"ผู้รับประทับใจ ผู้ให้มีความสุข"


การบริการด้วยความเต็มใจ เต็มที่ เต็มกำลัง ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน โดยไม่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าสามารถช่วยเหลือได้ก็ทำให้ทันที…
จากการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ของ สพท.สพ.2 ห้องประชุมขุนแผน(ชั้น 4) ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 19 ธันวาคม 2549

การพูดคุยแบบ KM "กลุ่มส้มโอ" ในเรื่องเล่าประสบการณ์การให้บริการที่ประทับใจ ซึ่งก็มีวิธีการที่หลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ใช้ความรู้สึกของตนเองช่วยเหลืออย่างเต็มใจ.. เต็มที่.. ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน โดยไม่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่ ถ้าสามารถช่วยเหลือได้ก็ทำให้ทันทีเมื่อพูดคุยกันแล้วสามารถสรุปรวบรวมได้ดังนี้.. 

การพูดคุยแบบ KM ในครั้งนี้ของกลุ่มสัมโอ ประกอบด้วยสามาชิกส้มโอ 6 ลูก ลูกที่หนึ่งชื่อสุมาลี พิเชฐพงษ์(คุณอำนวย) ลูกที่สองชื่อสุพิศ เกตุมณี(คุณกิจ) ลูกที่สามชื่อผ่องพรรณ มากชู(คุณกิจ) ลูกที่สี่ชื่อสุคนธ์ จันทร์โอกุล(คุณกิจ) ลูกที่ห้าชื่อสายทอง มังกรทอง(คุณลิขิต) ลูกที่หกชื่ออุบล วงศ์ทับแก้ว(คุณลิขิตอย่างละเอียด) ทำให้ได้ทราบถึงน้ำใจ ความเอื้ออาทร เสียสละ ของ แต่ละคนในเรื่องการให้บริการที่น่าประทับใจ.. 
 

       ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีการที่หลากหลายตามสถานการณ์ สถานที่  เมื่อพูดคุยกันแล้วทำให้เราสามารถสรุปขุมความรู้ของเราได้ ดังนี้ การบริการด้วยความเต็มใจ เต็มที่  เต็มกำลัง  ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน  โดยไม่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่  ถ้าสามารถช่วยเหลือได้ก็ทำให้ทันที
 

        ประเด็นที่ได้จากพูดคุยในวันนั้น เป็นความประทับใจที่แต่ละคนมีประสบการณ์ของการให้บริการ ช่วยเหลือ ซึ่งแต่ละคนได้ใช้ความรู้สึกของตนเองที่เต็มใจช่วยเหลือ สรุปเป็นแก่นความรู้ได้คือ....        

*   ทักทาย...ยิ้มแย้ม...แจ่มใส       

*   ให้ความเป็นกันเอง       

*   ใส่ใจในสิทธิประโยชน์ของผู้รับบริการ       

*   เสียสละเวลาด้วยความเต็มใจ       

*   ให้ความช่วยเหลือ...อำนวยความสะดวก         

กลุ่มเลือกเรื่องเล่าที่ประทับใจ 1 เรื่อง จากประสบการณ์ของสมาชิกสัมโอลูกที่ 6 (อุบล วงศ์ทับแก้ว)                  

จำได้ว่าได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์ท่านหนึ่งเมื่อ 13 ปีที่แล้ว อาจารย์ท่านนี้มาสมัครขอรับทุนเซียร์ก้าเพื่อศึกษาต่อประเทศออสเตรเลีย ครั้งแรกที่พบอาจารย์ท่านนี้เห็นใบหน้าของอาจารย์ที่ดูหมอง.. จ๋อย มาก ๆ ยืนอยู่หน้าห้องระบบคอมพิวเตอร์ กองการสัมพันธ์ต่างประเทศ สป. ศธ.  ซึ่งเป็นห้องที่ทำงานอยู่ ในครั้งนั้นอาจารย์ท่านนี้ได้กรอกข้อความไม่ครบถ้วน อาจารย์เดินเข้ามาในห้อง พูดเสียงเบา ๆ กับเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ประตูทางเข้าห้องว่า ขอโทษนะคะ..จะขอความอนุเคราะห์ขอพิมพ์ดีดไฟฟ้าเพื่อกรอกใบสมัครหน่อยได้ไหมคะ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่อยู่ในห้องทุกคนหันไปมองตามเสียงแต่ไม่มีเสียงตอบจากทุกคน เมื่อไม่มีใครสนใจแล้ว จึงละงานในมือที่ หน.มอบหมายให้รับผิดชอบร่างและพิมพ์ Speed ของ รมต.ศธ เพื่อนำไปให้หน้าห้อง และ Ajenda ซึ่งจะใช้ในการประชุม Apec ที่เชียงราย ในอาทิตย์หน้า แต่เมื่อหันไปเห็นหน้าอาจารย์ที่ดูจ๋อย เหมือนจะร้องไห้ ยืนเก้ ๆ กัง ๆ จึงส่งสายตา.. แล้วยิ้ม และพยักหน้าเดินเลี่ยงออกมาด้านนอกห้อง  แล้วถามด้วยเสียงเบา ๆ  ว่า อาจารย์จะให้หนูช่วยอะไรได้บ้างค่ะ.. อาจารย์ช่วยอธิบายให้ละเอียด..  แล้วอาจารย์นั่งรอด้านหน้า เดี๋ยวจะเอาเอกสารไปให้นะคะ  พอทำเสร็จก็แอบเอาเอกสารไปให้ แล้วรีบกลับมาทำงานของตนต่อ

       จนมีโอกาสได้เจอ อาจารย์ท่านนี้อีกครั้งเมื่อเขาแวะมาที่กรมวิเทศสหการ แล้วมาถามหาน้องที่ชื่อเขียดอยู่หรือไม่ แล้วเดินมาหา คิดอยู่นานว่า..ไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่เราต้องไปประชุมต่างจังหวัด ต่างกอง ต่างกรม บ่อยมาก (อยู่ฝ่ายประสานงานและการประชุมนานาชาติ)และรู้จักพี่ๆ เพื่อน ๆ เจ้าหน้าที่ที่ร่วมงานกันในกระทรวงหลายท่าน จึงยิ้มรับไปอย่างเต็มที่(กลัวเขาเสียหน้า..) ถามออกไปว่า "อาจารย์มีอะไรให้ช่วยหรือค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นยื่นถุงใบใหญ่ 2 ใบ กล่องใบใหญ่ 2 กล่อง ให้ แล้วพูดว่า "ขอบใจน้องมาก ๆ ถ้าวันนั้นพี่ไม่ได้น้องช่วย..พี่คงไม่ได้รับทุนเรียนต่อแน่เลย และขอโทษที่วันนั้นไม่ได้ถามชื่อจริง พี่ได้เรียนเรื่องนี้ให้ รมต.ศธ. และ ผอ.กต. ทราบแล้ว เมื่อวันที่พี่มาทำเรื่องที่กรมวิชาการ เพื่อจะเดินทางไปเรียนต่อ" พออาจารย์ท่านนั้นเล่าเหตุการณ์ให้ฟังจึงถึงบ้างอ้อ.. ซึ่งจำไม่ได้แล้ว เพราะวัน ๆ งานเยอะมาก ทั้งงานในกองฯ และต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงอาคารราชวัลลภ แต่ชีวิตช่วงนั้น(ปี2536-2544) "เป็นโสด" จึงไม่รู้สึกลำบากแต่เป็นช่วงที่สนุก และมีความสุขกับงาน อาจารย์ท่านนั้นบอกพี่มาขอบคุณ ที่ช่วยเหลือ มีน้ำใจให้คนใต้ที่เข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรก(อาจารย์เป็นคน จ.ยะลา) วันนั้นรู้สึกสมองโปร่ง เบาสบาย ให้คิดถึงคำพูดของ  แม่ ที่พูดบ่อยครั้ง ให้ช่วยเหลือ.. สงเคราะห์.. ให้โอกาสแก่เพื่อนร่วมโลก(ใบเบี้ยวๆ) ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป เผื่อวันหน้าเราไปตกระกำลำบาก อยู่แห่งหนตำบลใด อยู่ที่ไหนจะได้มีคนสงเคราะห์ อุปถัมภ์ เมตตา..  ได้แบ่งผลไม้ ขนม ให้พี่ๆ เพื่อนๆ ทั้ง 5 ฝ่าย 55 ชีวิต ในกองฯ พร้อมทั้งบอกว่าเป็นของอาจารย์เอามาฝากทุกคน และปลอดสารพิษเพราะอาจารย์ปลูกเอง(อาจารย์เขาบอกนะ..) หลังจากนั้นทุกปีจะมีการ์ดอวยพรส่งให้(ถึง ผอ.กองฯ ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ ไปแล้ว และตัวสมาชิกส้มโอลูกที่ 6) โดยมีผลไม้ ขนม จากอาจารย์ท่านนั้นส่งไปรษณีย์ไปที่กองฯ ให้พี่ๆ เพื่อนๆ รับประทานกันอร่อยเป็นประจำ...

หมายเลขบันทึก: 97841เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2007 14:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ถ้าทุกคนให้ความสำคัญในงานบริการ องค์กรจะมีชัยไปกว่าครึ่ง!!
ขอบคุณท่านมากที่แวะมาเยี่ยมเยียน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท