เนื่องจากบริการที่ให้โดยรัฐจะต้องอาศัยระบบนัดหมายและมีความจำกัดบางประการ ทำให้ประชาชน 49% ซื้อประกันสุขภาพของเอกชนเพื่อไปรับบริการในโรงพยาบาลเอกชนได้ โดยรัฐจะช่วยจ่ายสมทบให้บางส่วน (Subsidy) ซึ่งถ้าไม่มีประกันเอกชนเมื่อไปใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนก็จะต้องจ่ายเงินเองเต็มจำนวน แต่หากมีประกันเอกชน บริษัทประกันก็จะช่วยจ่ายให้โดยภาครัฐร่วมออกให้ด้วย ส่วนบริการในโรงพยาบาลรัฐและบริการฉุกเฉินจะใช้สิทธิได้ฟรี โดยแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปจะเป็นผู้ดูแลคนไข้เป็นคนแรกแล้วจัดส่งคนไข้ไปโรงพยาบาลหรือไปพบแพทย์เฉพาะทางโดยที่ไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยไปเองและต้องมีระบบนัดหมาย
การประสานงานกันของระบบให้บริการสุขภาพ(Health services delivery) ของออสเตรเลีย ในภาพรวมจะมีสภาที่ปรึกษาทางด้านสุขภาพหรือAustralian Health Ministers Advisory Council (AHMAC) มีกรรมการมาจากผู้รับผิดชอบระบบสุขภาพของรัฐบาลกลางและรัฐบาลแต่ละรัฐ จากVeteran Affair และจะมี National Health Priority Action Council เป็นผู้ขับเคลื่อนผลักดันการพัฒนาทางด้านสุขภาพในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมี
Australian council for Safety & Quality in Health Care จะเป็นผู้ที่ผลักดันในระดับชาติที่จะพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยในระบบริการสุขภาพพร้อมทั้งพยายามทำให้ผลกระทบจากความผิดพลาดน้อยลง
National Public Health Partnership เป็นผู้วางแผนและประสานงานสาธารณสุขระดับชาติ
National Health Information Group จะเป็นผู้ประสานงานและกำหนดแนวทางการทำข้อตกลงด้านข้อมูลข่าวสารทางด้านสุขภาพในระดับชาติลงไปปฏิบัติ
เกี่ยวกับการใช้บริการทางด้านสุขภาพพบว่าในปี 2002 คนออสเตรเลีย 6.4 ล้านคนนอนโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอัตราการนอนโรงพยาบาลเอกชนสูงขึ้น 35.7 % และ 5.2 % ในโรงพยาบาลรัฐ พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนการใช้บริการจากโรงพยาบาลรัฐไปโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น อัตราการนอนโรงพยาบาลแบบวันเดียวเพิ่มสูงขึ้นจาก 46.3 % เป็น 52.3 % มีการจัดตั้ง ACHS ขึ้นมาเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาล
เพื่อให้แพทย์อยู่ในชนบทได้นาน รัฐบาลกลางได้จัดตั้งฝ่ายสนับสนุนขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุนด้านต่างๆแก่แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปเรียกว่า Division of General Practice and Primary Care ซึ่งในวันที่ 23 ก็ได้มีงานส่วนนี้มาเล่าให้พวกเราฟัง โดยคุณGraham Kershaw ที่เป็น Chief Executive Officer ของ Division of GP ที่เมืองแทมเวอร์ธ มาบรรยายถึงงานและบทบาทให้ฟัง แล้วงานสาธารณสุข(Public Health) อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลทั้งสามระดับ มีกิจกรรมในเรื่องอาหารปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของอาหาร การให้ภูมิคุ้มกันโรคและการควบคุมโรคติดต่อ (รวมทั้งความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต) การสุขศึกษา (รวมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการละการออกกำลังกาย) กิจกรรมการป้องกันอุบัติเหตุ การลดการบริโภคบุหรี่และสุรารวมทั้งยาอื่นๆ การสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม การคัดกรองโรคเช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก
ทรัพยากรทางด้านสุขภาพ(Health Resources) ค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพสูงขึ้นเป็น 9.3 %ของ GDP ในปี 2002 เมื่อเทียบกับ 8.7&ในปี 1999และ 8.1 % เมื่อต้นปี 1990 ในปี 2001-2002 คนออสเตรเลียใช้ค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพ 66.6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดย 69% สนับสนุนโดยรัฐบาล (46%สนับสนุนจากรัฐบาลกลาง อีก 23% สนับสนุนจากรัฐบาลมลรัฐ องค์กรท้องถิ่นหรืออื่นๆ) ที่เหลือจากประกันสุขภาพเอกชน(แต่รัฐบาลก็ช่วยสนับสนุนบางส่วน)หรือการควักกระเป๋าจ่ายเอง โดยค่าใช้จ่ายที่ประชาชนควักกระเป๋าจ่ายเองโตขึ้นอย่างมากถึง 7.7% มากกว่าการเพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนภาครัฐที่มี5.7% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา(1997-2002)ไม่มีความเห็น