ขอบคุณค่ะพี่แอมป์ (ดอกไม้ทะเล)
ชอบใจที่พี่เขียนอีกแล้้วค่ะ ต้องใช้พุทโธโลยี : ) ความคิดเห็นของพี่ทำให้มัทคิดต่อยอดได้อีกสองสามเรื่อง
เรื่องแรกคือ การทำให้งานธรรมดาเป็นพิธิกรรมพิธีการซะ อย่างการชงชา การเขียนพู่กัน การจัดดอกไม้ หรือแม้แต่การถูพื้นทำความสะอาด
ทั้งหมดนี้มีรากฐานมาจากเซ็น ให้ค่อยๆทำงานอย่างมีสติและมีความสงบ ให้รู้ทั่วตัวและใจอีกทั้งรู้รอบตัวว่าอะไรสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง รู้และใช้พลังชีวิต (Ki หรือ Chi หรือ ปราณ) ได้อย่างสวยงามต่อเนื่องไม่ติดขัด
เหมือนกับที่พี่แอมป์เขียนไว้คือ ใส่ความหมายไปในสิ่งที่ทำ
เรื่องที่สอง เรื่องการสื่อสารให้ทำงาน ทำพิธีกรรมนั้นๆ มัทจะเล่าเรื่องการถูพิื้นห้องฝึกยิงธนูให้ฟังค่ะ
ตอนที่ไปเรียนแรกๆ มีป้าญี่ปุ่นท่านนึงคอยคุมเด็กใหม่ให้ถูพื้น พวกเราก็รู้ว่าถูให้สะอาด เราก็ถูท่าใครท่ามัน บางคนก็เอา mob มาถู ป้าแกทำหน้าเข้ม ไม่ได้! ต้อง traditional japanese style! ใช้ผ้าถูกไถก้นโด่งไปเรื่อยๆ
มัทกับเจษฏ์ก็ไม่ถูกใจเท่าไหร่ ก็ก้นโด้งแล้วกางเกงในมันโผล่เอาง่ายอ่ะ! แล้วมี mob ทำไมไม่ให้ใช้ (ว๊ะ)
ปรากฎว่าตอนหลังอาจารย์รุ่นพี่มาถูด้วย คือมาทำให้ดู เราก็ทำตามด้วยความเกรงใจ
พอป้าไปแล้ว อ.ที่อายุไม่มากมาบอกว่าที่ต้องทำความสะอาดโรงฝึก (dojo) เนี่ยะ เพราะ
1. เราเป็นชุมชน ทุกคนต้องช่วยกัน
2. โรงฝึกเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ๋ การทำความสะอาดเป็นการแสดงความเคารพสถานที่
3. ผู้น้องจะได้แสดงความเคารพรุ่นพี่ คือถ้าพี่ถูอยู่รุ่นน้องต้องเข้ามาบอกเลยว่า ให้หยุด น้องทำเอง
4. ถูกให้พื้นสะอาดแล้วยังต้องถูให้ใจสะอาดด้วยพร้อมกันไปด้วย
5. ที่ฝึกต้องสะอาด ไม่งั้นถุงเท้าสกปรก
และ 6. เราจดทะเบียนเป็นชมรมกีฬา พวกค่าใช่จ่ายเราเอาไปหักภาษีได้ แต่จริงๆคำว่ากีฬาหมายถึงกิจกรรมที่ทำให้อัตราการเต้นหัวใจขึ้นนานอย่างน้อยครึ่งชม. เพราะฉะนั้น ถ้ามีคนมาตรวจ เดี๋ยวคนจะว่าได้ว่าเราบิดกฎ การถูพื้นนี่แหละที่ทำให้เราเข้าข่ายถูกกฎ เฮอะๆ
4 ข้อแรกดูดีเชียวนะคะ แต่ 2 ข้อหลังนี่แหละที่ทำให้เด็กทำตาม
เด็กอาจยังไม่เข้าใจข้อ 1- 4 ยิ่งเรื่องให้ทำใจให้สะอาดไปพร้อมๆกับพื้นนี้คงยากหน่อย แต่เมื่อได้ลงมือทำเองแล้ว เค้าก็จะเข้าใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ป้าคนนั้นไม่มาซ้อมยิงแล้วค่ะ ไม่มีคนบังคับให้ถู แต่ก็ยังถูกันอยู่ : )
เรื่องนี้สอนด้วยว่า การบอกให้ทำแบบป้าบอกนั้นไม่ได้ผลหรอกค่ะ เพราะไม่รู้ที่มาที่ไป ทำไปทำไม การสื่อสารของครู แล้วก็การทำให้ดูเป็นตัวอย่างสำคัญจริงๆค่ะ
เรื่องสุดท้าย
คนที่คิดเรื่องพิธีชงชาก็คือ พระเซ็นอิคคิว ที่ภาพการถูพื้นก้นโด่งชินตาคนวัยเรานั่นเองค่ะ
: )