วันต่อมาตื่นกันแต่เช้าครับเพื่อลงมารับประทานอาหารเช้าที่แสนจะอร่อยที่สุดตลอดที่อยู่ในเกาหลี (จริงๆ อาหารของเค้าก็ดีนะ แต่ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไรนัก) จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาดูงานที่สำนักการศึกษากุรงโซล พร้อมทั้งได้รับฟังคำบรรยายด้านการจัดการศึกษา
ในด้านของการจัดการศึกษาของประเทศเกาหลีจะได้รับงบประมาณจากเทศบาล ในในปีหนึ่งรัฐบาลจะให้การสนับสนุนการศึกษาปีละ 4 ล้านบาท ส่วนของสำนักการศึกษาของประเทศเกาหลี จะดูแลในเรื่องของพื้นฐานการศึกษา ทั้งโรงเรียนประถมศึกษา และมัธยมศึกษา มุ่งเน้นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยตนเองได้ มุ่งพัฒนาคุณภาพของคน อาทิเช่น สุขภาพการจัดกายบริหาร ให้ผู้เรียนมีสุขภาพที่แข็งแรง และการเรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติจริง เช่น การฝึกอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง การใช้ห้องแล็ป การเข้าค่าย และการศึกษาจากแหล่งการเรียนรู้
บุคลากรครูส่วนใหญ่เป็นครูผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย (อาชีพครูผู้หญิงเป็นอันดับ 1) การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษา 6 ปี ระดับมัธยมศึกษา 3 ปี ระดับมหาวิทยาลัย 4 ปี ในการเรียนระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาจะเลือกอาชีพของตนเองว่าจะทำอาชีพใด เมื่อเข้าปีที่ 2
ในด้านกีฬา ประเทศเกาหลีจะให้ความสำคัญและส่งเสริมเยาวชนตั้งแต่เด็กถึงโต โดยจัดให้มีการแข่งขันทุกประเภท การฝึกกีฬาจะเลือกกิจกรรมหลังเลิกเรียน เมื่อนักเรียนคนใดมีความสามารถสูงในด้านกีฬา จะมีโรงเรียนส่งเสริมกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งจากการส่งเสริมสนับสนุนจึงทำให้การกีฬาของประเทศเกาหลีอยู่ในระดับดีเสมอ
หลังจากเยี่ยมชมสำนักการศึกษากรุงโซลแล้ว เราก็ได้ลิ้มรสหมูย่างเกาหลีขนานแท้ ซึ่งถือเป็นอาหารที่มีชื่อของประเทศเกาหลี เป็นหมูย่างที่ผ่านการหมักนำมาย่างบนเตาร้อยๆ สุกกำลังดี รับประทานกับซอส กระเทียม กิมจิ และใช้ผักกาดหอมห่อคล้ายเมี่ยงคำ แกล้มด้วยพริกเกาหลีเม็ดโตสีเขียวสด พร้อมข้าวสวยร้อนๆ (หิวขึ้นมาเลยทีเดียว.......)
ทีนี้เราได้เข้าถึงเกาหลีลึกเข้าไปอีกนะครับ โดยไกด์พาเราไปที่ศูนย์โสมเกาหลี ได้ฟังคำบรรยายจากประชาสัมพันธ์ที่พูดภาษาไทยได้คล่องมาก (และน่าฟังด้วย) เราได้ความรู้ว่าสรรพคุณของโสมเกาหลีที่มีอายุ 6 ปี ได้รับการรับรองจากรัฐบาล จัดว่ามีสรรพคุณดีที่สุด
จากนั้นเราไปต่อที่ห้างซิลล่าดิวตี้ฟรี สถานที่ขายสินค้าแบรนด์เนม และชมแหล่งสินค้า อิเตวอน เป็นถนนนานาชาติของกรุงโซลที่มีความยาวถึง 1.5 กม. ชาวต่างชาตินิยมทมาช็อปปิ้งกัน มีสินค้านานาชนิดมากมาย โดยเฉพาะเครื่องหนัง และหนังปลาไหลที่ขึ้นชื่อมากๆ (พวกเราละลายทรัพย์กันหลายหมื่นวอน หิ้วถุงกันพะรุงพะรังเลยทีเดียว)
กว่าจะถึงโรงแรมที่พักก็มืดค่ำกันทีเดียวครับ..........หมดไปอีกวันสำหรับเกาหลี
วันต่อไปเราต้องไปดูงานที่โรงเรียนประถม และโรงเรียนมัธยมของกรุงโซลครับ
เอ........จะเหมือนของเมืองไทยหรือเปล่า?