อันนี้จำมาจากคุณครูอนุบาลของลูก (คุณครูฝรั่งสอนเด็กวัยก่อนเรียน) และเห็นว่ามีประโยชน์ดีค่ะ สังเกตไหมคะว่าคำที่ลงท้ายด้วยตัว e จะทำให้สระในคำนั้นออกเสียงเป็นตัวของมันเองangel e เค้าเลยเรียกมันว่า หรือไม่ก็ bossy e
ตัวอย่างเช่น ในคำ cane, mate, plate, ride, ripe, slime, hope, tube ซึ่งอ่านออกเสียงเป็น เคน (a เป็น เอ), เมท, เพลท, ราย ดึ (i เป็น ไอ ยาวหน่อย), ร้าย พึ, สะ ไล มึ (คำพวกนี้เสียงที่มี สระอึ สุดท้ายจะออกเบาๆมากแต่ต้องออกบ้าง), โฮป (o เป็น โอ), ทู วิ้วบ (คำนี้เขียนเสียงที่ออกจริงๆยากจังค่ะ แต่คิดว่าพวกเราออกเสียงถูกอยู่แล้ว อันนี้ u ก็ออกเป็นเสียงยู) ในขณะที่คำพวกนี้เวลาไม่มีตัว e ต่อท้ายจะอ่านเป็นอีกเสียงเลย คือ can = แคน, mat = แมท, plat = แพลท, rid = ริด, rip = ริพ, slim = สลิม, hop = ฮอพ, tub = ทั่บ
เพราะฉะนั้น ถ้าจะต้องเดาเวลาอ่านคำรูปแบบนี้อื่นๆที่เราไม่คุ้นเคย ก็สามารถใช้กฎนี้ได้ คือ e ที่อยู่ท้ายจะเป็นนางฟ้าเนรมิตให้สระเปลี่ยนเสียงกลับมาเป็นเสียงตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่ง ก็ e เป็นนายใหญ่ สั่งให้สระกลับมาเป็นเสียงตัวเองซะ
วันต่อๆไปจะมีกฎง่ายๆแบบนี้อีก 2-3 ข้อซึ่งเป็นกฎที่เค้าเอาไว้สอนเด็กหัดอ่านภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มๆเรียน แต่สำหรับตัวเองแล้วคิดว่ากฎนี้มีประโยชน์กับพวกเราไม่น้อยทีเดียวเวลาต้องออกเสียงอ่านคำอะไรที่เราไม่คุ้นเคย