สมัยของ Plato และ Aristotle


Plato เป็นลูกศิษย์ของ Socrates และตัว Plato เองมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ชื่อ Aristotle เป็นนักปรัชญาชาว Gkeeks มีชีวิตอยู่ในปี พ.ศ. 159 - 221

Plato  เป็นนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงในสมัย Greeks  เขาอาศัยอยู่ในกรุง Athens  มีชีวิตอยู่ในราว 428 - 348  ปี  ก่อนคริสต์กาล  หรือเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 115 - 195   (ถ้ายอมรับว่า พ.ศ. ต่างจาก ค.ศ. อยู่ 543 ปี เพราะมีการค้นพบว่า การนับปีในสมัยนั้นมีการนับด้วยปฏิทินที่ต่างกัน ตัวเลขอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ในราว 10 - 30 ปี )    

Plato  มีผลงานเขียนหลักอยู่ 3 เรื่อง  คือ              The Republic (อุดมรัฐ)     The Statesman (รัฐบุรุษ)   และ  The Laws (นิติรัฐ)  เป็นงานเขียน เกี่ยวกับปรัชญา การเมืองและการปกครอง
แต่ Plato  ได้สร้างสถานศึกษาซึ่งมักขนานนามว่าเป็น มหาวิทยาลัยขึ้น ชื่อ Academy เมื่อ พ.ศ. 155  ห่างจากกรุง Athens  ประมาณ 2 ไมล์  และ Aristotle ก็ได้ตั้ง สถานศึกษาแห่งที่สองขึ้นชื่อ Lyceum เมื่อ   พ.ศ. 188  ทั้ง Plato   และ  Aristotle  ได้วางรากฐานของแนวคิด   ที่มีการอธิบายปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติอย่างสอดคล้องกับปรัชญาทางด้าน  การเมือง การปกครอง  จริยธรรม และเทววิทยา (Theology)  ซึ่งเป็นการสอนเรื่องพระผู้เป็นเจ้าสอนเรื่องพระคัมภีร์  และเรื่องสิ่งวิเศษมหัศจรรย์ สำหรับ Plato เขาไม่นิยมใช้การสังเกตและการทดลอง เขานิยมตั้งข้อสรุปขึ้นโดยอาศัยเหตุผลเชิงตรรกวิทยา (Logic) จากเหตุผลในเชิงตรรกวิทยาเขาจะสร้างข้อสรุปขึ้นเพื่อใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ   ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการทดลองและการสังเกต      ตัวอย่างเช่น ชาว Greeks เชื่อว่า ทรงกลม เป็นรูปทรงที่สมบูรณ์  Plato จะกล่าวว่าจักรวาลต้องเป็นทรงกลม  และการหมุนเวียนครบรอบเป็นการหมุนเวียนที่สมบูรณ์
ฉะนั้นการหมุนเวียนหรือการเคลื่อนที่ในธรรมชาติของจักรวาลที่ครบรอบต้องเป็นการเคลื่อนที่หรือหมุนอย่างเป็นวงกลม   วิธีการของ Plato   ในการค้นหาความรู้     ความจริงด้วยตรรกวิทยา  หรือ Logic จึงไม่ถือว่า  เป็นวิทยาศาสตร์ 

ส่วน  Aristotle  ได้ดำเนินตามแนวของ  Plato  ผู้เป็นอาจารย์ มีความเชื่อว่า การหมุนเวียนและการเคลื่อนที่ในจักรวาลเป็นวงกลม (แนวความคิดเรื่องการหมุนเวียนอย่างเป็นวงกลมยังมีอิทธิพลถึงทุกวันนี้ )   Aristotle ยังได้นำเอาความคิดเรื่องธาตุ  ทั้ง 4  ได้แก่  ดิน น้ำ ลม และไฟ มาอธิบาย เป็นธาตุหนักและธาตุเบาโดยดินและน้ำเป็นธาตุหนักมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าหาจุดศูนย์กลางของจักรวาล  ส่วนลมและไฟเป็นธาตุเบา  มีแนวโน้มจะเคลื่อนออกจากศูนย์กลางของจักรวาล     การศึกษาเรื่องสิ่งมีชีวิตของ  Aristotle   มีความใกล้เคียงกับวิธีการของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน   Aristotle ใช้วิธีการสังเกตและเก็บรวบรวมตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตมากกว่า  500 ชนิด


    เขาได้อธิบายการเปลี่ยนแปลงของลูกไก่     ที่กำเนิดจากไข่   โดยการสังเกตและบันทึก   จนต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17   จึงได้พัฒนาวิธีการศึกษา สิ่งมีชีวิตของ Aristotle  มาใช้ในการศึกษาสิ่งมีชีวิต   Aristotle ได้ใช้วิธีการจำแนกพืชและสัตว์โดยอาศัยรูปแบบของการเจริญพันธุ์หรือการสืบทอดลูกหลาน   วิธีการของ Aristotle   ใช้ต่อมาอีกประมาณ 2000 ปี 

แต่สิ่งที่ Aristotle  ทำคุณค่าให้กับวิทยาศาสตร์  คือ  กระบวนการในการสังเกต  และบันทึกเพื่อการค้นหาความรู้ อย่างไร  ก็ตามเขาก็ไม่ถูกจัดว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์  แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่

หมายเลขบันทึก: 98605เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2007 15:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท