ในวันที่ 3 เมษายน
2549 ที่ผ่านมา ดร.เลขา ปิยะอัจฉริยะ, ดร. สุวัฒน์ เงินฉ่ำ
และคุณอุษา ชูชาติ ได้เข้าพบและหารือกับ ศ. นพ. วิจารณ์ พานิช และทีม สคส.
ในเรื่องการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมปฏิบัติการในโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรทางการศึกษาด้วยการจัดการความรู้
ซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
และดร.เลขา ปิยะอัจฉริยะ
ได้เล่ารายละเอียดของโครงการเบื้องต้นว่าได้นำการจัดการความรู้เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานแล้ว
โดยทำสุ่มพื้นที่ พบว่ามี 4 เขตจาก 17 เขตที่ทำ KM
ในรูปแบบของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.)
ซึ่งใช้รูปแบบของสถาบันเพิ่มผลผลิตคือ สุพรรณบุรี เขต 1,
สุราษฏร์ธานีเขต 1, พิษณุโลก เขต 1, สุรินทร์ เขต 1
และได้ร่างหลักสูตรขึ้น
โดยมีกลุ่มเป้าหมายการวิจัยคือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และกลุ่มเป้าหมายมีความต้องการดังนี้
เรื่องนี้ทำเฉพาะการศึกษาพื้นฐานหรือค่ะ /จะทำในระดับอุดมศึกษาหรือไม่ /อยากมีส่วนร่วมในการเข้าไปศึกษาในเรื่องดังกล่าวจะต้องทำอย่างไร
ขอบคุณมากค่ะ
เริ่มโครงการแค่ในเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนคะ ยังไม่ได้ดำเนินการถึงในอุดมศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาอันได้แก่ กทม. ฉะเชิงเทราเขต 1 ลพบุรีเขต 1 อยุธยา เขต1 สุพรรณบุรีเขต2 แม่ฮ่องสอนเขต1 นครสรรค์เขต 3 พิษณุโลกเขต1 มหาสารคามเขต2 นครราชสีมาเขต1 สุรินทร์ เขต1 อุดรเขต3 หนองบัวลำภูเขต1 สกลนครเขต2 สุราษำร์ธานีเขต1 สงขลาเขต3 ยะลาเขต1 และเราจะมีประชุมกลุ่มย่อยกันเพื่อวางแผนงาน จะรายงานความคืบหน้าในฉบับต่อจากนี้นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและจะตอบคำถามหลังสุดของคุณอรุณศรี ในภายหลังคะ
Yes, it's important to get started with motivation or what KM users will acquire benefits from, so that they will consider KM a tool for improving themself or their organization. However, I wonder, "Would it be any different lectures for diversed KM tranees or organizations, for example,between high school teachers and village headers?