ร้อนกาย อย่าร้อนใจ
ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศในแต่ละส่วนของประเทศไทย มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่หาวิธีคลายร้อนให้กับตนเอง เพราะช่วงฤดูร้อนทำให้เรามีอารมณ์หงุดหงิด แล้วก็มีข่าวมากมายที่เกิดจากความร้อน เช่น ข่าวทะเลาวิวาทหรือยิงกันเพราะบันดาลโทสะจากคำพูด หรือข่าวคนขับรถเมล์ในกรุงเทพฯ ลงจากรถเมล์เพราะผู้โดยสารกดกริ่ง 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครลงจากรถ เขาก็เลยถามผู้โดยสารว่า "ถ้าไม่มีใครลง ผมจะลงเอง" แล้วเขาก็ลงจากรถไป ทิ้งให้ผู้โดยสารนั่งอยู่บนรถต่างก็ต่างงงไปตามๆกัน
จากสภาพอากาศที่ร้อนเรามาดูวิธีการคลายร้อนกันดีกว่า
1.เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า ได้รับแอร์โดยไม่ต้องเปิดแอร์ที่บ้านเป็นการประหยัดค่าไฟ 2.ดูหนังสักเรื่องก็เป็นการผ่อนคลายและเย็นสบายอีกด้วย 3.เข้าห้องสมุดนั่งอ่านหนังสือรับแอร์เย็นๆ 4.ไปนั่งเล่นพักผ่อนใต้ต้นไม้ตามสวนสาธารณะ 5.ไปเที่ยวน้ำตกเล่นน้ำให้ชื่นใจ 6.เข้าวัดไปทำบุญเย็นกาย เย็นใจ 7.อาบน้ำบ่อยๆ นอนแช่น้ำคลายร้อนแล้วก็ทาแป้งเย็น 8.ดื่มน้ำหวานๆเย็นๆ 9.ทานไอศกรีมหรือหวานเย็นให้ชุ่มคอ 10.ใช้น้ำฉีดรอบๆบริเวณบ้านเพื่อลดอุณหภูมิ 11.ติดสปริงเกอร์ที่หลังคาบ้าน อุณหภูมิในบ้านจะได้ลดลง 12.ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติ งดผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์ เหล่านี้เป็นวิธีการคลายร้อนที่เราทุกคนสามารถทำได้ หรือใครมีวิธีอื่นก็แนะนำได้นะ เพราะหน้าร้อนนี้ "ร้อนกาย อย่าร้อนใจ"
เซนต์เซย่า การ์ตูนที่โปรด
การ์ตูนเป็นสิ่งที่เด็กๆทุกคนชอบและสนใจเด็กทุกคนจะทำทุกอย่างตามเงื่อนไขของพ่อแม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อที่จะได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดของตนเองแม้กระทั้งผู้เขียนเองก็ตาม เมื่อย้อนไปเมื่อปี พ. ศ. 2528 หรือเมื่อประมาณ 27 ปีที่แล้ว ( ปัจจุบันพ. ศ. 2555 ) มีรายการการ์ตูนช่อง 9 เช้าวันเสาร์ อาทิตย์ ประมาณ 10.00 น มีการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่า เทพบุตรดาวหาง เป็นการ์ตูนที่ข้าพและเพื่อนๆชอบมากที่สุด เพราะตอนเช้าวันจันทร์เพื่อนๆทุกคนจะมาคุยกันเรื่องนี้ว่าถึงตอนไหนแล้วและถ้าเพื่อนคนไหนไม่ได้ดูก็จะไม่มีเรื่องมาเล่ากับเพื่อนๆการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักรบที่มีหน้าที่ไปช่วยเหลือเทพีอาธีน่า การ์ตูนเรื่องนี้ยาวมากมีทั้งหมด 7 ภาคแต่ละภาคมีหลายตอนรวมแล้วมีทั้งหมด 138 ตอน เช่น ภาคที่ 1 มี 22 ตอน ชื่อเซนต์แห่งอาธีน่า ภาคที่ 2 มี 17 ตอนชื่อนักรบเกราะเงิน เป็นต้น ชื่อในตัวละคร เช่น เพกาซัส เซย่า ดาร์กอน ชิริว ซิกนัส เฮียวกะ อันโดรเมด้า ซุน ฟินิกซ์ อิคคิ ยูนิคอร์น จาบุ ไฮดรา อิจิ เป็นต้น การแต่งกายของตัวการ์ตูนสวยงามและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆตามพลังที่มากขึ้น การดำเนินเรื่องมุ่งเน้นเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือกันระหว่างเพื่อน ความพยายามที่จะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายและความสำเร็จ การ์ตูนเรื่องนี้แต่งขึ้นโดยชาวญี่ปุ่นซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าชาวญี่ปุ่นมีลักษณะนิสัยอย่างไร
ถ้าถามว่าการ์ตูนมีประโยชน์อย่างไรสำหรับตัวข้าพเจ้าเองใช้การเล่าการ์ตูนให้นักเรียนฟังและวางเงื่อนไขกับนักเรียนว่าจะต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก่อนซึ่งวิธีนี้ก็ประสบความสำเร็จค่อนข้างดี
เตรียมพร้อมสู่ความเป็นแม่กับลูกคนที่สอง
หญิงท้องกับการตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หญิงตั้งครรภ์กับการเปลี่ยนแปลงย่อมแปลกกว่า การตั้งครรภ์เป็นการเต็มเติมความสมบูรณ์ให้กับครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก การตั้งครรภ์หรือการอุ้มท้อง 36-40 สัปดาห์ การมีลูกคนแรกยังไม่ใช่ปัญหา แต่การมีลูกคนที่สองที่ห่างกันถึง 11 ปีกว่า ย่อมมีแน่ ด้วยอายุเรา อายุของลูกคนโต แต่ด้วยสภาพที่แตกต่างกับตอนวัยรุ่น จึงต้องมีการเตรียมพร้อม......เตรียมอะไรบ้างเล่า.....เริ่มจาก
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย : ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมขยายใหญ่ ไม่น่าดู ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา อก ทุกสัดส่วนก็ว่าได้ (แล้วจะลดไหมหนอ)
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ : หลายคนพูดว่า คนยท้องอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย แต่กับข้าพเจ้าไม่ใช่ ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นอารมณ์ที่อยากให้สามีสนใจเวลาท้องมากกว่า
อาหารกับการทาน : แต่ก่อนทานอาหารคำนึงแต่ความอยากหรือเรียกว่าตามใจปาก แต่เดี๋ยวนี้ต้องเลือกทานเพื่อบำรุงครรภ์ แต่ที่นิยมทานสำหรับข้าพเจ้าและทานเป็นประจำ อันได้แก่ นมจืด น้ำผลไม้คั้นแบบสด ๆ ผลไม้สด ใครว่าอะไรดีก็ลองทาน ไข่ยอดบายศรี : ทานแล้วคลอดง่าย น้ำมะพร้าว : เวลาเด็กคลอดออกมาจะไม่มีไขเนื้อตัวสะอาดสะอ้านน่าสัมผัส น้ำจับเลี้ยง : ทานแล้วเด็กจะขาวใช่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้แต่มีบอกมา แต่ที่คลอดมาก็เห็นว่าข่าวทั้งที่พ่อแม่ก็ดำน่ะ บางคนบอกว่าทานทุเรียนที่มีธาตุแมกนีเซียม : ลูกจะแข็งแรงที่ชอบก็คือผิวจะขาวด้วย (น่าลองดู)
ข้าวของเครื่องใช้ : เพลินมากกับการเลือกซื้อของใช้เด็กอ่อน เชื่อเลยว่าวิญญาณแห่งความเป็นแม่ย่อมเกิด เวลาเดินไปห้าง สิ่งที่นี้ก็สวย สิ่งนี้ก็น่าสนใจ เราจะกลายเป็นนักสะสมของใช้เด็กอ่อนไปเรื่อยเลยก็ว่าได้ แต่เชื่อไหม...คุณแม่ทุกคนจะซื้อของใช้มาเก็บไว้ก่อนคลอด ราคาแต่ละชิ้นอาจแตกต่างแล้วแต่ความชอบ คาดว่าก่อนคลอดคุณแม่ทุกท่านน่าจะซื้อเพิ่มมาอีก จนลูกอาจใช้ไม่หมดเพราะโตก่อนก็เป็นได้
วันคลอด : หลังคลอด - กับการกระวนกระวาย : ทั้ง ๆ ที่ยังมาไม่ถึงเป็นวันที่นับถอยหลังเข้ามาทุกที อยากรู้สถานการณ์ว่าเหมือนกับการคลอดลูกคนแรกหรือเปล่า นอกโรงพยาบาลกี่วันกี่คืน ลูกจะเปลี่ยนเพศหรือเหมือนดังที่ได้อัลตราซาวด์หรือไม่ ผิวจะขาวหรือดำ หน้าตาเหมือนใคร หนักเท่าไร วันที่ปวดท้องจะรู้สึกอย่างไร ใครจะอยู่กับเรา ใครจะพาไปโรงพยาบาล ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ฯลฯ หลังคลอดต้องเลี้ยงเองอีก 3 เดือน คงหัวฟู ขอบตาดำ ใครจะช่วยเลี้ยง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแน่นอน นี่ยังน้อยนิดกับสิ่งที่จะเกิดในภายภาคหน้า แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมานานแล้ว ข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะทำได้ และทำได้ดีด้วย
ใครที่กำลังจะเป็นแม่ของลูกคนที่หนึ่ง หรือพร้อมที่จะตั้งครรภ์ : อาจมีสิ่งที่ต้องเตรียมรับมากกว่าข้างต้น
ทุเรียนของใคร?????บางคน
เมื่อเอ่ยถึงทุเรียน มีคนหลายคนไม่ค่อยจะชื่นชอบกับมันซักเท่าไร ด้วยเหตุผลที่ว่า กลิ่นเหม็นบ้าง แพ้มันบ้าง ทานแล้วอ้วน เดี๋ยวเกิดโรคนั้นโรคนี้ ........ นั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุและผลของแต่ละคน
.....แต่สำหรับคนอีกจำพวกหนึ่งชื่นชอบมันเป็นพิเศษ คิดดูเล่า จะเล่าให้ฟัง ขนาดมันมีหนาม ต้นอยู่ป่า ยอดอยู่สูง ราคาก็แพง แกะก็ยาก คนเรายังสรรหามาทานกันได้ ทุเรียนชอบออกหน้าร้อนบางคนทานแล้วจุกเสียดแน่น ตายบ้างก็มี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะคนทานจะต้องระมัดระวัง.......ไม่ใช่สักแต่ทานจึงลืมว่าควรปฏิบัติอย่างไร......
ประโยชน์ของทุเรียนมีดังต่อไปนี้
เนื้อทุเรียน - รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ
เปลือกหนามทุเรียน - รสเฝื่อน นำมาสับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง
ใบทุเรียน - รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ
รากจากต้นทุเรียน – ตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง
แต่สำหรับผู้เขียน ชอบทานแบบห่ามๆๆๆๆๆๆ กลิ่นไม่ฉุนนัก จะเลือกทานเฉพาะหมอนทองเท่านั้น (แปรรูปก็ไม่ชอบทานน่ะ) ถึงจะมีราคาแพงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะนานๆทีจะได้ซื้อทานไม่ใช่มีทุกหน้าตอนก็ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท (80 บาท ก็ซื้อทานมาแล้ว)
LD มาจากคำว่า Disability Learning หมายความว่า"บกพร่องทางการเรียนรุ" ดังนั้นเด็ก LD จึงหมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ และเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ต้องได้รับการจัดการศึกษาให้พัฒนาได้อย่างเต็มตามศักยภาพตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542(แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545)
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ จะจัดแบบเดียวกับเด็กปกติไม่ได้ ครูผู้สอนต้องมีวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเด็กปกติ ซึ่งในปัจจุบันจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเรียนร่วมกับเด็กปกติ
แต่ครูผู้สอนต้องบอกกับเด็กปกติที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นให้เข้าใจเพราะในบางกิจกรรมอาจใช้วิธีการแบบเพื่อนช่วยเพื่อน เรียนปนเล่น เพราะเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้จะเรียนร่วมกับเพื่อนได้ดีเว้นแต่วิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ ที่ครูผู้สอนต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ แต่เด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ก็สามารถพัฒนาได้ถึงแม้ว่าจะช้ากว่าเด็กปกติ
ข้าพเจ้ามีความสุขทุกครั้งที่เห็นเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ ที่ข้าพเจ้ารับผิดชอบมีพัฒนาการในการเรียนรู้ก้าวหน้าขึ้นเต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล และถ้าคุณครูท่านใดที่มีความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ก็แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะคะ
"แรงบันดาลใจจากภูกระดึง"
ในชีวิตที่ผ่านมาได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด มีสถานที่ให้ได้ท่องเที่ยวมากมายที่มีความสวยงามของธรรมชาติ ระยะทาง ลักษณะภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็มีความประทับใจในความทรงจำที่ต่างกัน
สถานที่แห่งหนึ่งที่ยังคงประทับใจอยู่ในความทรงจำของการท่องเที่ยว ก็คือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่จังหวัดเลย สถานที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมากมายในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ความประทับใจเริ่มต้นตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงบริเวณจุดลงทะเบียนนักท่องเที่ยว และก้าวแรกที่มองเห็นด้านหน้า คือ ความสูงชันของภูเขา เพียงแค่นี้ก็ทำให้เพื่อนหลายคนเริ่มคิดว่า "เราจะกลับหรือเราจะสู้" แต่เพื่อนบางคนก็พูดว่า เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องสู้ เพื่อไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุดเหมือนกับคนอื่นที่กำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา ระหว่างทางก็มองดูธรรมชาติที่สวยงาม ที่ต้องบอกว่ายิ่งสูงก็ยิ่งสวย ที่สำคัญพวกเราได้มองเห็นชาวบ้านที่รับจ้างหาบสิ่งของต่างๆทั้งของนักท่องเที่ยวและแม่ค้าที่ต้องการจะขึ้นไปบนจุดที่สูงที่สุดของภูกระดึง ที่เขาเรียกกันว่า ลูกหาบ พวกเขาทำงานด้วยความยากลำบากด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ทำให้พวกเรามีกำลังใจเดินทางจนถึงที่หมายด้วยความสำเร็จ อดทน เช่นเดียวกันกับ ลูกหาบ
ซึ่งการทำงานที่สำเร็จของลูกหาบก็คือ ขนหาบสิ่งของสัมภาระนานาชนิดไปส่งนักท่องเที่ยวและแม่ค้าได้สำเร็จ เหตุการณ์เรื่องราวความประทับใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้มองกับมาที่ตัวเองว่า "แม้เราจะทำงานยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน จะสำเร็จได้หากมีความอดทนต่ออุปสรรค เช่นเดียวกับลูกหาบ"