ดอกไม้


03 หทัยกาญจน์ เกาะแก้ว
เขียนเมื่อ

เช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2555 ตื่นขึ้นมาเวลา 05.10 น. ซึ่งตรงกับวันพระและตรงกับวันเกิด เพื่อนพอดี เลยเตรียมของไปทำบุญตักบาตรที่วัดเจริญศรีสุข บ้านโนนสุข ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มจากการหุ่งข้าว เตรียมอาหาร ทั้งของคาว และของหวานที่จะนำไปถวายพระสงฆ์ที่วัด พอเตรียมข้าวของเสร็จ เวลา 06.02 น. เลยไปเตรียมตัวอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำบุญที่วัดในเวลา 07.07 น. ต่อไป

4
0
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

"อยากเก็บงานเขียนดีๆ ไว้อ่าน และบอกผ่านไปยังผู้ที่สนใจ"

     หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านบันทึกของ "คุณสามสัก" เรื่อง "๔๖.ปู....นางฟ้าผู้อารี หรือนักฆ่านัยตาหวาน ????" ที่สร้างในวันที่ 9 กันยายน 2555 (http://www.gotoknow.org/blogs/posts/501708) ผู้เขียนได้แสดงความเห็นไว้ ดังนี้

    • อ่านบันทึกนี้ในเวลาที่ควรนอน ตอนเกือบตีสองหลังตรวจงานนักศึกษา

  • ชอบบันทึกนี้มากๆ เลยค่ะ

  • อ่านแล้วได้ความรู้ว่า ต้นที่ขึ้นเยอะมากที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้และถอนทิ้งประจำเรียกว่า "ต้นสาบแมว" เคยถ่ายรูปตอนที่เขาขึ้นเต็มสวนกล้วยและออกดอกเต็มสวยเหมือนกันค่ะ

  • ได้รู้จัก "แมงมุมปู (Flower Crab Spider)" ซึ่งรู้สึกว่าจะไม่พบแถวฟาร์มไอดินฯ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการหาอาหารของแมงมุมดังกล่าว

  • ได้เรียนรู้ว่า คุณสามสักมีความรู้เกี่ยวกับแมลงศัตรูพืชเป็นอย่างดี เป็นคนละเอียดอ่อน ช่างคิด และมีความคิดลึกซึ้ง จะเห็นได้จากการนำวิถีชีวิตของสัตว์มาเปรียบเทียบกับคนไทย ที่อยากให้คนไทยทั้งประเทศได้อ่านอย่างมีสติตระหนักรู้ จะได้ไม่หลงระเริงดังเช่นผึ้งที่หลงใหลในความงามและน้ำหวานของดอกสาบแมว

  • "คุณสามสัก" ทิ้งท้ายในบันทึกดังกล่าว ไว้ดังนี้   

    เฮ้อ..ช่างแสนเวทนาแมงมุมปูวัยเด็กและสงสารผึ้งตัวนั้นจริงๆ.......พอๆ กับการสงสารตัวเอง สงสารอนาคตของลูกหลานไทย .. ที่ถูกภาครัฐ กำลังเพาะบ่มพฤติกรรม "รอแลกแจกแถม อย่างไม่เห็นคุณค่า...ถูกหลอนให้หลงใหลได้ปลื้มกับความสุข ความสบายภายใต้นโยบายประชานิยมที่ขาดความสมเหตุสมผลที่ดี ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว..เพราะรายได้ของประเทศ ได้ถูกนำเอามาใช้เพื่อเอาอกเอาใจประชาชน ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง..จนกระเป๋าของชาติฉีกขาดอย่างต่อเนื่องยาวนาน ..

    เมื่อไม่มีก็ต้องกู้ ..หนี้เก่าเมื่อปี ๒๕๕๔ จำนวน ๔.๒๘ ล้านล้านบาท มาปีนี้ คงมีหนี้สะสมไม่น้อยกว่า ๕ ล้านล้านบาท.. ในขณะที่ทรัพยากรชาติ ก็ถูกล้าง ถูกผลาญ..ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของหนี้สินภาคครัวเรือน จาก ๘ หมื่นบาทเศษ เป็น ๑๓๖,๕๖๒ บาทต่อครัวเรือน ในเวลาเพียงไม่กี่ปี..

    คนไทย จึงไม่ต่างกับผึ้งที่ถูกหลอนให้หลงระเริงกับความหวานและความสวยงามของดอกสาบแมว.รอเวลาที่จะถึงกาลเสื่อมถอย..แตกดับ...

    ในขณะที่ลาว พม่า เวียตนาม (เวียดนาม).. ซุ่มซ่อนลับคมเขี้ยวทางปัญญาให้แก่พลเมือง ให้รู้จักตนเองและก้าวเท่าทันโลกอย่างมั่นคง..พร้อมที่จะแซงพี่ไทย..ที่หลงระเริงความหวาน จนจะเป็นโรคเบาหวาน..ได้อย่างไม่ยากเย็น...

  • ถ้อยคำทิ้งท้ายของ "คุณสามสัก" ดังที่ยกมา ตรงใจผู้เขียนยิ่งนัก ที่รู้สึกนึกคิดเยี่ยงเดียวกัน ด้วยความห่วงใยใน "หายนะของชาติ" แต่ไม่อาจเขียนออกมาเป็นถ้อยคำ เมื่อได้พบกับงานเขียน "ค่าล้ำ" จึงขอนำมาบอกต่อ ขอให้คนไทยได้นำมาคิดไตร่ตรองกันดู จะปล่อยให้บ้านเมืองก้าวไปสู่หายนะเช่นนี้หรือไฉน...

     

30
6
03 อรดี ลีลาศ
เขียนเมื่อ

ความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการค่ะ

         ในปัจจุบันนี้  เกิดปัญหายามข้าวยากหมากแพง  ในสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ประชากรในประเทศไทยมีการศึกษาเยอะแต่ไร้งานทำ  จึงเกิดการว่างงาน  ด้วยเหตุนี้  ทางรัฐบาลจึงเห็นความสำคัญของปัญหานี้เป็นจึงได้มีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมา  ในชื่อว่า   กรมการจัดหางาน และทางกรมการจัดหางานก็ได้จัดทำเว็บไซต์ขึ้นมา  มีชื่อว่า  เว็บไซต์ http://www.doe.go.th

         ปัญหาแรงงานไทย ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นปัญหาหลักใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง  รัฐบาล จึงได้ดำเนินนโยบายของชาติไว้อย่างแน่ชัด ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และประเทศไทยได้รับผลกระทบกระเทือนด้วย ประชาชนจึงว่างงานกันมาก หน่วยงานของรัฐบาล ที่ปฏิบัติงานบริหารแรงงาน ได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเพื่อช่วยแก้ปัญหา เพื่อประชากรได้มีงานทำ

         กรมการจัดหางานมีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมการมีงานทำและคุ้มครองคนหางาน โดยการศึกษา วิเคราะห์สภาวะตลาดแรงงาน และแนวโน้มตลาดแรงงาน เป็นศูนย์กลางข้อมูลตลาดแรงงาน และส่งเสริมระบบการบริหารด้านการส่งเสริมการมีงานทำ  เพื่อให้ประชากรมีงานทำที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและความถนัดที่เหมาะสมและเป็นธรรม

         เว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการมีงานทำ คุ้มครองคนหางาน และให้บริการข้อมูลข่าวสารในตลาดแรงงานที่ทันสมัย

         ผู้ที่มีความสนใจที่ยังว่างงานอยากจะหางานทำเป็นของตนเอง   ก็คลิกเข้าไปดูในเว็บไซต์นี้ได้นะค่ะ           http://www.doe.go.th

ขอขอบคุณกรมการจัดหางานมากนะค่ะ  ที่ทำให้คนหางานได้มีงานทำ  และมีอาชีพเป็นของตนเอง

 

 

6
2
03 กิตติพร วงศ์คูณ
เขียนเมื่อ

วิธีเพิ่มความจำดี ๆ 10 วิธีมาบอกเพื่อนๆกัน

  1. ออกกำลัง การออกกำลังแบบแอโรบิค หรือออกกำลังต่อเนื่อง เช่น วิ่งเหยาะ (จอกกิ้ง) ฯลฯ นาน 20-30 นาที อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์

  2. ฝึกคลายเครียด (relaxation) การฝึกสมาธิ ไทเกก (ชี่กง - ไทจี้) โยคะ ซึ่งช่วยทำให้การหายใจเข้า - ออกช้าลงอย่างน้อยวันละ 10 นาที

  3. ฝึกแสดงความชื่นชม (appreciation/ "แอพพรีชิเอ๊เชิ่น") การแสดงความชื่นชมควรเน้นที่การกระทำ ไม่ว่าใครทำอะไรดีๆ ควรแสดงความชื่นชมเสมอ เพื่อฝึกการมองโลกในแง่ดี คนที่ต้องชื่นชมก่อนคนอื่นทั้งหมดคือ ชื่นชมตัวเราเองเวลาเราทำอะไรดี ๆ และชื่นชมคนรอบข้าง

  4. หาเครือข่ายสังคม (social network) เครือข่ายสังคมดีๆ ช่วยให้เรามองโลกในแง่ดี และช่วยเหลือเกื้อกูลกันไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข จึงควรเลือกคบเพื่อนดี ๆ ญาติดี ๆ และเครือข่ายสังคมดี ๆ เช่น เครือข่ายพวกเราบน Gotoknow ฯลฯ

  5. ใช้ปฏิทินวางแผน ว่าจะทำอะไรก่อนหลังลงบนปฏิทิน อย่าปล่อยให้เรื่องวุ่น ๆ รกสมองจนล้นทะลัก

  6. ลำดับความสำคัญ (list) เขียนไปเลยว่า จะทำอะไรก่อน - หลังอะไรสำคัญ - ไม่สำคัญ แบ่งเป็น 4 ช่อง และเลือกทำสิ่งที่รีบด่วน + สำคัญก่อนเสมอ

  7. ให้รางวัลตัวเองบ้าง เวลาเราทำอะไรดี ๆ สำเร็จ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรฝึกให้รางวัลตัวเองบ้าง ผู้เขียนมักจะให้รางวัลตัวเองด้วยการกล่าว "สาธุ สาธุ สาธุ" กับตัวเอง หรือเดินเล่น (10-120 นาที)

  8. เลือกแต่สิ่งดี ๆ (prioritize) เวลาไปงานหรือพบปะคนมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องจำคนทุกคนให้ได้ เช่น ถ้าพบคน 25 คน เลือกจำคนดีๆ ที่ควรคบ 5 คนก็พอ ฯลฯ

  9. นอนให้พอ คนส่วนมากต้องการนอนวันละ 7 ชั่วโมง (แต่ละคนไม่เท่ากัน) ลองสังเกตดูว่า นอนเท่าไหร่ที่จะทำให้สดชื่น และไม่ง่วงตอนบ่าย ๆ แต่อย่านอนเกินวันละ 9 ชั่วโมง... การนอนมากเกินทำให้อัตราตายจากโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นได้

  10. ข่าวดี คือ ไม่มียาหรืออาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มความจำได้ แม้แต่โสมก็ไม่ช่วย มีแต่ "ซองใส่ยา" หรือรองเท้าดี ๆ สักคู่ ใส่มันเดินมาก ๆ วิ่งมาก ๆ ซองใส่ยานี้อาจช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ในระยะยาว

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดี และมีความจำดีไปนาน ๆ

 หวังว่าผู้ที่เข้ามาอ่านจะนําเอาไปปฏิบัติกันนะค่ะ

6
2
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ
  • จากวันที่ 22-26 สิงหาคม 2555 คงต้องขับรถอุบลฯ-ยโสธร และยโสธร-อุบลฯ ตามลำพัง เป็นว่าเล่น เพราะต้องเดินทางไปช่วยงานฌาปนกิจศพน้องสะใภ้ที่ อ.เมือง ยโสธร และกลับไปทำงานที่อุบลฯ
  • สายๆ วันนี้ขับรถจากยโสธรมาอุบลฯ ช่วงอำเภอเขื่องใน-อุบลฯ รู้สึกง่วงแต่ก็พักไม่ได้ พยายามฝืนเพราะมีงานด่วนรออยู่ที่มหาวิทยาลัย มีอาการเกือบหลับในไป 3 ครั้ง รถแฉลบออกทางขวานิดๆ แต่ก็รู้สึกตัว (ที่ยังกล้าขับอยู่ก็เพราะรถวิ่งทางเดียว ไม่มีรถสวนเลยไม่เกรงว่าจะสร้างปัญหาให้รถสวน และก็คิดว่าไม่น่าจะสร้างปัญหาให้รถที่ขับตามหลังมา เพราะมีสองเลน เราเองขับเร็วเลยวิ่งเลนขวา ถ้ามีรถที่ขับตามหลังมาใกล้ๆ และขับเร็วก็จะหลีกทางให้ โดยให้สัญญาณแล้วเปลี่ยนไปขับเลนซ้าย
  • ตอนที่รถทำท่าแฉลบทั้ง 3 ครั้งจะอยู่ในช่วงที่วิ่งเลนขวาและไม่มีรถตามมาใกล้ๆ  ทั้ง 3 ครั้งรถทำท่าจะแฉลบลงร่องที่กั้นระหว่างถนนอีกด้าน ถ้ามีปัญหาจริงก็คงเป็นอันตรายกับตนเอง ไม่เป็นอันตรายกับคนอื่น แต่ก็โล่งอกที่ถึงเป้าหมายโดยปลอดภัย
  • คืนนี้ก็คงต้องนอนน้อย เพราะต้องพิมพ์เอกสารประวัติ และจัดทำไฟล์ภาพส่งงานประชาสัมพันธ์เช้าพรุ่งนี้ เพื่อจัดทำหนังสือเกษียณอายุราชการ และตรวจงานวิชาจิตวิทยาสำหรับครู ซึ่งมีตารางสอนพรุ่งนี้ 08.00-11.20 น.  ตอนบ่ายต้องทำเรื่องเบิกค่าวัสดุฝึก ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่คณะให้ทำเรื่องเบิก แล้วเย็นๆ ก็ต้องขับรถไปยโสธรอีก เที่ยวนี้ดีหน่อยจะมีคนนั่งไปเป็นเพื่อน

 

45
28
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

        ค่ำนี้ ได้อ่านอนุทินของน้องสุภัทรา เล่าถึงอาการหอบที่เนื่องมาจากหวัดของคุณแม่ของเธอ ทำให้ได้ความรู้ว่า อาการหอบสืบเนื่องมาจากการเป็นหวัด

       ย้อนกลับมาดูตัวเอง ซึ่งได้รับเชื้อหวัดมาจากลูกสาวตอนที่ไปเกาหลี สองวันแรกไม่เป็นอะไร วันที่สามเริ่มมีอาการจามและน้ำมูกไหลไม่หยุดจนต้องขอยาลดน้ำมูกจากลูกมากิน (ปกติเวลาป่วยจะไม่กินยา/หาหมอ ปล่อยให้หายเอง) อาการแสดงออกมากในวันที่จะเดินทางกลับ  ตอนกลับถึงกทม.วันที่ 29 พ.ค.มีอาการหายใจหอบ ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งที่ก็เคยเป็นไข้หวัด และยิ่งตอนที่เดินจากจุดเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิไปรอขึ้นเครื่องกลับอุบลฯ ในวันที่ 30 ซึ่งต้องเดินไกลมาก ก็ยิ่งหอบมาก กลับถึงอุบลฯ ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแค่เดินไม่กี่เมตรก็หอบเลยนอนอย่างเดียว ช่วงบ่ายแก่ๆ ตื่นขึ้นมาพบว่าอาการหอบหายแล้ว เลยไปตลาดซื้อกับข้าวมากิน หลังจากที่ไม่ได้กินมาตั้งแต่เที่ยงวันที่ 30

       ช่วงนี้เดินทางบ่อยมาก ในรอบสองสัปดาห์ขึ้นเครื่อง 8 เที่ยว และใช้แรงเดินขึ้นเขาทั้งตอนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่และเที่ยวเกาหลี กลางคืนก็นอนน้อยร่างกายเลยอ่อนแอสู้กับโรคไม่ไหว ถ้าอยู่ที่ฟาร์มไอดินฯ หรือบ้านเรือนขวัญ ในแต่ละมื้ออาหารจะทานพืชผักสมุนไพร 80 % ทานโปรตีน 20 % ทำให้พร้อมสู้โรค แต่อยู่ที่เกาหลี 4 วันเต็มๆ อาหารเป็นเนื้อสัตว์ 85 % ผัก 15 % ร่างกายคงจะปรับตัวไม่ได้

       คืนนี้ก็คงจะต้องนอนน้อย เพราะมีงานค้างที่ไม่มีแรงทำส่งในวันที่ 30 ตามที่แจ้งคณะไว้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ซึ่งเริ่มด้วยการประชุมของมหาวิทยาลัยในภาคเช้า และเริ่มการเรียนการสอนในภาคบ่าย 

34
4
03 กิตติพร วงศ์คูณ
เขียนเมื่อ

แม่คือผู้ให้คําว่าแม่ยิ่งใหญ่มากสําหรับลูกทุกคน

แม่คือผู้เสียสละส่วนตนเพื่อลูกทุกคนคอยดูแลเอาใจใส่ประคบประหงมลูกจนเติบโตความรักของแม่ถือว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์และสังคมไทยมักพูดถึงแม่ในฐานะของผู้รักลูกยิ่งกว่าชีวิตพร้อมที่จะลําบากเพื่อลูกโดยไม่สํานึกเสียใจเพื่อให้ลูกได้ทุกอย่างดังใจปองของลูก

วันแม่ปีนี้ก็อยากเขียนบทความเกี่ยวกับแม่ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะค่ะ

แม่กลั่นเม็ดเลือดเม็ดน้อยนับร้อยหยด

จนปรากฎเป็นหยดนมรสกลมกล่อมให้ลูกดื่ม

เพื่อหล่อเลี้ยงทารกน้อยค่อยอดออม

และเฝ้าถนอมฟูมฟักรักเมตตา

วันเปลี่ยนเดือนเปลี่ยนเดื่อนหมุนเคลื่อนคล้อย

      จากเด็กน้อยเริ่มมีแรงแข็งกล้า

        ค่อยสอนดินสอทําสอนคําจา

      สอนปัญญาสอนวิชาสารพัน

   ทารกน้อยวันนี้เห็นเป็นผู้ใหญ่

    แม่ภูมิใจอันผลงานการสร้างสรรค์

   ความเหน็ดเหนื่อยกายใจหายไปพลัน

      เมื่อถึงวันที่ลูกได้รับปริญญา 

วันนี้ลูกของแม่สุขถ้วนทั่ว

  มีครอบครัวอยู่ร่มเย็นเป็นฝั่งฝา

แม่คนนีย่างเข้าสู้วัยชรา 

รอเวลาสู่กองฟอนตอนสิ้นใจ

อยากให้ทุกคนบอกรักแม่ในวันแม่แห่งชาตินี้กอดแม่หอมแก้มแม่เพื่อแสดงความรักมอบให้กับแม่ของเรานะค่ะ

 

6
1
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ

         เมื่อตัดสินใจที่จะเขียนบันทึกเกี่ยวกับ “มนุษยสัมพันธ์” เป็นเรื่องแรก ใน Blog “Mantoknow” ซึ่งจะลงเย็นวันนี้ ผู้เขียนได้ลองเข้าไปทำแบบทดสอบ “Human Relations Test” ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีคำถามในเรื่องต่างๆ 10 ข้อหลายๆ ข้อก็ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์ ซึ่งเป็นลักษณะของคำถามทางจิตวิทยา ผู้เขียนได้ตอบ (ส่วนที่พิมพ์ตัวหนา) ดังนี้

1. When do you feel you best? in the morning ที่เลือกตอบว่ารู้สึกดีที่สุดในตอนเช้า เพราะบางวันที่ผู้เขียนอาจรู้สึกหดหู่ หมดพลัง (ซึ่งเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก) แต่พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ความรู้สึกสดชื่น เต็มไปด้วยพลัง จะกลับมาเหมือนดังเดิม

 2. You usually walk fairly fast, with long steps.

3. When talking to people you touch or push the person to whom you are talking.

4. When relaxing, you sit with your legs stretched out or straight. (ถามแม้กระทั่งท่านั่งยามผ่อนคลาย) 

5. When something really amuses you, you react with a laugh, but not a loud one.

6. When you go to a party or social gathering, you make a quiet entrance, looking around for someone you know.

 7. You're working very hard, concentrating hard, and you're interrupted. I welcome the break.

 8. Which of the following colors do you like most? ถามสีที่ชอบ ซึ่งผู้เขียนตอบว่าชอบสีเขียว (จากตัวเลือก Red or Orange, Yellow or Light Blue, Green, Dark Blue or Purple, White, Brown or Gray)

9. When you are in bed at night, in those last few moments before going to sleep, you lie on your side, slightly curled. (ถามแม้กระทั่งท่านอน) 

10. You often dream that you are … you usually have dreamless sleep ตัวเลือกมี falling, fighting or struggling, searching for something or somebody, flying or floating, you usually have dreamless sleep, your dreams are always pleasant (และถามแม้กระทั่งความฝันซึ่งผู้เขียนตอบว่าปกติจะไม่ฝัน เพราะผู้เขียนจะนอนน้อย นอนคืนละ 4-5 ชั่วโมงแต่จะหลับสนิท หลับลึกจึงไม่ค่อยได้ฝัน และจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่บางครั้งที่ฝันจะตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย)

   เมื่อตอบเสร็จ เขาก็ให้แจ้งอายุ และ e-mail address ชั่วอึดใจ ผู้เขียนได้รับรายงานผลว่า Wilai Phaengsri, people see you as fresh, lively, charming & amusing. (วิไล คนมองคุณว่า คุณเป็นคนสดชื่น มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ และมีอารมณ์ขัน 

   They see you as practical, and always interesting; someone who's constantly in the center of attention, but sufficiently well-balanced not to let it go to their head. They also see you as kind, considerate, and understanding; someone who'll always cheer them up and help them out.

เว็บที่ทำแบบทดสอบ :  http://www.3smartcubes.com/pages/tests/humanrelations/humanrelations_report.asp?from=signup

8
2
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท