สรรพสิ่งย่อมมีการ “เคลื่อนไหว-เปลี่ยนแปลง-ขัดแย้ง-สัมพันธ์” เป็นวาทกรรมของใครก็ช่างเถอะ สำคัญที่เป็นสัจธรรมของสังคมใดๆก็ตาม
หลังจากที่กองทัพแดงดงหลวงยกขบวนออกมาจากป่าเพื่อมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยนั้น ทางรัฐบาลไทยได้ใช้นโยบาย 66/23 ต้อนรับไทยโซ่กลับคืนถิ่น พร้อมกับการเจรจากันและตอบสนองสิ่งที่ต้องการตามเงื่อนไขที่ทางราชการจะจัดทำให้ได้ หนึ่งในความต้องการคือที่ดินทำกิน แต่ก็พบปัญหามากมายในการจัดการ
เวลาก็ผ่านไปรัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่า ความหวังก็เลือนจางลงตามระยะทางเวลาที่ผ่าน ขบวนการเรียกร้องเกิดขึ้นหลายครั้ง สนามหลวง ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯ เป็นแหล่งที่หมายในการเดินทางมาเรียกร้องพันธะสัญญาที่มีแก่กัน คนที่เรียกตัวเองว่านักการเมืองคือคนที่รับปากเร็ว แต่ไม่เคยทำอะไรเลย 20 ปีผ่านไปมันไม่เหลือความหวังอะไรอีกแล้ว
สัญญาที่มีต่อกันกับรัฐบาลไม่ว่ารัฐบาลประชานิยมหรือไม่นิยมก็แล้วแต่ ดูเหมือนโยนสัญญานี้ลงไปบนทะเลเวลาหมดสิ้นแล้ว หากท่านคือพี่น้องไทโซ่ ท่านจะรู้สึกอย่างไรกับรัฐบาลที่รับปากยามนั้น
แต่แล้วส้มก็หล่นลงมาเมื่อปลายปี พ.ศ. 2549 เมื่อมีรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นอดีตนายทหารและมีประวัติศาสตร์สัมพันธ์กับดงหลวงยิ่งนัก เพียงไม่กี่เดือนสหายเก่าดงหลวงก็มีโอกาสเข้าพบท่านและได้ฟื้นสัญญากันใหม่ เพียงไม่นานนักความจริงใจของท่าน “แอ๊ด” ก็แสดงให้เห็นการยึดมั่นในคำสัญญา
หลังจากทบทวนกันถึงที่สุดแล้วสรุปว่ารัฐจะจ่ายเป็นเงินสดให้กับพี่น้องไทโซ่ สหายเก่าตามรายชื่อที่ทำขึ้นตั้งแต่อดีตนั้น เงินก้อนโตตกลงมาจากฟ้าที่ดงหลวงเมื่อเดือนมีนาคมนี้เอง มีรายละเอียดปลีกย่อยหลายเรื่องเกิดขึ้นช่วงที่ฝนตกลงมาที่ดงหลวง
แต่ที่สำคัญที่สุดคือเกิดพายุหมุนสีม่วงขึ้น เพียงไม่กี่วันที่มีการจ่ายเงินขึ้นตามสาระดังกล่าวมานั้น ก็เกิดปรากฎการณ์ทางสังคมขึ้นคือ เงินก้อนนั้นอยู่ในมืออดีตสหายเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็ผันออกไปสู่ในเมืองจนเกือบหมดสิ้น คือ ที่บ้านพังแดง ใจกลางของตำบลพังแดง เกิดมีการสั่งรถมอเตอร์ไซด์ขนาด 150 ซีซี เป็นรถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ขนาดซีซีเท่ากัน ใส่ล้อแม็คเหมือนกัน
รถเหล่านี้เข้ามาในหมู่บ้านด้วยรถขนขนาดใหญ่ที่เราเห็นวิ่งตามถนนหลวงจากกรุงเทพฯสู่หัวเมืองนั่นเอง ชาวบ้านบอกว่า น่าจะถึง 50 คันที่อดีตสหายแปรเงินที่ได้รับมาเป็นรถมอเตอร์ไซด์จนหมดสิ้น ????
แล้ววันต่อมา เสียงมอเตอร์ไซด์ก็แผดเสียงลั่นตำบลพังแดง เสียงใครบ่นข้างหลังว่า สงกรานต์ที่จะถึงนี้จะเป็นอย่างไรหนอ เมื่อวัยรุ่นดื่มเหล้าเมากันเต็มที่ พายุสีม่วงหมุนผ่านไปจากดงหลวงแล้ว ทิ้งไว้แต่ “ม้ามีเขา” 50 ตัวที่บ้านพังแดง ที่มีคนควบฝุ่นตลบทุกวัน...
อะไรจะเกิดขึ้นอีกบ้างหนออนาคต
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
พายุ..เพียงแค่พายุธรรมดาก็ยังก่อเกิดผลตามมาอย่างมากมาย..ทั้งผลดีและผลร้าย ซึ่งในผลร้ายก็มีผลดี ในผลดีก็มีผลร้าย..
" พายุเงิน "..นอกจากได้จับจ่ายดังใจ และเศรษฐกิจสะพัดสะพือแล้วยังมีแง่ดีอะไรอีกหนอ ? ( มาล้อเล่นค่ะ ..ด้วยความคิดถึง ^ ^ )..ส่วนผลร้ายไม่อยากจะคิด อิ อิ
เบิร์ดชอบบิ๊ก ( ตะหานนี่เค้าต้องเรียกบิ๊กกันใช่มั้ยคะ ) แอ๊ดนะคะ เบิร์ดว่าเค้าดูจริงใจดี พออ่านบันทึกนี้ก็ยิ่งรู้สึกดีใหญ่..
ใกล้เลือกตั้งตอนปลายปี จะมีพายุเงินลูกใหม่พัดเข้าดงหลวงมั้ยคะ ?
สวัสดีค่ะพี่บางทราย
อ่านแล้วก็รู้สึกสงสารค่ะ คนเหล่านั้นไม่เคยได้ พอได้แล้วใช้ไม่เป็น ตกเป็นทาสวัตถุนิยมไปเสียแล้ว เห็นด้วยกับคุณเบิร์ด ค่ะว่ามันเป็นพายุเงิน แต่ก็อีกนั่นแหละค่ะ นานาจิตตัง อยู่ที่คนคิด คนนี้ว่าถูก คนนี้ว่าผิด ปลงค่ะ5555