เรื่องเล่าจากดงหลวง 107 การเดินทางไกลเริ่มขึ้นแล้ว


ถึงเวลาที่ท่านเริ่มเดินทางไกลไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้นแล้ว ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ สุขคติ สงบเย็น และมีความสุขกับการเดินทาง...

คุณแม่มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน รักษากันมาตลอด กว่า 20 ปี คุณแม่ชอบคุณหมอผู้รักษาประจำท่านนั้น คุณหมอย้ายโรงพยาบาลเราก็ย้ายตามไป เพราะคุณหมอมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนไข้และเหมือนกับคุณหมอถูกอาการไข้กับคุณแม่ เมื่อเข้าห้อง ICU หลายครั้ง คุณหมอท่านนี้ทำให้ฟื้นกลับบ้านโดยเร็ว เมื่อคุณแม่อาการผิดปกติอย่างใด ก็จะนัดคุณหมอ  

ช่วงปี 2548 คุณแม่เริ่มมีอาการเป็นแผลที่เท้าจึงทำการรักษากับคุณหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องแผลและในที่สุดก็ต้องตัดนิ้วเท้าบางส่วนออกไป และพยายามรักษาแผลให้ดีที่สุด  เราก็รักษาตามอาการโดยนัดคุณหมอดูแผลเป็นระยะตามนัด 

มาครั้งหลังสุดเมื่อต้นปี 50 นี้คุณแม่ไม่ทานอาหาร คุณหมอตัดสินใจแนะนำให้อาหารทางสายยาง ด้วยอาหารพิเศษที่มีขายสำหรับผู้สูงอายุทั่วไป และอาหารจากการปรุงพิเศษของลูกๆและน้องผู้ดูแลคุณแม่ซึ่งถูกฝึกอบรมวิธีให้อาหารทางสายยางจนชำนาญ ทุกอย่างก็ราบรื่น เมื่อเดือน เมษายนเป็นต้นมาคุณแม่เริ่มนอนมากขึ้น พูดจาไม่ค่อยโต้ตอบและแผลที่เท้าและที่แผ่นหลังอันเกิดจากอาการกดทับก็เริ่มขยายตัวมากขึ้น ถึงกระนั้นคุณหมอดูแล้วก็ออกปากชมสองพี่น้องคนว่าดูแลคุณแม่ดีมาก แต่แผลก็เป็นไปตามสภาพความไม่สมบูรณ์ของร่างกายที่ลดน้อยลงมากตามอายุขัย คุณหมอแนะนำให้ใช้แผ่นปิดแผลชนิดพิเศษที่ผลิตออกมาใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรคเข้าและรักษาแผลด้วย แต่ราคาสูงสักหน่อย ที่สำคัญไม่มีวางขายต้องวางเงินสั่งร้านขายยาก่อนจึงจะสั่งมาจากกรุงเทพฯ  

วันเสาร์ที่ 26 เรามีกำหนดนัดคุณหมอดูแผลและนัดพบคุณหมอโรคชราด้วย ซึ่งอาการโดยทั่วไปนั้นคุณแม่ไม่โต้ตอบมากนัก นอกจากส่ายหัวบ้างและ ส่งเสียงอือ อา ไม่เป็นคำพูดอะไรที่ชัดเจน  คุณหมอที่รักษาแผลคุณแม่ขอนัดเร็วขึ้นเป็นเวลา 4 โมงเย็นเพราะคุณหมอมีงานผ่าตัด เมื่อถึงโรงพยาบาล คุณพยาบาลหลายต่อหลายคนรุมล้อมทำการเช็คสภาพคนไข้ตามมาตรฐานทั่วไปแล้วบันทึกลงแบบฟอร์มเพื่อรายงานให้คุณหมอต่อไป หัวหน้าพยาบาลมาบอกว่า คุณแม่มีความดันต่ำมากควรจะเอาเข้าห้อง ICU แต่เราบอกว่าขอปรึกษากับญาติพี่น้องก่อน เสียงโทรศัพท์การติดต่อกับพี่ๆดังตลอดเวลา ขณะที่คุณหมอรักษาแผลมาดูแผลที่เท้าแล้วก็ส่ายหัว เพราะอาการเนื้อตายและเน่าขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งแผลที่แผ่นหลัง คุณหมอตัดสินใจบอกกับพวกเราว่าหมอขอให้ตัดขาแค่ข้อเท้าเพราะมิเช่นนั้นแผลจะกำเริบมากขึ้นจะเกิดอาการติดเชื้อเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ พวกเราตัดสินใจว่าไม่ให้ตัดเพราะคุณหมอเองก็กล่าวว่าจะต้องดมยาและคุณแม่ยุกไม่สามารถดมยาได้แล้ว คุณหมอจึงทำการตัดเนื้อเยื่อเน่าทิ้งจำนวนมากที่หลังฝ่าเท้าขวามือ และแนะนำให้ทำการล้างแผลวันละ 4 ครั้ง 

เสร็จจากคุณหมอรักษาแผลคุณหมอผู้ดูแลอาการทั่วไปก็มาดู ขณะนั้นคุณแม่อาการไม่ตอบสนองแล้ว หายใจติดขัดลึกๆ  คุณหมอตรวจสอบข้อมูลต่างๆที่พยาบาลเตรียมไว้เบื้องต้นแล้ว คุณหมอสั่งตรวจสอบอีกครั้ง ในที่สุดคุณหมอกล่าวตรงไปตรงมากับพวกเราที่อยู่ที่นั่นว่า คุณแม่คงไม่ดีขึ้นแล้วปล่อยให้ท่านไปอย่างสงบเถอะ  และคาดว่าน่าจะเดินทางไกล ภายในคืนนี้ ?? 

ไม่มีคำอธิบายใดๆอีก เพราะเรารู้ว่าสักวันหนึ่งจะได้ยินคำเหล่านี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกที่ใครๆก็ต้องรู้สึก เสียงสะอึกสะอื้นลึกๆเล็ดรอดออกมา.. 

เวลามันนานมากจริงๆคืนนั้น แล้วพวกเราก็เอ่ยคำออกมาว่า เอาแม่กลับบ้านเราเถอะ  แม่บอกกับเราหลายครั้งว่าอยากอยู่บ้านไม่อยากอยู่โรงพยาบาล  

เราเอาคุณแม่กลับมาประมาณ 2 ทุ่มเศษ เข้าบ้านเรียบร้อย พวกเราส่งข่าวต่อๆกับไปถึงสถานการณ์ล่าสุดของคุณแม่ พี่ๆหลายคนเตรียมตัวขึ้นขอนแก่นทันที ตามสภาพที่ไม่ได้คิดว่าจะเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้ ต่างก็มีภารกิจรัดตัวกันทั้งนั้น ดึกคืนนั้นพี่ๆบางคนสามารถเดินทางมาถึงและเข้าเยี่ยมดูแลแม่ที่กำลังจะ  เดินทางไกลในชีวิตของท่าน  อาการโดยทั่วไปหายใจไม่สะดวก ส่งเสียงหายใจเป็นระยะ หลับตาและไม่โต้ตอบสิ่งใดๆ 

คืนวันเสาร์ที่ 26 หรือเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 27 นั้น ปรากฏว่าคุณแม่ยังอยู่กับเรา เพื่อนบ้านบางคนที่เป็นพยาบาลยังกล่าวว่าท่านน่าที่จะอยู่กับเราอีกหลายวัน เมื่อพิจารณาอาการของท่านผู้จะเดินทางไกลแล้วลูกๆบางคนที่มาคอยดูแลคุณแม่ยามจะต้องเดินทางไกลที่มีภารกิจสำคัญจำเป็นต้องสะสางให้เสร็จ  ต่างกลับกรุงเทพฯเพื่อรีบเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วเพื่อกลับมาร่วมส่งการเดินทางไกลกันใหม่ 

เช้ามืดของวันที่ 28 อันเป็นวันจันทร์ เด็กๆที่เฝ้าแม่ก็มาเคาะประตูเสียงดังปังๆ แล้วบอกว่า เร็วๆเข้าคุณยายกำลังจะไปแล้ว  ผู้บันทึกหยิบเวลามาดูก็ตีห้า รีบลงไปดูคุณแม่ในห้องที่เด็กนอกเฝ้าตลอดนั้น พบว่าท่านออกเดินทางไกลไปแล้วจริงๆ  

ท่านเหนื่อยมา 97 ปีแล้ว ท่านอยู่ในสภาพที่นอนบนเตียงมาตลอดเวลานานร่วมๆ 8 ปีโดยประมาณ เข้าออกโรงพยาบาลมานับไม่ถ้วน เข้าไปนอนห้อง ICU ก็หลายครั้ง แฟ้มประวัติคนไข้ของท่านน่าจะเป็นแฟ้มที่ใหญ่ที่สุดแฟ้มหนึ่งในโรงพยาบาลแห่งนี้ พยาบาลทุกคนในห้องฉุกเฉิน คนขับรถฉุกเฉินและบุรุษพยาบาลทุกคน พนักงานรับโทรศัพท์ทางโรงพยาบาลคุ้นเคยกับท่านดี  

ถึงเวลาที่ท่านเริ่มเดินทางไกลไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้นแล้ว ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ สุขคติ สงบเย็น และมีความสุขกับการเดินทาง...

คำสำคัญ (Tags): #การเดินทางไกล
หมายเลขบันทึก: 99925เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2007 08:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
P
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งค่ะ
ดิฉันอ่านอย่างตั้งใจทุกตัวอักษร ลูกๆทุกคน ทำหน้าที่ของลูกอย่างดีที่สุด ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดีค่ะ

สวัสดีครับคุณบางทราย

ขอร่วมอวยพรให้คุณแม่เดินทางโดยสวัสดิภาพ สุขคติ สงบเย็น และมีความสุขกับการเดินทาง...

ขอแสดงความเสียใจค่ะ

และขอให้คุณยายเดินทางไกลโดยสวัสดิภาพ และสงบสุข ร่มเย็นค่ะ

ขอน้อมใจอันเป็นกุศลร่วมส่งคุณยายในการเดินทางไกลไปสู่ภพใหม่ ด้วยความสงบเย็น

ขอร่วมอนุโมทนาบุญที่ลูกๆได้ปรนนิบัติดูแลคุณยาย แสดงความกตัญญุกตเวที เป็นลูกที่ประเสริฐ เป็นตัวอย่างอันดีงามให้แก่ครอบครัวอื่นๆด้วยค่ะ

  • เราหัวอกเดียวกัน ท่านบางทราบ
  • เตี่ยผม อายุ 96 ปี เง๊กเซียนฮ่องเต้มารับไปเมื่อวันวิสาขบูชา ด้วยโรคชรา ธรรมดาๆ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ร่อเร่ประมาณ3เดือน ญาติตกลงจะประชุมเพลิงวันที่6นี้
  • เรามาร่วมกันส่งท่านเดินทางเที่ยวสุดท้ายร่วมกันเถิดนะครับ จงไปสู่สุขติเถิด ท่านอาวุโส..ทั้งสอง
  • ขอแสดงความเสียใจด้วยครับพี่ชาย
  • อยู่ที่ไหนแล้วครับตอนนี้

สวัสดีครับทุกท่านครับ

P
P
P
P
P
P
P
ขอขอบพระคุณทุกท่านครับ
พรุ่งนี้จะพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษที่วัดอารามหลวงของขอนแก่น
ทำบุญเย็นที่บ้าน  รุ่งเช้ามะรืนถวายอาหารเพล เก็บอัฐิแล้วนำสู่จังหวัดตรังบ้านเกิด แล้วลอยอังคารครับ
หลังจากนั้นผมก็กลับไปลุยดงหลวงต่อตามบทบาทหน้าที่ โครงการยังไม่ถูกยุบเหมือนพรรคการเมือง เอ้าไปโน่น...
งานศพนี่มีเรื่องเขียนเยอะเลย...ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ

กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

ท่านครูบาครับ

 
P
ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
เมื่อ ศ. 01 มิ.ย. 2550 @ 15:12 จาก 61.19.65.206 ลบ [279376]


  • เราหัวอกเดียวกัน ท่านบางทราบ
  • เตี่ยผม อายุ 96 ปี เง๊กเซียนฮ่องเต้มารับไปเมื่อวันวิสาขบูชา ด้วยโรคชรา ธรรมดาๆ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ร่อเร่ประมาณ3เดือน ญาติตกลงจะประชุมเพลิงวันที่6นี้
  • เรามาร่วมกันส่งท่านเดินทางเที่ยวสุดท้ายร่วมกันเถิดนะครับ จงไปสู่สุขติเถิด ท่านอาวุโส..ทั้งสอง
เสียใจกับท่านด้วยเช่นกันครับ  ท่านกับผมมีอะไรคล้ายๆกันเลยนะครับ คุณเตี่ยก็อายุใกล้เคียงกับคุณแม่ผม ท่านเสียชีวิตก็ในช่วงเวลาใกล้ๆกัน
ขอให้ท่านเดินทางไกลไปด้วยกันนะครับจะได้มีเพื่อน..

น้องขจิตครับ

 ตอนนี้พี่อยู่ขอนแก่น  เสร็จงานคุณแม่ก็กลับไปลุยงานดงหลวงต่อครับ ยังมีงานอีกมากมายครับ

P
ขอขอบคุณมากครับคุณหมูครับ

พี่บางทราย 

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 

  • รอพี่ทำงานเรียบร้อยแล้ว
  • ค่อยพบกันครับผม

สวัสดีครับ อ.

P

 

ขอบคุณครับ อ.ภูคา ท่านไปดีแล้วครับ

สวัสดีครับน้องขจิต

ตอนนี้กลับมามุกดาหาร เร่งทำงานที่คั่งค้างอยู่ครับ

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
สวัสดีครับ
P

 

ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยม

ขอร่วมแสดงความเสียใจกับพี่บางทรายด้วยค่ะ... เคยพบเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ...คุณยายของแฟนเสีย...ท่านอายุราว 92-93 ปี ก่อนพลัดตกเก้าอี้ ยังแข็งแรง ไม่หลงลืม โต้ตอบลูกหลานได้กินใจ จนใคร ๆ ก็หลงรักกันหมด... อย่างที่โบราณเค้าว่าเด็กล้มแล้วโต  และคนแก่ล้มแล้ว...   คิดเสียว่าท่านจะได้ไม่ต้องทรมานนานกว่านี้นะคะ  ท่านไปสบายแล้วล่ะค่ะ...

สวัสดีครับน้อง

P

อายุของท่านยืนยาวเหมือนกันนะครับ คนโบราณอายุยืนมากกว่าปัจจุบันนะ ทางการแพทย์คงมีคำอธิบายเกี่ยวกับหลักการต่างๆ

แต่คนเราๆ แบบชาวบ้าน ก็ว่า ท่านทำบุญไว้มากจึงมีอายุยืนยาวนะครับ

ขอบคุณครับน้องสาว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท