K.M. ไม่ใช่เป้าหมายของโรงเรียนบางลี่วิทยา
(เป็นเพียงเครื่องมือ พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาองค์กรของเราเท่านั้น)
ท่านผอ.ประจักษ์ ปานอินทร์ อ่านหัวข้อที่ผมเขียนวันนี้ คงลมแทบใส่ และคิดว่า ครูพิสูจน์ พาโรงเรียนบางลี่วิทยาอับจนแน่ ท่านดร.สุวัฒน์ ก็คงงงงวย ว่าโรงเรียนบางลี่วิทยา จะเอาอย่างไรแน่ อุตส่าห์ ไว้วางใจให้เข้าร่วมโครงการวิจัย พัฒนานวัตกรรมการจัดการความรู้ ทำไมไม่ให้ความร่วมมือ จะเป็นวานรได้แก้ว หรือไก่ได้พลอยหรือไง ใจเย็นๆนะครับทุกๆท่าน อ่านให้จบก่อน แล้วจะตำหนิติฉิน นินทาอะไรก็ไม่ว่าหรอกครับ
ท่านผอ.ประจักษ์ นับว่าเป็นผู้บริหารที่สนใจ และศรัทธา(ด้วยปัญญา)การจัดการความรู้มาก ตัวท่านเองก็พยายามเข้าอบรม เมื่อติดราชการก็พยายามส่งครูไปศึกษาหาความรู้ เมื่อประชุมประจำเดือน หรือในวาระต่างๆก็จะสอดแทรกเรื่องราวของK.M.อยู่เสมอ
หลังจากคณะกรรมการติดตามผลการวิจัยนำโดยท่านดร.สุวัฒน์ และดร.ทัศนีย์ กลับไป ท่านได้สอบถามถึงการต้อนรับและผลการติดตาม(วันนั้นท่านติดราชการสำคัญด้านนโยบายบางอย่าง บางคนแซวว่า ผอ.ประจักษ์ หนีคณะกรรมการ จริงๆแล้วท่านห่วงใยและเห็นความสำคัญมาก)
ผมได้เรียนให้ท่านทราบว่าเรายังไม่ชัดเจนในกระบวนการจัดการความรู้ มีกิจกรรมอยู่บ้างแต่ยัง ไม่เป็นระบบและขั้นตอนที่เด่นชัด
คงจะเป็นความบกพร่องของผมที่ไปอบรมที่โรงแรมคุ้มสุพรรณมาแล้วไม่สามารถเล่าสู่เพื่อนครูให้ชัดเจนได้
พวกเราคงต้องเจียระไนพลอยหรือแก้วในมือเราต่อไป
ผมจำคำพูดของ ดร.ประพนธ์ ได้ตอนหนึ่งว่า
“หลายหน่วยงานทำ K.M. ไปเพียงเพื่อต้องการให้ได้ชื่อว่า ได้ทำ K.M. แล้ว นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด เพราะตามจริงแล้ว K.M. ไม่ใช่ตัวเป้าหมาย เป็นแค่ตัวกระบวนการ ที่ทำให้งานบรรลุผลสัมฤทธิ์ได้ตามที่ต้องการ โดยการใช้ความรู้ เป็นฐาน อาศัยความรู้เป็นปัจจัยทำให้งานสำเร็จ บทบาทที่แท้จริงของ K.M.จึงเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่จะนำไปสู่จุดหมาย โดยที่ตัว K.M. ไม่ได้เป็นตัวเป้าหมาย”
วันนี้(๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกกลุ่มมารวมกลุ่มกันร่วมกันตั้งเป้าหมาย(หัวปลา)ว่า โรงเรียนบางลี่วิทยา ต้องการวิธีการจัดครูสอนแทนครูที่ไม่สามารถมาสอน เพื่อให้นักเรียนได้ประโยชน์ได้ความรู้ใกล้เคียงกับการที่มีครูประจำวิชาสอน เพราะช่วงนี้โรงเรียนเราเกิด เหตุการณ์อย่างนี้บ่อย เนื่องจากครูโรงเรียนเรา ถึงแก่กรรม และได้ย้าย อีกทั้งบิดาของครูก็ถึงแก่กรรม ครูหลายท่านต้องเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยฐานะ ต้องมีการสอนแทนวันนี้ผอ.ประจักษ์ ขอทำหน้าที่เป็นคุณอำนวย หัวหน้ากลุ่มสาระฯทุกสาระเป็นคุณกิจ ครูเพ็ญประภาและครูมารยาทเป็นคุณลิขิต
ผอ.ประจักษ์ ขอให้หัวหน้ากลุ่มสาระฯแต่ละคนเล่าถึงวิธีการที่แต่ละกลุ่มสาระจัดการสอนแทนครูที่ไม่มา คุณลิขิตบันทึก เป็นขุมความรู้ เช่นบางกลุ่มใช้วิธีใช้สื่อวีซีดี ดีวีดี บางกลุ่มใช้ใบงานหรือให้งาน บางกลุ่มให้ท่องอาขยาน ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติเพื่อการบรรลุหัวปลา จากนั้นพวกเราจึงมาช่วยกัน จัดหมวดหมู่ ขุมความรู้ ไว้เป็นแก่นความรู้ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติ
ตอนสังเคราะห์ขุมความรู้เป็นแก่นความรู้ ผอ.วานครูขวัญตัดกระดาษเป็น แผ่นเขียนขุมความรู้ แต่ละตัวลงไป ๑ ขุมความรู้ต่อ ๑ แผ่น แล้วนำแผ่นขุมความรู้มาจัดกลุ่ม เอากระดาษขุมความรู้ที่มีกิจกรรมคล้ายๆกันมารวมกันเป็นกลุ่มเดียวกัน แล้วสังเคราะห์รวมเขียนให้เป็นเรื่องเดียวกัน ที่เรียกว่าแก่นความรู้
เราทำกันถึงเพียงแค่นี้ ยังไม่ถึงการนำแก่นความรู้ มาสร้างตารางอิสรภาพเพื่อประเมินตนเอง เพราะเย็นมากแล้ว วันนี้ฝนตกลมแรงด้วย
พวกเราพยายามเรียนรู้และฝึกปฏิบัติอย่างง่ายๆไปก่อน ผิดบ้างถูกบ้าง แก้กันไป ค้นคว้ากันไป เราหวังว่าK.M. จะเป็นเครื่องมือที่เราใช้ได้คล่อง ในการพัฒนาองค์กรบางลี่วิทยาต่อไป เราจะขอก้าวตามเพื่อนๆเราไป สู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน