ติดค้างความกรุณาของพี่นันทา ติงสมบัติยุทธ์ ที่นี่ ในเรื่อง Book Tag ช่วยบอกหนังสือที่ดลใจเมื่อได้อ่าน จำนวน 3 เล่ม หรือ อาจเป็น 3 ประเภทของหนังสือที่ชอบ ก่อนถึงการนำเสนอหนังสือ คงต้องขอโทษกันยกใหญ่นะครับ โดยเฉพาะพี่นันทาพี่สาวใจดี เพราะติดค้างนานมาก อันด้วยเรื่องหลายอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลง ในการเรียนรู้เพื่อการทำงานของผม วันนี้มีโอกาสได้นั่งหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นส่วนตัวก็เลยนึกย้อนหลังในเรื่องของหนังสือที่ให้ประโยชน์แก่ตัวผมและคิดว่าเป็น 3 เล่ม ในหลาย ๆ เล่มที่ดลใจเมื่อได้อ่าน และเสริมเขี้ยวเล็บ(เข้าใจง่ายดีครับ) หนังสือที่ชาญวิทย์-นครศรี ฯ อ่านแล้วดลใจ และถือว่าเป็นความรู้ที่ได้เหมือนมีครูสอน
เรื่องของหนังสือผมสำรวจตัวเองแล้ว ผมว่าตอนแรก ๆ ในวัยเรียนผมชอบอ่านหนังสือประเภทช่าง ทั้ง ๆ ที่เรียนด้านเกษตร เพราะในช่วงหนึ่งผมเจอวิถีชีวิตชนบทที่เมื่อมีอุปกรณ์เครื่องมือ เช่น เครื่องยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องปั่นไฟฟ้า วิทยุ โทรทัศน์ เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เกิดปัญหาขึ้นหาช่างไปแก้ได้ยากมาก ต้องนำออกมาในตลาด ซึ่งก็อยู่ห่างไกล จึงสนใจหนังสือช่างแทบทุกประเภท และเป็นดังที่ตั้งใจไว้ว่าต้องการความรู้ในด้านช่างเหล่านี้เพื่อสามารถแก้ปัญหาได้เองเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง และก็ได้ผลด้วยครับ
เมื่อเริ่มทำงาน ในบทบาทที่ต้องใช้มนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่น ทั้งเพื่อนร่วมงาน เกษตรกรที่เป็นบุคคลเป้าหมายของงานที่ทำ บทบาทที่ตัวเองต้องยืนพูดท่ามกลางคนฟังเป็นสิบเป็นร้อย และหลายร้อย ได้ฟังคนอื่น ที่พูดเก่งแล้วติดใจ ในวิธีการ และกลับกัน ฟังบางคนพูดก็ต้องทนฟังจนจบตามมารยาท กลัวเหตุการณ์หลังจะเกิดกับตัวเองมาก ๆ เพราะการพูดไม่ใช้เรื่องง่ายเลยจริง ๆ จึงขอเสนอหนังสือ 3 เล่มที่อ่านแล้วดลใจให้นึกถึงคุณประโยชน์ ครับ
1. เป็นหนังสือประเภทช่างครับ ชื่อ"เทคนิคการออกแบบและติดตั้งสายอากาศโทรทัศน์-เอฟเอ็ม" เขียนโดย อาจารย์ ยืน ภู่ถาวร และอาจารย์ สุธี จันทรรัตน์ ชื่อหนังสืออาจดูผิวเผินแล้วไม่น่ามีอะไร
แต่ข้างในได้บอกองค์ประกอบของคลื่นวิทยุ ชั้นบรรยากาศ ภูมิประเทศที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของคลื่นวิทยุ เครื่องส่ง เครื่องรับ วิทยุ ความถี ย่านความถี สถานีส่งวิทยุ โทรทัศน์ ทำให้ผมหายสงสัยว่า ภาพ เสียง เพลง ต่างๆ ที่อยู่แดนไกลเดินทางมาปรากฏภาพและเสียงในบ้านเราได้อย่างไร เมื่อเข้าใจแล้วเราก็สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น ภาพไม่ชัด เสียงไม่ชัด ได้โดยจัดการที่ระบบสายอากาศเป็นสำคัญครับ
2.หนังสือที่ผมไม่ทราบควรจัดเข้าประเภทไหนดี คื่อ "การพูดที่ชนะใจคน" โดยประชาอภิบาล
ผมได้หนังสือนี้จากแผงหนังสือที่เขาลดราคานานแล้ว ซื้อมาตั้งไว้เฉย ๆ ในช่วงแรก ๆ กว่าจะได้อ่านก็ปาเข้าไปเป็นเดือนครับ แต่เมืออ่านแล้วเกินคุ้มในส่วนของเนื้อหาจริง ๆ ชักชวนให้อ่านหลาย ๆ เที่ยว เพราะมีประโยชน์มากสำหรับตัวเอง การที่ว่าชนะใจคน ไม่ได้หมายความว่าการห่ำหั่นกันจนเอาเป็นเอาตายแบบใช้กำลัง แต่นี่ผู้เขียนต้องการบอกเราว่า การที่จะทำให้คนอื่นรักเรา เราต้องเป็นคนดี และต้องรักคนอื่นก่อนให้เขารักเรา ต้องดี ทั้งกาย วาจา ใจ โดยภาพรวมแล้วสร้างตัวเองให้เป็นคนดีทำตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ต้องมองคนอื่นว่าเขาเป็นอย่างไร หนังสือนี้ทำให้รู้สึกว่าใครทำไม่ดีก็อย่าไปสนใจใส่ใจอย่าคิดว่าคนอื่นทำผิดแต่เรามุ่งทำความดีแล้วขาดทุน ให้เราคิดทำดีเสียเองดีกว่า เมื่อใคร ๆ เห็นเขาจะมองออกเอง การพูดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ คำพูดไม่กี่คำอาจสร้างความแตกแยกที่ยิ่งใหญ่ได้ ขณะเดียวกันคำพูดไม่กี่คำก็สามารถรวมพลังได้อย่างยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน อยู่ที่ศิลปและคุณธรรม ทุกอย่างรวมกันอยู่ที่ตัวผู้พูดนั้นเองว่า คนดีหรือเปล่า พูดจากความรู้สึกที่ดี ๆ หรือเปล่า ให้เกียรติผู้ฟังหรือเปล่า
3.หนังสือที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่คล้าย ๆ กับเล่มที่ 2 เล่มนี้เขียนโดย สุวิทย์ มูลคำ หนังสือชื่อ "ครบเครื่องเรื่องวิทยากร" หนังสือนี้ตอนหลังๆ มาออกเป็น เล่ม 2,3 แล้ว ในภาพที่ผมถ่ายมาเป็นเล่มที่ 1
ดูผิวเผินอจาคิดว่าเป็นหนังสือเพื่อค้นหา มุกตลก ๆ เพื่อใช้ในการเป็นวิทยากร แต่จริง ๆ แล้วเป็นที่รวมของหลาย ๆ เรื่อง อ่านแล้วคิดตามไปจะเห็นคุณประโยชน์อย่างมหาศาลที่ผู้เขียนได้รวบรวมเอาไว้ ทั้งคำคม คำปรัชญาของนักปราชญ์หลาย ๆ ท่านเอาไว้ คำกลอน คำสอน โดยรวมไว้ครบเครื่องสมชื่อครับ เพราะนอกจากจะแนะนำให้ข้อคิดแก่ผู้อ่านเพื่อเป็นวิทยากรแล้ว ยังฝากคำสอนของผู้เขียนเป็นสื่อฝากผ่านผู้เป็นวิทยากรผู้ปฏิบัติ นำไปถ่ายทอดแทนท่านผู้เขียนเอง รวมถึงเผยแพร่ผลงานคำสอนของกวีหลายท่านพร้อมสรรพ
ขอบคุณพี่นันทา นะครับที่กรุณา Tag มา ขออภัยที่ดำเนินการช้า จึงของ Tag ต่อ อีก 5 ท่านต่อไปนี้ครับ
ท่านแรกคนใกล้ แต่นาน ๆ กว่าจะ F2F ครูนงเมืองคอน
ท่านที่สอง ใกล้ แต่ก็นาน เจอเหมือนกัน ครูราญเมืองคอน
ท่านที่สาม ได้มีโอกาสเจอที่งาน มหกรรม KM แห่งชาติครั้งที่ 2 คุณเมตตา ชุมอินทร์
ท่านที่สี่ ติดตามบันทึกอยู่เป็นประจำ ได้ Blog 2 Blog กันบ้าง แต่ยังไม่ได้ F2F คุณ บอย สหเวช
ท่านที่ห้า ผู้หญิงเก่ง F2F ที่งานมหกรรม KM แห่งชาติครั้งที่ 2 คุณ นิดหน่อย