ผมเรียนเกษตรที่ บ้านลำภูรา จ.ตรัง ช่วงนั้นเส้นทางไปตรัง ตอนที่ผมเรียนเดินทางโดยรถเมล์ เริ่มที่อำเภอทุ่งสง วันที่ 13 พฤษภาคม 2550 ผมไปตามนัดของน้องหนุชา หนูนุ่น(ชายขอบ) เริ่มเดินทางจากตัวเมืองนคร ด้วยรถตู้พร้อมกับ "ครูนงเมืองคอน" อ.จำนงหนูนิล Blogger คนดัง ทีมกศน.นคร วันนั้นฝนตกโปรย ๆ ตลอดเส้นทาง หลังจากจบการศึกษาออกไปแล้ว ผมไม่ได้เดินทางมาตรังเป็นทางการเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ผ่านเพื่อไปเป้าหมายที่ไกลกว่า
หลายปีผ่านมาถึงวันนี้ เส้นทางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผมสังเกตุตลอดเส้นทางถนนมีการพัฒนาเป็น 4 เลน มีทางลัดเกิดขึ้นใหม่ จนจำไม่ได้เพราะเหลือร่องรอยเดิมน้อยมากจนถึงไม่มี การเดินทางเร็วขึ้นมากกว่าเดิม เพราะมีทางกลีกเลี่ยงชุมชนใหญ่ที่การจราจรติดขัด
โชว์เฟอร์รถตู้บอกว่าเส้นทางสายเก่ากับสายใหม่เขาเคยวัดด้วยไมล์รถปรากฏว่าระยะทางเท่า ๆ กันแต่สามารถลดเรื่องเวลาได้เพราะไม่ติดขัดตรงตลาด บรรยากาศ 2 ข้างทางยังคงเดิมไม่เปลี่ยนมากนักเพราะ จ.ตรัง พืชเศรษฐกิจคือยางพารา ปาล์มน้ำมัน ซึ่งก็มีให้เห็นเหมือนเดิม แต่ในพื้นที่ทุ่งนาเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เพราะปลูกไม้ยืนต้นในที่นาอยู่พอสมควร ซึ่งก็คล้าย ๆ กับนครศรี ฯ
ถ้าไม่เดินทางไปพร้อม "ครูนงเมืองคอน" ผมคงหลงโรงแรมที่พักแน่ ๆ เพราะผมจำตอนที่เคยได้ไปสัมมนาเรื่องปาล์มน้ำมันที่ตรัง โรงแรมธรรมรินทร์ อยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟ ผมงงๆ เมื่อโชว์เฟอร์ถามว่าลงไหน ผมบอกชื่อโรงแรมเขาถามกลับว่าธรรมรินทร์ไหน ผมบอกว่าใกล้สถานีรถไฟ แต่ก็เอะใจอยู่กับที่เขาถาม ก็เลยหันไปถาม อ.จำนง ท่านบอกว่า ธรรมรินทร์ธนา ซึ่งจริง ๆ เขามี 2 ที่ ที่ผมมาครั้งก่อนที่ใหม่ยังไม่สร้าง ซึ่งก็นานไม่น้อยเลย เกือบได้เดินหาโรงแรมแล้วไม่ล่ะ ก็โทษตัวเองอยู่ในใจเล็กน้อยและเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งว่า อาจเป็นปัญหาให้ได้ถ้าเราจำข้อมูลมาไม่ครบชื่อเหมือนกันแต่คำขยายไม่เหมือน หอบสัมภาระพะรุงพะรังด้วยคงยุ่งไม่น้อยเลย
เข้าที่พักแล้ว สักครู่น้องหนุชา(ชายขอบ) มาเคาะประตูแนะนำเพื่อนซึ่งทราบว่าเป็นผู้จัดอบรม และเป็นเพื่อนสมัยเรียนมาด้วยกัน ผมและ อ.จำนงเรียกน้องเขาในชื่อ "น้องอึ้ง" เราคุยกันคิดว่าน่าจะนานไปหน่อยจนลืมน้องอึ้งไปเลยมั่งแกเลยบอกว่า"ผมลงไปรอข้างล่างเพื่อเตรียมรถไปหาอะไรกินกันและต้องคุยเรื่องกระบวนการอบรมกันด้วย" ซึ่งเป็นสิ่งที่เรา 3 คนร้องขออยู่ด้วยครับ
ทีมงานพาเรา 3 คน ไปเพื่อหาสถานที่ที่คิดว่าทานอร่อย และบรรยากาศหารือเรื่องงานได้ด้วยพร้อมกัน ในโต๊ะวันนั้นสิ่งที่ถามผู้จัดก็คือข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรม เป้าหมายที่ต้องการ โดยสรุปแล้วก็คือผู้บริหารผสมนักวิชาการ ถามน้องอึ้งว่าเขารู้จัก KM แค่ไหนได้ทราบว่าอาจแค่รู้จักเฉย ๆ ยังคงไม่ได้ใช้ แต่เมื่อดูที่เป้าหมายที่ต้องการแล้วถือว่าหินสำหรับผู้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรเลยครับ คือต้องการให้ 40 ท่านนั้นทั้งสุภาพบุรุษและสตรีทำหน้าที่เป็นคุณอำนวยได้
ข้อมูลที่เตรียม ๆ กันมาคงต้องปรับกันไม่น้อย เมื่อสมควรแล้วเรา 3 ขอแยกออกมาจากร้านก่อน เพราะคงต้องปรับจูนกัน โดยเอาประสบการณ์ที่เคยจัดเวทีมาว่ากัน ก็เลยมานั่งที่ล๊อบบี้โรงแรม ซึ่งก็บรรยากาศเงียบ ๆ ดี เราคุยกันหลายเรื่องไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อไหร่แต่"เป้าหมาย" ที่สำคัญก็คือต้องสร้างคุณอำนวยโดยเริ่ม "ขุดหลุม" ปลูกในวันรุ่งขึ้น
เราอาจเครียดและกังวลแต่เมื่อคุยกันแล้วก็ค่อย ๆ โล่งไป เพราะพรุ่งนี้เราตกลงจะเป็นผู้เรียนด้วยไม่ใช่วิทยากร เราจึงยิ้มได้
เรียน