หลังจากที่แต่ละกลุ่ม (3 กลุ่ม) ทำกิจกรรมของตนเองเสร็จแล้วก็นำมานำเสนอที่ห้องใหญ่กัน
โดยเริ่มต้นจากการนำเสนอของ กลุ่มที่ 2 มีทั้งหมด 7 เรื่อง แล้วนำมาขมวดรวมกันโดยสรุปว่า
"เป้าหมายของเราก็คือ 1) บุคลากรมีความเป็นเลิศในหน้าที่ของตนเองที่เป็นที่ปรึกษาของหน่วยงานอื่น และ 2) สร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่มีความสามัคคีและมีคุณธรรมในการทำงาน"
แล้วก็ตามด้วย กลุ่มที่ 3 ออกมานำเสนอผลการคุยกันในกลุ่มว่า
"เป้าหมายของการจัดการความรู้ก็คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย สาธารณูปโภคลดลง 7 % ของค่าใช้จ่ายปีที่ผ่านมา....โดยมีวิธีการปฏิบัติคือ ขั้นที่ 1 จัดเวทีแล้วเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง การประหยัดสาธารณูปโภค ขั้นที่ 2 ถอดบทเรียน แล้วสรุป้ป็นองค์ความรู้ ขั้นที่ 3 นำไปปฏิบัติ และ ขั้นที่ 4 เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อประเมินผลการนำไปปฏิบัติ"
หลังจากนั้น กลุ่มที่ 1 ก็ออกมานำเสนอผลการคุยของสมาชิกว่า
"เป้าหมายของเราคือ เป็นศูนย์กลางในการบริการข้อมูลส่งเสริมการเกษตร ให้เป็นปัจจุบัน ทันสมัย และถูกต้อง...โดยมีงานที่เราจะต้องทำได้แก่ 1) จัดหมวดหมู่และเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ 2) ประมวลผลข้อมูลทุกเดือน 3) ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 4) วางแผนและบริหารจัดการข้อมูล 5) ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูล6) ประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานอื่น 7) สร้างระบบเครือข่ายของข้อมูล 8) ประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ 9) ศึกษาวิจัยความต้องการของข้อมูลของผู้ใช้บริการ และ 10) พัฒนาและเพิ่มข้อมูลให้ตรงความต้องการของผู้ใช้บริการ"
ซึ่งเป็นเนื้อหาหลัก ๆ ที่แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดและช่วยกันทำขึ้นมานำเสนอภายใต้ฐานของงานที่ตนเองทำและประสบการณ์ที่มีอยู่ ส่วนการสรุปเป้าหมายของหน่วยงานนั้น ก็ได้สนทนากันใน 2 ทางเลือกคือ
1) นำทุกงานมารวมกันทำ และทำเป็นกลุ่มเดียว แล้วทำไปพร้อม ๆ กัน แต่งานก็จะอุ้ยอ้าย
2) แยกกันทำงานตามเป้าหมายของแต่ละกลุ่มย่อย ( K V ย่อย) แล้วค่อยนำมารวมกัน ภายใต้เป้าหมายใหญ่คือ พัฒนาเจ้าหน้าที่ให้เป็นที่ปรึกษาได้ และเป็นศูนย์กลางวิชาการ ก็จะทำให้งานไวขึ้น และไม่อุ้ยอ้าย
ฉะนั้น การตัดสินใจจึงอยู่ที่ที่ประชุม เพราะเป็นเรื่องภายในที่ต้องปรึกษาหารือกัน ทีมงานของดิฉันจึงต้องออกจากที่ประชุม เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องภายในและเราเป็นคนนอก (ห้ามฟัง) ซึ่งสิ่งนี้เป็นกฎกติกาที่เราจะต้องรู้ด้วยตัวเราเองค่ะ.