การเดินทางภายใน...ปล่อยให้คนอื่นระบายบ้าง


     เรื่องความโกรธ หงุดหงิด เบื่อหน่าย ท้อแท้ เป็นเรื่องที่พูดว่า อย่ามี นั้นง่าย กว่า ปล่อยให้มี

คนที่เคยโกรธ เคยหงุดหงิด ก็จะเข้าใจได้ดีว่า เวลานั้นๆ อยากระบายสักหน่อย และคนที่จะคอยรับให้ระบายก็มักจะเป็นคนที่ไว้วางใจว่าจะเข้าใจและไม่ซ้ำเติม แต่บางทีก็อาจจะไม่ใช่ตามที่คาดหวังเสมอ

     เวลาฟังใครที่เขากำลังโกรธ หงุดหงิด หรือ กำลังอารมณ์ไม่ดี และบ่น ตัวเองก็มักจะคอยนึกเข้าข้างฝ่ายตรงกันข้าม ยิ่งถ้าเรื่องที่คนกำลังโกรธเล่านั้น มองดูแล้วเป็นการด่วนโกรธ ด่วนตัดสินผิดถูกเร็วไปหน่อย ก็อดไม่ได้ที่จะคัดค้าง เลยบางทีกลับทำให้คนที่กำลังโกรธ โกรธหนักเข้าไปอีก เพราะคิดว่า เราไม่ยอมเข้าใจ เผลอๆ เคืองเราผู้ฟังแบบไม่ฟัง คือฟังแล้วเถียงแทนคนถูกโกรธ ไปซะอีก

    ตอนนี้จึงต้องพยายามเข้าใจคนที่กำลังหงุดหงิด ฟัง ฟัง ฟัง ไปก่อน ไม่ต้องคิดตามว่าเรื่องนั้นๆ ใครผิด ใครถูก ลองทำมาเรื่อยๆ ก็พบว่า คนที่โกรธและได้ระบายนั้น พอถึงจุดจะสิ้นสุดการสนทนา เขาจะย้อนนึกว่าตัวเองมีส่วนอยู่บ้างเหมือนกันในเรื่องที่กำลังโกรธ เรียกว่า โกรธๆไป เล่าๆไป แต่ใจก็คงสะท้อนตัวเองไปด้วย ผลสุดท้ายคือคนโกรธก็หายโกรธและได้สติกลับด้วยตัวเขาเอง เพียงแค่เราฟังเท่านั้น

    นักจิตวิทยาคงมีทฤษฎีอธิบายได้เยอะแยะ แต่ในฐานะคนปฏิบัติแบบไม่มีทฤษฎีนำ ใช้แต่สัญชาตญาณและความเมตตานำ ก็พบว่า คนที่หงุดหงิดและมาบ่นมาเล่านั้น เขาไว้ใจเราในระดับหนึ่ง การที่เราฟังปล่อยให้เขาได้บ่นบ้าง ก็ช่วยให้เขาได้เรียนรู้ตัวเองด้วยตัวเขาเอง และหาทางแก้ไขได้ด้วย  ฟังแล้วก็วางสิ่งที่เขาพูดไว้ตรงนั้น ไม่เก็บมาคิดเป็นอารมณ์ต่อ ตัวเราก็ไม่ต้องไปทะเลาะเพื่อชี้ถูกผิดให้กับเขาให้เสียสัมพันธไมตรีและเสียอารมณ์กันซะเปล่าๆ

 

คำสำคัญ (Tags): #psychological_health
หมายเลขบันทึก: 58090เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ฮึ ๆๆ ผมนึกถึงพราหมณ์คนหนึ่งโกรธว่า...ภรรยาไปทำบุญกับพระพุทธเจ้า...เขาตามไปด่าว่าพระพุทธเจ้า...จนเนื่อย...งงว่า...ทำไมพระองค์ไม่ด่าตอบ...เขาจึงถาม...พระพุทธองค์ตรัสบอกว่า...

พราหมณ์เอ๋ย...ถ้าท่านยกข้าวอาหารมาให้เราแล้วเราไม่ทาน...สิ่งของนั้นเป็นของใคร...ผมก็ยกไปทานเอง...พราหมณ์ตอบ...

ก็การที่ท่านมาโกรธ...ด่าเรา...เราไม่รับมันก็กลับเป็นของท่านตามเดิมนั้นเอง...พระพุทธเจ้าตรัสสอน...จนเขาขอโทษ...และขอบวชเป็นสาวกในที่สุดครับ...

ขอบคุณครับ...

ขอบคุณเช่นกันค่ะ ท่านอาจารย์ umi

...เวลาอ่านนิทานธรรม มักจะนึกๆ ว่า คนในนิทานเหล่านั้น ช่างมีจิตใจสูงมากเลย เรื่องเล็กๆ พูดไม่มาก ก็เข้าใจและบรรลุธรรมได้...ทำอย่างไรจะทำได้อย่างนั้นบ้าง...

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์จันทรรัตน์
  • ท่านอาจารย์เป็นแม่แบบที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า "ในฐานะคนปฏิบัติแบบไม่มีทฤษฎีนำ ใช้แต่สัญชาตญาณและความเมตตานำ" ผมก็เป็นเช่นเดียวกับท่านอาจารย์ครับ ผมไม่ค่อยมีทฤษฎีนำสักเท่าไหร่ครับ บางครั้งพยายามลืมทฤษฎีต่าง ๆ พยายามสนใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ณ ตรงหน้า คิดถึงคนที่คุยกับเราตอนนั้น คิดอยู่ว่าเราจะร่วมกันทำอย่างไร ร่วมกันพูดและคุยอย่างไรให้ได้รับผลประโยชน์ร่วมกันครับ 
  • ผมขออนุญาตเรียนรู้ทักษะและเทคนิค "เมตตานำ" เพื่อนำไปใช้ในชีวิตต่อไปครับ
  • ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ 
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท