล้วค่ะ พอดีอ่านที่พี่โอ๋เล่าเรื่องน้องวั้นต่อ เลยตามมาคุยในบันทึกนี้ก่อน
รู้สึกเหมือนที่คุณ sasinanda บอกพี่โอ๋นะคะ เลี้ยงลูกชายสามคน ไม่ง่ายเลย ทุกคนเป็นตัวของตัวเองมากด้วย แต่แอมแปร์ว่าพี่โอ๋เข้าใจลูกนะคะ ดูจะคุยกันแบบแมนๆดี อิอิ
หลานแอมแปร์ตัวกะเปี๊ยกก็รู้จัก msn e-mail ฯลฯ เด็กๆเรียนรู้ทุกอย่างผ่านคอมพิวเตอร์ แบบที่ผู้ใหญ่ตามสกรีนไม่ค่อยทัน เราโตในยุคทีวี ทีวีก็ shape เรามาแบบนึง หลานๆโตในยุคคอมพิวเตอร์ออนไลน์ นึกภาพหลานๆตอนโตยังไม่ออก
วัฒนธรรมการสื่อสารด้วยภาษาและสัญลักษณ์สั้นๆดูแล้วขำๆน่ารักดีนะคะ เด็กๆเขาสร้างภาษาชุดใหม่เลย น้องวั้นท่าทางจะพิมพ์เร็วที่สุดในบ้านด้วย เขาพูดภาษาเอ็มฯกับคุณแม่มั่งมั้ยคะ อย่าง "...กับข้าววันเนี้ย..ไม่โอเลยคุณแม่..." : )
เห็นข้างบนน้องแนนเอาเอ็มยุคคลาสสิกมาแปะให้ดูด้วย มี ไอซีคิว ด้วยแหละ รุ่นนี้เราทันเลยแหละ อิอิ ขำเสียง โอ๊ะโอ แอมแปร์ฟังทีไร เป็น ต๊กแกะ ต๊กแกะ ทุกที แค่ลัดนิ้วมือเดียว ก็ได้คุยกับคนที่อยู่กันคนละมุมโลกแล้ว ตอนนั้นเห่อไปพักนึงเหมือนกันค่ะ ผลพลอยได้คือทำให้พิมพ์เร็วขึ้นเยอะ ......
แต่หาช้าไปหน่อยเท่านั้นอะค่ะ..... : )
คุณเม้ง...อยากเรียกแบบร้องดังๆ...ทำแล้วไม่ work เหมือนกันค่ะ ดีอยู่กับตัวเราแต่ไม่เห็นสื่อสารกับใครเลย...เราคุยเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่านี่???
คุณ oddy คะ แวะไปอ่านบันทึก เปิดเทอม ในบล็อกคุณ oddy มาแล้วนะคะ "เค"ค่ะ แล้วคงได้ทักทายกันบ่อยๆ (ขำตัวเองที่ตอนแรกสงสัยว่า คุณ oddy "เค" นะ อะไรกัน เขียนเองลืมเองค่ะ กว่าจะนึกถึง โอเค..;-))
น้องแอมแปร์คะ ขำจังกับ ต๊กแกะ ต๊กแกะ น่ะค่ะ รู้สึกน้องแอมแปร์จะวิเคราะห์เก่งจังนะคะ ว่า 3 หนุ่ม 3 แบบเนี่ย ใช่เลยค่ะ น้องวั้นไม่พูดภาษา M หรอกค่ะ เพราะภาษาธรรมดาก็เร็วพอแล้ว พวกเราฟังเค้าไม่ค่อยทันอยู่แล้ว ประมาณว่าประโยคที่มี 10 คำพี่วั้นพูดทั้ง 10 คำแต่เราฟังเหมือนพูดสัก 5 คำค่ะ เป็นคนพูดเร็วมาก
คิดเหมือนกันเลยใช่ไหมคะ คุณจิ๊บ เนี่ยยังไปไม่ถึงน้อง IS เลยค่ะ ว่าจะตามไปบอกให้เอาไปแปะในบันทึกใหม่ซะหน่อย