Praepattra
ผู้ช่วยศาตราจารย์ Praepattra Kiaochaoum

วิธีการสวดมนต์เพื่อสร้างเสริมสุขภาพด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิตามแนวทางพระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)


นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

จากการศึกษาหนังสือ ใครจะใหญ่เกินกรรม [14] สรุปได้ว่า คาถามหาจักรพรรดิหรือคาถาพระมหาจักรพรรดิ เป็นคาถาที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระเกจิอาจารย์แห่งวัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้แต่งขึ้นใช้สำหรับการสวดมนต์เพื่อรวบรวมบุญและบารมีไว้อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาให้แก่ 3 ภพภูมิ ได้แก่ โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก โดยช่วยเหลือปรับภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ คาถาบทนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากบทสวดชมพูปติสูตร ซึ่งเป็นการสรรเสริญเรื่องราวเมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เพื่อกำราบทิฐิของพญาชมพูบดี พระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ อันเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางทรงเครื่องกษัตริย์ หลวงปู่ดู่ใช้คาถาพระมหาจักรพรรดิในการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน ที่สำคัญ หลวงปู่ดู่ได้ถ่ายทอดบทสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิและความรู้ทั้งหลายของท่านให้แก่พระอาจารย์ วรงคต วิริยธโรหรือหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่เพื่อเผยแพร่คาถาพระมหาจักรพรรดิและวิธีการสวดมนต์ที่ถูกต้องให้กับพุทธศาสนิกชนสืบไป

คาถาพระมหาจักรพรรดิ เป็นการสวดมนต์เพื่อไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวล สวดไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพ พรหม พระอริยะเจ้าทั้งหลาย การสวดมนต์ด้วยบทพระมหาจักรพรรดิ ตามแนวทางของหลวงตาม้า จะเป็นการสวดมนต์โดยนำบทพระมหาจักรพรรดิมาสวดมนต์ซ้ำไปมาในทุกที่ทุกเวลาให้จิตคุ้นชินกับบทสวด ผู้สวดมนต์สามารถเลือกสวดมนต์ตามกำลังวัน ได้แก่ อาทิตย์ 6, จันทร์ 15, อังคาร 8, พุธ 17, พฤหัส 19, ศุกร์ 21, เสาร์ 10 จบ เป็นต้น หรือเลือกสวดตามรอบสวดมนต์ภายใน 1 ชั่วโมงของวัดถ้ำเมืองนะ ถ้าเป็นไปได้ให้สวดมนต์พร้อมกันเวลา 20.30 น.เป็นประจำทุกคืน หรือเลือกสวดมนต์ในทุกที่ทุกเวลาที่ผู้สวดมนต์นึกขึ้นได้ ซึ่งหลวงตาม้าเน้นให้สวดทุกอิริยาบถทั้ง ยืน,เดิน,นั่ง,นอน,กินข้าว,อาบน้ำ,ขับรถ,ทำงานบ้าน เป็นต้น การทำกิจกรรมต่างๆสามารถสวดมนต์ไปด้วยได้หมด เพื่อสร้างความเคยชินเพื่อให้จิตห่างจากคลื่นที่ไม่ดีและปิดอันตรายทั้งปวง ด้วยความเชื่อที่ว่า การสวดมนต์ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง โชคดี มีความสุข ปลอดภัยจากภัยอันตรายใด ถ้ามีกรรมใดอย่างน้อยกรรมจากหนักก็ได้กลายเป็นเบา กรรมเบาจะได้หาย จิตใจสบายใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขกาย สบายใจ  

 

วิธีการสวดมนต์ด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิตามแนวทางพระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า) 

 

ก่อนสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ์ ขอให้ผู้สวดมนต์หายใจเข้าลึกๆ นึกถึงภาพหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ซึ่งวิธีการสวดมนต์คาถามหาจักรพรรดิ มีดังนี้

 

เริ่มต้นด้วยการตั้งสัจจะอธิษฐาน   

จากการศึกษาวีดีโอของเพจวัดถ้ำเมืองนะ หลวงตาม้า ก่อนสวดมนต์ หลวงตาม้าจะกล่าวนำอธิษฐาน ดังนี้ “นึกถึงหลวงปู่ ขอบารมีท่าน น้อมกำลังจักรพรรดิ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตผ่านมาที่เรา กำหนดไป 3 โลกธาตุ กำหนดไปในสิ่งที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเราทั้งหมด อัญเชิญเทพ พรหมทุกชั้น ทุกภพ ทุกภูมิ โลกของวิญญาณ โอปัปปาติะ บริเวณนี้บริเวณใกล้เคียง บริเวณไกลไป แถวบ้านเรา ที่ทำงาน ที่เราอาศัย ที่เราเลี้ยงชีพ หลวงตาอ๋อย ในหลวง ร 9 พระสยาม  พระศรีสยาม วีรกษัตริย์ วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลาย เจ้าพ่อหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง ทุกจังหวัด พญาครุฑ ยักษ์  นาค คนธรรพ์ ลับแล พระสบ กุมภัณฑ์ พร้อมบริวาร ชาวป่าหิมพานต์ทั้งหมด ฤาษี ดาบส นักบวชทั้งหลาย พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระแม่ธรณี สวดพร้อมกับเรานะฮะ” อธิษฐานแล้วสวดมนต์ตามบทต่าง [15]  ดังนี้

 

บทบูชาพระถวายชีวิต

พุทธัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ (ข้าพเจ้า ขอบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยชีวิต)

ธัมมัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ (ข้าพเจ้า ขอบูชาพระธรรมเจ้า ด้วยชีวิต)

สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ (ข้าพเจ้า ขอบูชาพระสงฆ์เจ้า ด้วยชีวิต)

 

บทบูชาพระกล่าวถึงการมอบกายถวายชีวิต เพื่อพระรัตนตรัยแล้วแม้ชีวิตก็มอบให้ได้ เป็นบาทฐานของการเข้าถึงพระไตรสรณะคม

 

กราบพระ 6 ครั้ง (กราบด้วยจิต)

พุทธัง วันทามิ (กราบ) ธัมมัง วันทามิ (กราบ)  สังฆัง วันทามิ (กราบ) ครูอุปัชฌาอาจาริยคุณัง วันทามิ (กราบ) มาตาปิตุคุณัง วันทามิ (กราบ) พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ (กราบ) 

การไหว้พระ 6 ครั้งเป็นการแสดงความอ่อนน้อมแก่สรณะผู้ควรบูชา 6 สรณะด้วยกัน แฝงไว้ด้วยกุศโลบายแห่งความอ่อนน้อมและความกตัญญูกตเวทีอันเป็นเครื่องหมายแห่งคนดี

 

บทสมาทานศีล 5

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)

 

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ  สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ  ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

ตติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ  ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

 

ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

อพรัมจริยา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ

** อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ ** (3 ครั้ง)

สีเลนะ สุคติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา สีเลนะ นิพพุตติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย

 

บทอาราธนาพระ

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)

 

พุทธัง อาราธนานัง กะโรมิ ธัมมัง อาราธนานัง กะโรมิ สังฆัง อาราธนานัง กะโรมิ

 

คาถาหลวงปู่ทวด (น้อมระลึกถึงปู่ทวด แล้วว่าคาถา ดังนี้)

 

นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภะคะวา (3 ครั้ง)

 

คาถาหลวงปู่ดู่ (น้อมระลึกถึงปู่ดู่ แล้วว่าคาถา ดังนี้)

 

นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (3 ครั้ง)

 

บทขอขมาพระรัตนตรัย

 

โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

 

บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (กราบ 3 ครั้ง)

นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ

มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา

พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา

อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง

อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย

อะหังวันทามิ สัพพะโส

พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

 

คำแปลคาถาพระมหาจักรพรรดิ

 

นะโมพุทธายะ หมายถึง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชา ต่อพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ คือ

    นะ  หมายถึง   พระกกุสันธะ

    โม  หมายถึง พระโกนาคม

    พุท  หมายถึง พระกัสสป

    ธา  หมายถึง  พระสมณโคดม

    ยะ  หมายถึง  พระศรีอริยเมตไตรย

พระพุทธไตรรัตนญาณ หมายถึง สุดยอดของศีล สมาธิ ปัญญา

มณีนพรัตน์ หมายถึง สมบัติจักรพรรดิ 7 ประการ ได้แก่ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว แก้วมณี

สีสะหัสสะ สุธรรมา หมายถึง การคิดและลงมือทำจนรู้ทั่วทั่ง 3 โลก

พุทโธ หมายถึง ทรงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

ธัมโม หมายถึง พระธรรมของพระพุทธเจ้า

สังโฆ หมายถึง พระสาวกผู้ปฏิบัติตาม

ยะธาพุทโมนะ หมายถึง พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต คือ พระศรีอริยเมตไตรย (เป็นการไล่สูตรคาถาย้อนกลับแบบโบราณ โดยนำเอาคำ "ยะ" มาตั้งไว้ข้างหน้า หมายถึง กำลังของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นองค์นำ)

พุทธบูชา หมายถึง ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธเจ้า

ธัมมะบูชา หมายถึง ข้าพเจ้าขอบูชาพระธรรม

สังฆะบูชา หมายถึง ข้าพเจ้าขอบูชาพระสงฆ์

อัคคีทานัง วะรังคันธัง หมายถึง ไฟเผาทำลายกิเลสทั้งภายนอกภายใน

สีวลี จะมหาเถรัง ขอนมัสการพระสีวลีเถระเจ้า ผู้เป็นเลิศทางลาภสักการะ หมายถึง โชค ลาภ ธุรกิจการงาน ครอบคลุมทั้งหมด

อะหังวันทามิ ทูระโต หมายถึง ขอนมัสการสถานศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป มีสังเวชนียสถาน เป็นต้น

อะหังวันทามิ ธาตุโย หมายถึง ขอนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุทั้งหลายทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล

อะหังวันทามิ สัพพะโส หมายถึง ขอนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

พุทธะ ธัมมะ สังฆะ หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ปูเชมิ หมายถึง การบูชาทั้งหมดทั้งมวลในพระพุทธศาสนา 

 

บทสวดเชิญพระเข้าตัว (เมื่อสวดคาถาจักรพรรดิครบแล้ว สวดแผ่บุญกุศลปรับภพภูมิส่งวิญญาณดังนี้)

หลังสวดมนต์ หลวงตาม้าจะกล่าวนำอธิษฐาน ดังนี้ “น้อมไปที่หลวงปู่ดู่ ไปตามกำลังจักรพรรดิ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต ไปตามรูปลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นแล้วอธิษฐานไว้ แผ่ไปทั้ง 3 โลกธาตุ โลกของโอปัปปาติะ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิดทั้ง 3 แดนโลกธาตุ สิ่งที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวพันกับเราทั้งหมด แผ่ให้ผู้มีพระคุณกับกองทุนพรหมปัญโญ เจ้าเมืองนะและสาขา ผู้อธิษฐานให้ช่วยเหลือ ผู้ที่เจ็บป่วย ผู้ที่ตายไป อธิษฐานอะไรไว้ น้อมไปในสิ่งที่อธิษฐานนั้น ขอวิมานปรับภูมิทั้งหลายส่งวิญญาณ” 

 

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส  (3 จบ)

 

คำแปล

สัพเพพุทธา หมายถึง ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

สัพเพธัมมา หมายถึง ด้วยอำนาจแห่งพระธรรมทั้งหลาย

สัพเพสังฆา หมายถึง ด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย

พะลัพปัตตา ปัจเจกานัญ จะ ยังพะลัง หมายถึง ด้วยอำนาจแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย 

อะระหันตานัญ จะเตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส หมายถึง ด้วยอำนาจแห่งพระอรหันต์เจ้ารักษา (พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสงฆ์)ทั้งหมดทั้งมวล ขอให้เป็นไปตามคำอธิษฐาน 

 

บทอธิษฐานจิต (ให้อธิฐานจิตแผ่กุศลปรับภพภูมิให้เจ้ากรรมนายเวร)

พุทธัง อธิฏฐามิ ธัมมัง อธิฏฐามิ สังฆัง อธิฏฐามิ

 

คำแปล

พุทธังอธิษฐามิ หมายถึง ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้า 

ธัมมังอธิษฐามิ หมายถึง ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระธรรม

สังฆังอธิษฐามิ หมายถึง ข้าพเจ้าขออธิษฐานด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์

 

ต่อจากนั้นให้ผู้สวดมนต์น้อมจิตแผ่บุญและอธิษฐานน้อมในเรื่องต่างๆ โดยตั้งจิตอธิษฐานคิดทำสิ่งใดให้สำเร็จทุกประการทั้งทางโลกและทางธรรม ขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน จงสำเร็จเป็นจริงทุกประการ

สิ่งที่เป็นมงคลทั้งหลาย พรที่เป็นมงคลทั้งหลายเกิดจากตัวเราเอง ดังนั้น การสวดมนต์ แผ่เมตตาและบันทึกบุญ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการปฏิบัติธรรมด้วยการสวดมนต์ สามารถสรุปขั้นตอนได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การสวดมนต์คาถามหาจักรพรรดิพร้อมจับภาพหลวงปู่ดู่ การสวดมนต์ คือ การทำกำลังแล้วแต่บุคคลจะทำมากทำน้อยก็เป็นไปตามนั้น เฉกเช่นเหมือนกับการออกกำลังกายใครทำคนนั้นก็ได้รู้ได้เฉพาะตน  หลวงตาเน้นให้สวดมนต์เพื่อให้จิตมีกำลังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  จิตมีกำลัง แล้วจิตจะเบาสบาย อารมณ์ดี มีความสุข จิตจะมีเมตตาและปรารถนาดีจะหลีกหนีจากการกระทำกรรมที่ไม่ดีทั้งหลาย หากสวดมนต์มาถูกทางจะมีแต่ความมีเมตตาไม่ทำร้ายหรือริษยาให้ร้ายผู้ใด ผู้สวดมนต์จะกระทำแต่ความดีเพราะรู้เห็นถึงผลของการกระทำ ดังนั้น การสวดมนต์จึงช่วยให้สุขภาพจิตที่ยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 แผ่เมตตาหรือส่งวิญญาณ   การสวดมนต์ทำให้จิตมีกำลัง ซึ่งจิตที่มีกำลังแล้วสามารถเชื่อมต่อกับบารมีแห่งหลวงปู่ดู่ได้แล้ว จึงสามารถนำกำลังจิตที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ประโยชน์ในที่นี้หลวงตาเน้นประโยชน์ต่อโลกวิญญาณ หลวงตาม้าได้รับการอบรมสั่งสอนจากหลวงปู่ดู่ ท่านเชื่อว่าวิญญาณต่างๆที่ตกค้างอยู่ในโลกนี้มีมากมายมหาศาล เป็นสิ่งที่น่าสงสารอย่างไม่มีประมาณ ท่านจึงมุ่งเน้นในการเอากระแสกำลังแห่งบุญนำมาใช้แผ่เมตตาเพื่อส่งวิญญาณปรับภพภูมิ เพื่อเป็นประโยชน์ เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ก่อเกิดประโยชน์ต่อสิ่งอื่น รวมทั้งปรับสภาวะจิตตนเองให้ดำรงความมีเมตตาต่อสิ่งอื่น

ขั้นตอนที่ 3 การบันทึกบุญ คือ การที่จิตบันทึกพฤติกรรมหรือการกระทำของบุคคลที่ดีหรือสภาวะธรรมที่ดี  สิ่งที่ได้กระทำเหล่านี้จะเป็นแรงสืบไปในจิตทั้งรูปและนามและ DNA หลวงตาม้าจึงมุ่งเน้นให้ผู้สวดมนต์บันทึกบุญ ซึ่งการบันทึกบุญจะเป็นไปโดยธรรมชาติของจิต โดยจิตจะบันทึกบุญตั้งแต่การสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตาการกระทำกรรมต่างๆลงในจิต เป็นลักษณะเหมือนวงรอบ เพื่อเป็นกำลังของเราในการปฏิบัติภาวนาหรือการสืบพบชาติหรือตัดภพชาติก็ได้ การบันทึกบุญนี้เปรียบเสมือนบันทึกเงินฝากในธนาคาร ผู้สวดมนต์สามารถที่จะย้อนบุญที่ผู้สวดมนต์กระทำและเบิกนำมาใช้เพื่อเป็นกำลังประโยชน์ได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

การกระทำทั้งหมดตั้งแต่สวดมนต์แผ่เมตตาบันทึกบุญนั้นเป็นเหมือนวงจรบุญ สามารถเกิดดับได้ในสภาวะเดียวของจิต เมื่อผู้สวดมนต์ทำอย่างนี้อยู่บ่อยๆ เป็นวงรอบของความถี่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้สวดมนต์คือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของตนที่ดีขึ้นทางกายวาจาและใจ นี่คือเป้าหมายของการปฏิบัติภาวนาจนถึงวิปัสสนาญาณ คือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของเราทางกายวาจาใจที่ดียิ่งขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวตนเองและสิ่งรอบข้าง นับว่าเป็นประโยชน์ในการตัดภพชาติหรือหากต้องมาเกิดเพื่อสร้างประโยชน์สืบต่อไป

ที่สำคัญวิธีการสวดมนต์ของหลวงตาม้า ท่านจะแนะนำให้ผู้สวดมนต์สวมใส่พระผงรูปหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด หลวงตาม้า รูปพระจักรพรรดิหรือสวมใส่วัตถุมงคลที่หลวงตาท่านทำแจกประชาชน นั่นก็คือ พระผงจักรพรรดิกับสร้อยประคำพร้อมกำพระสวดมนต์ไปด้วย เพราะการสวดคาถามหาจักรพรรดิถ้าใช้คู่กับพระผงจักรพรรดิจะทำให้การปฏิบัติภาวนาก้าวหน้าเร็วขึ้น ซึ่งหลวงตาม้าจะสอนให้ผู้สวดมนต์นำจิตไปอยู่ที่พระในขณะสวดมนต์หรือให้นึกถึงพระบ่อยๆ พยายามคุยทางจิตกับพระผงจักรพรรดิที่ใส่ไว้เพื่ออธิษฐานและเพื่อนำพลังงานองค์พระมาคุ้มครองผู้สวดมนต์ให้ป้องกันอันตรายทั้งปวง หากพิจารณาแล้วจะพบว่า การกระทำแบบนี้จะเป็นการควบคุมจิตของผู้สวดมนต์ไม่ให้จิตฟุ้งซ่านไปไหน ยิ่งสวดมนต์ไปด้วย จิตนึกถึงพระที่ห้อยไปด้วย จะเป็นการแผ่แสงสว่างของพลังงานบุญแบบสว่างชัดมากและเป็นเกาะป้องกันภัยให้กับผู้สวด ภพภูมิต่างๆ ได้แก่ เทวดา,วิญญาณ เป็นต้น เมื่อเห็นแสงสว่างบุญจากผู้สวดมนต์ เขาจะมาอนุโมทนาบุญกับผู้สวดมนต์ รวมทั้งช่วยเหลือเกื้อกูลผู้สวดมนต์อย่างดีตลอดการเวียนว่ายตายเกิด ส่งผลให้ผู้สวดมนต์โชคดี มีความสุข สำเร็จ สมหวังดังปรารถนา

 

หลักธรรมและคำสอนของพระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)

 

จากการศึกษาจะเห็นได้ว่า แนวคำสอนของหลวงตาม้า วิริยธโร จะเป็นคำสอนแบบกลางๆ ง่ายๆ ทุกท่านสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้สวด เป้าหมายในการปฏิบัติอยู่ที่ผู้สวดมนต์จะปรารถนาว่าต้องการอะไร โดยมีพื้นฐานความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ผู้สวดมนต์จะปรารถนาว่า ชีวิตต่อไป “จะเกิดหรือไม่เกิด” สามรถเลือกได้ว่า ชาติต่อไปจะเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา พรหม หรือเลือกที่จะไม่เกิด ไปนิพพานเลย เมื่อมีการสวดมนต์ไป พิจารณาชีวิตไปแบบสบายๆในขณะที่สวด จิตว่าง โล่ง เบาสบาย ผู้ปฏิบัติก็จะได้คำตอบจากสติปัญญาของตัวเอง นอกจากนั้น การสวดมนต์หรือการปฏิบัติตามแนวทางของหลวงตาม้า หลวงตาท่านแนะนำให้คนที่ปฏิบัตินำหลักธรรม “อิทธิบาท 4” มาใช้ในการสวดมนต์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น

1. ฉันทะ หมายถึง ความพึงพอใจ เวลาสวดมนต์ชอบสวดในอิริยาบถไหนหรือถนัดแบบไหน 

2. วิริยะ หมายถึง ความพากเพียร ความขยันในการสวดมนต์

3. จิตตะ หมายถึง จิตจดจ่อ ความตั้งใจหรือการเอาใจใส่ในบทสวดมนต์

4. วิมังสา หมายถึง การพิจารณาทั้งหมด หรือการพิจารณาว่า การสวดมนต์ปฏิบัติธรรมของตนมีจุดบกพร่องตรงไหน หรือปฏิบัติได้ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด 

ที่สำคัญผู้สวดมนต์ปฏิบัติธรรมจะต้องนำหลักธรรม “พรหมวิหาร 4” มาใช้ควบคู่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น

1. เมตตา หมายถึง ความรัก,ความเมตตา,ความปรารถนาดี

2. กรุณา หมายถึง จิตอยากช่วยให้สำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

3. มุทิตา หมายถึง จิตพลอยยินดีในสิ่งที่เขาสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

4. อุเบกขา หมายถึง วางใจเป็นกลาง เช่น ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร สำเร็จก็ดี ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร เขารักก็ดี เขาไม่รักก็ไม่เป็นไร เพราะการยึดติดจะก่อให้เกิดทุกข์ การวางอุเบกขา จะทำให้ใจสบาย ไม่เครียด ลดการวิตกกังวล

นอกจากนั้น หลวงตาเปิดโรงทานเลี้ยงอาหารผู้ที่ไปสวดมนต์ทุกวัน มีเมนูอาหารหลักคือ จับฉ่าย ไข่พะโล้ ดังนั้น ผู้สวดมนต์ตามแนวทางหลวงตาม้าสามารถสวดมนต์ได้โดยไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะไม่มีอาหารทานหรือไม่มีที่นอน หลวงตาม้าได้ให้ผู้ดูแลเตรียมอาหารและสถานที่ในวัดและสถานปฏิบัติธรรมพุทธพรหมปัญโญทุกสาขา เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้าไปสวดมนต์ฝึกตนเอง พัฒนาตนเองตามแนวทางหลวงตาม้า คือ “กิน,นอน,สวดมนต์” หากผู้สวดมนต์ได้ปฏิบัติภาวนาอย่างเข้าใจและปรับตัวกับข้อวัตรของหลวงตาได้ จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองได้อย่างมาก หากปรับพฤติกรรมต่างๆของตนให้เหมาะสมจะส่งผลให้การสวดมนต์ปฏิบัติธรรมมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น เช่น

- สวดมนต์, แผ่เมตตา, อธิษฐานขอพร ทุกวัน ดังคำกล่าวของหลวงตาว่า “ไม่ดื้อ ไม่ซน สวดมนต์ทุกวัน”

- เน้นให้พูดน้อยๆ สวดมนต์เยอะๆ หมั่นสวดมนต์ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ทุกที่ ทุกเวลา

- ฝึกคุยกับหลวงปู่ดู่ ปรึกษาหลวงปู่ดู่ทุกเรื่อง ทุกเวลาเพื่อให้จิตอยู่กับหลวงปู่ เป็นการฝึกสังฆานุสติ

- ฝึกสละสิ่งของโดยกล่าวว่า อิมังสละ คือ ฝึกไม่ยึดติดวัตถุ คน สิ่งของ ฝึกละให้ได้ ลดละความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้ลดลง

- ใช้หลักอิทธิบาท 4 ควบคู่ในการปฏิบัติธรรม สวดมนต์

- งดเล่นโทรศัพท์ แชท ไลน์ งดดูข่าว ดูละคร หนัง เป็นต้น ห่างจากคลื่นทางโลก เพื่อมุ่งสู่กระแสทางธรรม

จะเห็นได้ว่า อานิสงส์ของการสวดคาถามหาจักรพรรดิ ทำให้ผู้ที่สวดและภาวนาคาถาพระมหาจักรพรรดิเป็นประจำ จะเป็นผู้ที่มีสติปัญญา จิตใจสงบ หน้าตาผ่องใส นอนหลับไม่ฝันร้าย รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ช่วยลดเคราะห์กรรมอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวร ชีวิตสงบสุข ประสบความสำเร็จ สมหวัง ทำสิ่งใดก็ราบรื่น สมปรารถนาอันเป็นผลอานิสงส์จากการแผ่บุญและอุทิศกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้ง 3 ภพภูมิด้วยจิตเมตตา ตามหลักธรรมพรหมวิหาร 4 และอิทธิบาท 4

 

การเสริมสร้างสุขภาพด้วยการสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิ ตามแนวทางของพระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)

หลวงตาม้า กล่าวว่า ประโยชน์หรือผลลัพธ์ของการสวดมนต์เป็นประจำจะส่งผลต่อผู้สวดมนต์ให้มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต [16] ดังนี้ 

1. อายุยืน หมายถึง คลื่นพลังงานของบทสวดจะไปปรับสมดุลธาตุในร่างกาย ช่วยขับล้างพลังงานที่ไม่ดีออกจากร่างกาย ทำให้คลื่นที่ไม่ดีไม่สามารถส่งผลเต็มร้อย ทำให้ผู้สวดมนต์เจ็บป่วยน้อยลง ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีขึ้น นอกจากนั้น มีความเชื่อว่า เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้เพราะผู้สวดมนต์แผ่บุญไปให้ทุกครั้งที่สวดมนต์

2. แก่ช้า หมายถึง คลื่นพลังงานของบทสวดจะไปปรับธาตุ ขับล้างพลังงานที่ไม่ดีออกจากร่างกาย คลื่นที่ไม่ดีไม่สามารถส่งผลเต็มร้อย ทำให้ผู้สวดมนต์เจ็บป่วยน้อยลง ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีขึ้น 

3. โรคน้อย หมายถึง คลื่นพลังงานของบทสวดจะไปปรับธาตุต่างๆในร่างกายให้มีความสมดุล ช่วยขับล้างพลังงานที่ไม่ดีออกจากร่างกาย คลื่นที่ไม่ดีจึงไม่สามารถส่งผลเต็มร้อย ทำให้ผู้สวดมนต์เจ็บป่วยน้อยลง ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีขึ้น 

4. ตายตามอายุขัย หมายถึง คลื่นพลังงานที่ไม่ดีหรือกรรมที่ไม่ดีไม่สามารถมาตัดรอนทำร้ายผู้สวดมนต์ได้ เพราะพุทธมนต์รักษา บุญรักษา ภพภูมิต่างๆรักษาคุ้มครองจนกว่าผู้สวดมนต์จะหมดอายุขัยในภพภูมิมนุษย์

5. รวย หมายถึง คลื่นพลังงานของบทสวดจะไปดึงผลบุญแห่งการที่ผู้สวดมนต์เคยทำบุญ ทำทานมาในอดีตให้เกิดโชคลาภในปัจจุบัน และช่วยไปดึงคนที่เกี่ยวข้องกับผู้สวดมนต์มาซื้อสินค้าและบริการของผู้สวดมนต์ ทำให้ธุรกิจการค้าของผู้สวดมนต์ ขายของดี เห็นผลกำไร ที่สำคัญบทสวดจะทำให้ผู้สวดมนต์คิดออกว่า ทำอย่างไรให้ผู้สวดมนต์มีรายได้มากขึ้นและค้าขายดีขึ้น มีโชคลาภมากขึ้น เป็นต้น

6. ไปเกิดใหม่ตามใจ หมายถึง จิตสุดท้ายของผู้สวดมนต์ก่อนตายอยู่กับคำสวดมนต์ เมื่อตายแล้วจิตก็จะออกจากร่างไปตามคลื่นพุทธมนต์ไปเกิดเป็นมนุษย์ เทวดาหรือพรหมหรือเรียกว่า “เวียนบน” สามารถเลือกเกิดได้หรือเรียกว่า “ไปตามใจ ไม่ได้ไปตามกรรม” ช่วยให้รอดจากการเป็นวิญญาณสัมภเวสี เป็นวิญญาณที่เวียนว่ายทุกข์ทนบนโลกมนุษย์อีกหลายร้อย หลายพันปี

 

บทสรุป

การสวดคาถามหาจักรพรรดิ เปรียบดั่งเป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัวร่วมถึงการอาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ บารมีพระมหาจักรพรรดิทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อัญเชิญบุญบารมีน้อมเข้าตัวผู้สวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้แข็งแรง ช่วยป้องกันภัยอันตรายและสร้างมหาโชคมหาลาภให้กับผู้สวดมนต์ได้ดี จะเห็นได้ว่า การสวดมนต์ช่วยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทางกาย วาจา ใจ เป็นการพัฒนาชีวิตตนเองให้ดีขึ้น โดยพัฒนาจิตวิญญาณแห่งตนก่อเกิดพฤติกรรมใหม่ทางกายวาจาและใจ การสวดมนต์จึงเป็นวิธีการในการภาวนาให้จิตอยู่กับกระแสแห่งกุศล รวบรวมเป็นกำลังแห่งสมาธิและสืบต่อเป็นปัญญา โดยให้สวดบทไหนก็ได้ แต่หลวงตาม้าแนะนำให้เลือกสวดบทมหาจักรพรรดิ เพราะมีความเชื่อว่าเป็นบทที่มีกำลังมากในยุคนี้ทั้งทางโลกและทางธรรม การสวดมนต์ไปเรื่อยๆ สามารถเป็นทั้งสมถะหรือวิปัสสนากรรมฐานก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้สวดมนต์จะพิจารณา 

การสวดมนต์เป็นการทำความดีไปพร้อมกันทั้งทางกาย วาจา ใจ การทำดี พูดดี คิดดี ย่อมเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง การสวดมนต์ทำให้จิตใจของผู้สวดสดชื่นเบิกบาน จิตที่สดชื่นเบิกบานย่อมส่งผลให้ผิวพรรณดี หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรู้สึกเป็นมิตร รักใคร่เอ็นดู ศัตรูกลายเป็นมิตร ผู้เป็นมิตรยิ่งรักใคร่ นอกจากนั้น พุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่า การสวดมนต์ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ทำให้ดวงดี แก้ไขเคราะห์ร้าย ปัดเป่าเสนียดจัญไร การสวดมนต์เป็นการทำดีที่สามารถเปลี่ยนดวงชะตาให้ดีขึ้นได้ ส่งผลให้ครอบครัวและสังคมสงบสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านใด ชุมชนใดที่มีสวดมนต์อยู่เป็นประจำและสอนให้บุตรหลานได้สวดมนต์ ครอบครัวจะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งและไม่ไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น รวมทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้น การสวดมนต์จึงช่วยสร้างเสริมสุขภาพและส่งเสริมสุขภาพที่ดีส่งให้ผู้สวดมนต์มีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้ง การจัดกิจกรรมการสวดมนต์ส่งผลให้ช่วยพัฒนาชุมชนและพัฒนาสังคมให้รู้รักสามัคคี มีความอยู่เย็นเป็นสุข สงบ ร่มเย็นเพิ่มขึ้น 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทความได้ที่นี่

ทำใจให้เบา แล้วเราจะสุข

https://www.gotoknow.org/posts/715070

สวดมนต์จะรวยได้อย่างไร

https://www.gotoknow.org/posts/715069

เมื่อชีวิตฉันออกจากเลข 66

https://www.gotoknow.org/posts/714786

ยานอนหลับชั้นดี หลับง่าย หลับสบาย หลับเร็ว

https://www.gotoknow.org/posts/714373

ชีวิตนี้มีประโยชน์ เพลงเพราะมาก แก้โรคซึมเศร้า

https://www.gotoknow.org/dashboard/posts/714672

การใช้แอปพลิเคชันสำหรับสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ

https://www.gotoknow.org/posts/714353

การสวดมนต์ด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิ

https://www.gotoknow.org/posts/714355

หลักธรรมและคำสอนของหลวงตาม้า

https://www.gotoknow.org/posts/714359

วิธีการสวดมนต์เพื่อสร้างเสริมสุขภาพด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิตามแนวทางพระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)

https://www.gotoknow.org/posts/714356

การเสริมสร้างสุขภาพด้วยการสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิ ตามแนวทางของพระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)

https://www.gotoknow.org/posts/714354

การส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยการสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิ

https://www.gotoknow.org/posts/714350

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยการสวดมนต์

https://www.gotoknow.org/posts/714351

 

 

เอกสารอ้างอิง

 

[1] Phrakrū Sukhetpacharakuṇ Guṇakaro (Mingkuan). (2019). A Study of the Power of Chanting Resulting in the Enhancement of Happiness in Life. Master's Degree Thesis, Buddhist Studies, Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (In Thai)

[2] Wisit Sriphiboon. (2010). Law of Vibration. 5th printing. Bangkok: Banana Sweet Publishing House.

[3] Department of Religious Affairs. (2020). Prayers to prosper the Lord Buddha's prayers across the year for royal merit. 2021. B.E. Bangkok: Agricultural Cooperative Assembly of Thailand Limited Printing House.

[4]Liang Xiang Publishing House. (2008). Praying, chanting, translating. Bangkok: Liang Siang Pian Publishing House for the Buddha.

[5]Pattpong Worapongpichet. (2007). Buddhist therapy. Nonthaburi: Department of Thai Traditional and Alternative Medicine Development Ministry of Public Health.

[6]Daily News newspaper. (2014). Ministry of Public Health promotes Thai prayer therapy as a solution for treating serious illnesses without using drugs. Daily News, issue 22 July 2014, page 25. Retrieved from https://www.hsri.or.th/people/media/care/detail/5592

[7] Maechee Kanokwan Preeprem. (2019). Effect of Buddhist Chanting and Listening to Buddhist Chanting on Test Anxiety of Mathayom Suksa 4 Students with Different Faith in Buddhism. Doctor of Philosophy Thesis, Buddhist Studies, Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (In Thai)

[8]Phra Maha Wutthichai Wachiramedhi (W. Wachiramedhi). (2010). 9 mantras for progress. Bangkok: Wimuttayalai Institute.

[9]Brahma Pandit. (2013). Likittham. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya University Printing House.

[10] Phra Thamkosajarn (Prayoon Dhammacitto). (2006). The power of Phra Parittara. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya University Printing Press.

[11] Kijsarun Chanpo. (2013). Effects of Buddhism pray and Anapanasati meditation on stress in Chulalongkorn University students. Master of Science Thesis, Sports Science, Chulalongkorn University. (In Thai)

[12] Somporn Kantharadusdee Triamchaisri (2016). Let's pray and heal. Prevent aggression. A list of Dr. Rama's encounters. Retrieved from https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/สวดมนต์บำบัด

[13] Mano Mettanantho Laowanich, Patpong Woraphongpichet and Somporn Kantharadusdee Triamchaisri. (2019). Chanting and meditation therapy for the treatment of disease. Nonthaburi: Department of Thai Traditional and Alternative Medicine Development Ministry of Public Health.

[14] A group of disciples of Luang Ta Ma. (2023). Who is bigger than karma? 91st ed. Chiang Mai: Buddha Brahma Panyo Meditation Center, Chiang Dao branch.

[15] Wat Tham Mueang page - Luang Pu Du Luang Ta Ma. (2566). Dharma Sermons and lectures of Luang Ta Ma. Retrieved from https://www.facebook.com/Luangtama.Luangpudu.watthummuangna

[16] Following Wiriyatharo Luang Ta Ma Page. (2566). Dharma Sermons and lectures of Luang Ta Ma. Retrieved from https://www.facebook.com/wiriyataro

 

แพรภัทรา เขียวชะอุ่ม. 2566. การส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุด้วยการสวดมนต์พระคาถามหาจักรพรรดิ .  ในการประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ครั้งที่ 15 วันที่ 13 กรกฎาคม 2566. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

https://rdi.npru.ac.th/conference15/viewabstract.php?id_sub=0312&id_branch=18

 

หมายเลขบันทึก: 714356เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2023 19:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2023 16:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท