การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21
ในศตวรรษที่ 21 การให้การศึกษาสำหรับศตวรรษนี้จะมีความยืดหยุ่นสร้างสรรค์ท้าทายและซับซ้อนเป็นการศึกษาที่จะทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเต็มไปด้วยสิ่งท้าทายรวมทั้งโอกาสและสิ่งที่เป็นไปได้ใหม่ใหม่เดิน จะมีการเรียนรู้ขั้นที่สูงขึ้น ซึ่งการเรียนนั้นจะมีการนำทักษะความรู้ใหม่ไปใช้อย่างสร้างสรรค์เป็นหลักสูตรที่ให้นักเรียนเกี่ยวข้องกับปัญหาในโลกความเป็นจริงเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์และสภาพสากลจะเปลี่ยนจากการเป็นสิ่งก่อสร้างเป็นนกภาพของการเป็นศูนย์เน้นการศึกษาตลอดชีวิตโดยวิธีการสอนที่มีความยืดหยุ่นมีการกระตุ้นแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีความเป็นเจ้าความคิดเจ้าปัญญาที่ยังคงแสวงหาความรู้แม้จะจบการศึกษาออกไป
ที่มา : http://www.ptu.ac.th/quality/data/levyp1.pdf
การประเมินในศตวรรษที่ 21
การอภิปรายปากเปล่า ครู "เสนอหัวข้อที่น่าสนใจ หรือ อาจร่วมมือกันกับนักเรียนหยิบยกเอาสิ่งที่นักเรียนสนใจมาตั้งเป็นหัวข้ออภิปราย
แผนภูมิ KWL (H).. (What we know,สิ่งที่เรารู้ What we want to know, สิ่งที่เราต้องการจะรู้ What we have learned สิ่งที่เราได้เรียนรู้แล้ว, How we know it วิธีการที่เราหาความรู้).เทคนิคนี้สามารถนำมาใช้ตลอดระยะเวลาของการศึกษา เพื่อประเมินหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง
แผนที่ความคิด Mind Mapping แผนที่ความคิดคือแผนการในการปฏิบัติการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ว่า จะทำอะไร จะทำอย่างไร จะทำเมื่อไร เพื่อให้เกิดผลอย่างไร
ลงมือทำจริงๆ Hands-on activities. สิ่งเหล่านี้ส่งเสริมให้นักเรียนในการจัดการสภาพแวดล้อมของพวกเขา หรือโดยการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติ
ทดสอบล่วงหน้า Pre-testing..การทดสอบล่วงหน้า "หรือการตรวจสอบสภาพก่อนการเรียนรู้ "Inspection prior learning".นี้จะช่วยให้ครูตรวจสอบความรู้เก่า
การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21
ในศตวรรษที่ 21 เป็นการเรียนรู้ที่กำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดยร่วมกันสร้างรูปแบบและแนวปฏิบัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมแห่งความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน คือ ครูต้องไม่สอนแต่ต้องออกแบบการเรียนรู้และอำนายความสะดวก ให้นักเรียนเรียนรู้จากการเรียนแบบลงมือปฏิบัติหรือลงมือกระทำด้วยตนเองแล้วการเรียนก็จะเกิดขึ้นจากภายในใจและสมองซึ่งจะทำให้เด็กจำได้ดีกว่าการนั่งท่องจำเพราะเด็กได้คิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งในอดีตนักเรียนไปโรงเรียนเพื่อใช้เวลาในการเรียนวิชาต่างๆเพื่อต้องการเกรดและเพื่อให้ได้จบการศึกษาแต่ในปัจจุบันจะแตกต่างกันมาก เพราะการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 เป็นการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เตรียมตัวเพื่อใช้ชีวิตในโลกที่เป็นจริง เน้นการศึกษาตลอดชีวิตด้วยวิธีการสอนที่มีความยืดหยุ่น มีการกระตุ้นและจูงใจให้ผู้เรียนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าปัญญาที่ยังแสวงหาการเรียนรู้แม้จะจบการศึกษาแล้วก็ตาม และภาพของห้องเรียนจะขยายกลายเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้นมีสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศในห้องเรียนที่ดีและน่าอยู่ นักเรียนจะเป็นผู้ชี้นำตนเองได้มีการทำงานที่เป็นกลุ่มและอิสระได้ โดยหลักสูตรและการสอนจะมีลักษณะท้าทายสำหรับผู้เรียนทุกคนและจะคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ซึ่งหลักสูตรที่ใช้จะเป็นหลักสูตรแบบยึดโครงงานและการบูรณาการ การสอนทักษะและเนื้อหาจะไม่เป็นจุดหมายปลายทางแต่นักเรียนจะต้องมีการเรียนรู้ผ่านการวิจัยและปฏิบัติในโครงงาน ซึ่งการประเมินจะเป็นการประเมินที่ผู้ถกประเมินมีส่วนร่วมในการประเมินตนเองด้วย
ดังนั้น การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 จะต้องเปลี่ยนแปลงทัศนะจากกระบวนทัศนะแบบดั้งเดิมไปสู่กระบวนการใหม่ที่ให้โลกของนักเรียนและโลกความเป็นจริงเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเรียนรู้
อ้างอิง: http://lripsm.wixsite.com/21st/about_us.
ครูในศตวรรษที่ 21
นายเจตสุดา กับสันเทียะ 5780107138 วิชา การออกแบบ และการจัดการเรียนรู้.pdf
หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21
หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21 จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดทั้งความรู้และทักษะในการปฏิบัติ สอนให้ผู้เรียนเรียนรู้นวัตกรรมที่มีการบูรณาการด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ โดยเฉพาะด้านการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานและฝึกทักษะการคิดขั้นสูง อีกทั้งยังสนับสนุนให้ชุมชนและท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นภูมปัญญาชาวบ้านด้านต่างๆ และการให้ชุมชนเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน
พบว่าหลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21 นี้มีข้อแตกต่างจากหลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 19 และ 20 คือ หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 19 และ 20 จะเน้นสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เพื่อทำงานในองค์กรต่างๆ แต่หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21 นี้จะเน้นสอนให้ผู้เรียนทุกคนทำงานเป็นและเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริงไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ตาม
อ้างอิง : http://lripsm.wixsite.com/21st/about_us
https://prezi.com/hnfpul3qeb5e/21/
การวัดผลและการประเมินผลในศตวรรษที่ 21
การวัดผลและการประเมินผลในศตวรรษที่ 21 มักถูกเรียกว่า “การวัดผลเชิงประจักษ์” เนื่องจากกระบวนการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดทั้งความรู้และทักษะ การวัดผลและประเมินผลจึงต้องดูที่ทักษะที่ผู้เรียนปฏิบัติได้จริง และยังเป็นระบบที่การเรียนการสอนและการวัดผลประเมินผลเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการวัดผลและการประเมินผลในศตวรรษที่ 21 จึงไม่ใช่เพียงการทดสอบเท่านั้น แต่ยังมีทั้งการสังเกตผู้เรียน ดูการทำงานและประเมินถึงเรื่องอารมณ์และทัศนคติของผู้เรียนอีกด้วย
อ้างอิง : https://www.gotoknow.org/posts/589130
การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21
การศึกษาต้องเปลี่ยนจากเน้นการสอน(ของครู) มาเป็นเน้นการเรียน(ของนักเรียน) ครูเปลี่ยนจากการบอกเนื้อหาสาระ มาเป็นทำหน้าที่สร้างแรง บันดาลใจ สร้างความท้าทาย ความสนุกในการเรียนให้แก่ศิษย์ เพื่อให้ได้เรียนรู้ฝึกฝนทักษะเพื่อการดำรงชีพในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) แล้วครูชวนศิษย์ร่วมกันทบทวน ไตร่ตรอง (reflection หรือ AAR) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้หรือทักษะที่ลึกและเชื่อมโยงรวมทั้งโยงประสบการณ์ตรงเข้ากับทฤษฎีที่มีคนเผยแพร่ไว้แล้วในการใช้เทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการเรียนรู้เชิงทฤษฎีจากการปฏิบัติ ไม่ใช่จากการฟังและท่องบ่น หัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือ เปลี่ยนจากเรียนรู้จากฟังครูสอน (Learning by Attending Lecture/Teaching) มาเป็นการเรียนรู้จากการลงมือทำ(Learning by Doing) มองจากมุมหนึ่ง
การวัดผลและการประเมินผล ต้องมีความสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จะต้องประเมินตามสภาพจริง โดยใช้การประเมินหลายวิธี ได้แก่ การสังเกตพฤติกรรม การเรียนและการร่วมกิจกรรม การใช้แฟ้มสะสมผลงาน การทดสอบ การสัมภาษณ์ ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน
อ้างอิง วิจารณ์ พานิช. (2555). ครูในศตวรรษที่ 21. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2559.
สืบค้นจาก เว็บไซต์ : www.sk1edu.go.th/dta/8939การศึกษาในทศวรรษที่%2021....
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/618562
การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21
การให้การศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 จะมีความยืดหยุ่น สร้างสรรค์ ท้าทาย และซับซ้อน เป็นการศึกษาที่จะทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างเต็มไปด้วยสิ่งท้าทาย และปัญหา รวมทั้งโอกาสและสิ่งที่เป็นไปได้ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น โรงเรียนในศตวรรษที่ 21 จะเป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรแบบยึดโครงงานเป็นฐาน (project -based curriculum) เป็นหลักสูตรที่ให้นักเรียนเกี่ยวข้องกับปัญหาในโลกที่เป็นจริง เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์ และคำถามเกี่ยวกับอนาคตเชิงวัฒนธรรม สังคม และสากล
ดังนั้น การให้การศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 ต้องเปลี่ยนแปลงทัศนะ (perspectives) จากกระบวนทัศน์แบบดั้งเดิม (tradition paradigm) ไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ (new paradigm) ที่ให้โลกของนักเรียนและโลกความเป็นจริงเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้ที่ไปไกลกว่าการได้รับความรู้แบบง่ายๆ ไปสู่การเน้นพัฒนาทักษะและทัศนคติ — ทักษะการคิด ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะองค์การ ทัศนคติเชิงบวก ความเคารพตนเอง นวัตกรรม ความสร้างสรรค์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะและค่านิยมทางเทคโนโลยี ความเชื่อมั่นตนเอง ความยืดหยุ่น การจูงใจตนเอง และความตระหนักในสภาพแวดล้อม และเหนืออื่นใด คือ ความสามารถใช้ความรู้อย่างสร้างสรรค์ (the ability to handle knowledge effectively in order to use it creatively) ถือเป็นทักษะที่สำคัญจำเป็นสำหรับการเป็นนักเรียนในศตวรรษที่ 21
แหล่งที่มา : www.sk1edu.go.th/dta/8939การศึกษาในทศวรรษที่%2021.docx
การเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 จะมีความยืดหยุ่น สร้างสรรค์ และท้าทาย โดยความรู้จะไม่จำกัดอยู่แต่ภายในห้องเรียน ในอดีตนักเรียนใช้เวลาในการเรียนรายวิชาต่างๆเพื่อรับเกรดและเพื่อให้จบการศึกษา แต่ในปัจจุบันนั้นแตกต่างกันออกไปเพราะในปัจจุบันการเรียนการสอนจะช่วยให้นักเรียนได้เตรียมตัวเพื่อใช้ชีวิตในโลกที่เป็นจริง เน้นการศึกษาตลอดชีวิตด้วยวิธีการสอนที่ยืดหยุ่นมีการกระตุ้นและจูงใจผู้เรียน
ครูในศตวรรษที่ 21 คือ ครูที่สามารถจัดการเรียนรู้ด้วยระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับแหล่งการเรียนรู้ได้ทั่วโลกผ่านทางอินเทอร์เนต สามารถผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีการสื่อสารและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำให้การสอนมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อการสอนได้หลากหลาย ดังนั้นการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 ครูมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะฝึกให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีในการสืบค้าข้อมูลในการเรียนรู้ เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติได้จริงเพราะการที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเองจะทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
นักเรียนในศตวรรษที่ 21 ควรเป็นผู้ที่มีนิสัยใฝ่เรียนใฝ่รู้ พยายามแสวงหาความรู้ ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศได้ มีทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศ สามารถเล่นกีฬาและดนตรีได้อย่างน้อย 1 ชนิด พร้อมเผชิญปัญหาและสามารถเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
การวัดผลประเมินผลในศตวรรษที่ 21 เป็นการวัดผลแบบ Constructivist assessment ซึ่งมักเรียกว่า การวัดผลเชิงประจักษ์ ที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ โดยการเรียนการสอนและการวัดผลจะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน การประเมนผลจะไม่เป็นเพียงแต่การทดสอบเท่านั้นแต่ยังมีการสังเกตนักเรียน ดูการทำงานของนักเรียนและมุมมองของนักเรียนด้วย ตัวอย่างการประเมิน เช่น การอภิปรายปากเปล่า แผนภูมิความคิด การลงมือทำ
การประเมินผลในศตวรรษที่ 21
1. สร้างความสมดุลในการประเมินผล
2. การนำผลการประเมินมาพัฒนา
3. การใช้เทคโนโลยีในการวัดผล
4. การประเมินตามสภาพจริง