ย่างเข้าเดือนกันยายนแล้วฝนห่าใหญ่ยังไม่ลงมาเลยพ่อเฒ่าต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างเพื่อปากท้องของครอบครัวเราแล้วแกก็เรียกลูกๆทั้งหมดมานั่งล้อมวงกัน
พ่อเฒ่า : ลูกเอ้ย..ปีนี้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล
นาเราสักแปลงยังไม่ได้ทำนี่มันจะหมดฤดูฝนแล้วลูก เราจะทำอย่างไรดี
พ่อเรียกลูกๆมาปรึกษากันพร้อมกัน
“สยาม” ลูกชายคนโตกล่าวว่า พ่อ ผมจะลงกรุงเทพฯแล้ว
ไปหางานทำจะหาเงินส่งมาให้พ่อซื้อข้าวกิน ไม่ไหวแล้วพ่อ..
“อิ๋ว” ลูกสาวคนรองถัดไปบอก พ่อ แม่..ว่า ฝนที่ตกมาเล็กน้อยนั้นมันพอดำนาแห้งได้นะ
อย่ารออีกเลยพรุ่งนี้เราระดมไปช่วยกันดำนาแห้งก่อน
เสร็จแล้วพี่ใหญ่จะลงไปกรุงเทพฯก็ตามใจ ฉันกับน้องจะดูแล พ่อ แม่ เอง
หลังดำนาแห้งเสร็จแล้ว สยามก็ลงไปทำงานในศูนย์เปลี่ยนยางรถยนต์
เฒ่าแก่ให้เงินเดือนละ หกพันบาท หักค่าอะไรไม่รู้ เหลือ สี่พันบาท
เวลาของหาย เครื่องมือเสีย เฒ่าแก่ก็มาหักออกจากค่าแรง
วันไหนมาสายไปหน่อยก็หักนาทีละบาท
แต่เวลาที่ทำงานเลยชั่วโมงทำงานจนถึง หนึ่งทุมสองทุ่มไม่เห็นเฒ่าแก่ให้พิเศษเลย
วันไหนไม่สบายขอหยุดงานก็ไม่ได้ค่าแรงวันนั้น
สยามมองบ้านใหญ่โตของเฒ่าแก่เจ้าของกิจการ
ลูกสามคนเรียนเมืองนอกหมดทุกคน
เงินที่ได้มาแทบไม่พอส่งให้พ่อให้แม่ แค่ค่ากินค่าอยู่ก็แทบไม่เหลือแล้ว
สองเดือนผ่านไป ค่ำวันนั้น สยามนั่งร้องให้อยู่มุมห้องเงียบๆ
ไม่มีเสียงสะอื้น แต่แก้มที่หยาบกร้านนั้นนองด้วยน้ำตา....
เราจะกลับบ้านเรา..เราไม่อยู่.... แต่พ่อ แม่ น้องไม่มีข้าวกิน..
สยาม คิดกลับไปกลับมา ตลอดคืน จนผล็อยหลับไปในรุ่งเช้า
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น บทชีวิตเหล่านี้ หรอก
แม้แต่เพื่อนร่วมงานต่างก็ดิ้นรนกันทั้งนั้น
เสียงเพลงลูกทุ่งที่ดังออกจากปาก
ก็เพียงร้องกล่อมใจไปวันวันหนึ่ง
กล่อมใจให้กับตัวเองว่าต้องสู้ต่อไปกับชีวิตที่เลือกไม่ได้
เสียงอิ๋วเรียก พ่อ แม่ และน้องเล็กขึ้นมาบนบ้านมากินข้าว
ก่อนจะออกไปหาของในป่ามาแลกข้าวช่วยพี่ใหญ่อีกแรงหนึ่ง
แม่ พ่อ..ข้าวหม้อนี้ เป็นเงินของพี่ใหญ่ที่ส่งมาให้เราซื้อข้าวนะ
หากพี่ใหญ่ไม่ลงไปทำงาน เราก็ไม่มีข้าวกิน
นาปีนี้ไม่ได้ข้าวพอให้ไก่มันกินด้วยซ้ำไป
พ่อของสยามเคี้ยวข้าวอย่างฝืดๆ กว่าจะกลืนลงคอ
สายตาผู้เฒ่าลอยออกไปข้างนอกบ้าน
อิ๋ว เอ้ย พ่อคิดถึงพี่ใหญ่ของเอง....
........??.......
ผมขอสดุดีแรงงานไทย
ขออนุญาต ร่วมสดุดีด้วยคนค่ะ
ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี น่าเห็นใจแรงงานมากค่ะ
จากเรื่องที่คุณบางทรายเล่า ดิฉันอยากให้ "สยาม" กลับบ้านไปหาพ่อเฒ่าค่ะ อยู่อย่างพอเพียง น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าค่ะ
อาจจะ idealistic แต่ก็เป็นความหวังที่เราต้องช่วยกันผลักดันค่ะ
อาจารย์กมลวัลย์ครับ
ตอนนี้สยามกลับบ้านแล้วครับ มาช่วยทางบ้านทำเกษตรผสมผสานอยู่ครับ ได้น้องสาวช่วย แทยแรงงานพ่อแม่ที่แก่เฒ่าวางมือแล้ว แต่ก็ไม่วายทำโน่นทำนี่ โดยเฉพาะพ่อยังขึ้นป่าบางครั้ง เพื่อเอาสมุนไพรมาต้มกินแก่เมื่อย ขบต่างๆ ครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
การอยู่อย่างพอเพียงเป็นสิ่งดีที่สุดตอนนี้ค่ะ
สวัสดีครับท่านsasinanda
ใช่ครับการอยู่อย่างพอเพียงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ครับ นี่คือภาระกิจที่สำคัญของเราครับ
เพียงแต่การหาเครื่องมือไปกล่อมเกลาจิตใจชาวชุมชนให้เข้าใจและเพิ่มเติม ต่อยอดจากสิ่งที่เขาเคยทำมาแล้วให้สร้างสรรค์เป็นจริงมากขึ้นเพื่อการพอเพียง
ยากเอาการ เพียงการพูดคุยนั้น บางคนอาจจะบรรลุแล้วลุกขึ้นทำอย่างจริงจัง แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่รับฟังแต่ยังไม่ทำ....ครับ ต้องหาทางกันต่อไปครับ
ขอบคุณครับ
อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ...มันเป็นภาพที่ฉายซ้ำๆกันไปทุกหนแห่ง...อยู่อย่างพอเพียงต้องมีใจที่มั้นคงนะครับ...ต้องสอนกันตั่งแต่เกิดไม่ให้หลงไปตามวัตถุนิยม...แต่เดี๋ยวนี้กระแสสังคมมันแรงเหมือนพายุเลยนะครับพี่บางทราย...
โอชกร
สวัสดีครับโอชกร - ภาคสุวรรณ
ใช่จริงๆเป็นหนังเรื่องเก่าที่ฉายซ้ำซากจริงๆ และยังไม่จบจะมีฉายอยู่เรื่อยๆ และจิตใจคนเรามันถูกหุ้มด้วยความทันสมัยหมดแล้ว ความจริงความทันสมัยเป็นสิ่งไม่ควรปฏิเสธ แต่อย่างที่หลายคนกล่าวถึงคือ ความรู้สึกพอเพียงมันไม่ดื่มด่ำเข้าไปข้างใน มันเป็นการพูด กล่าว กันด้วยวาจา แต่จิตใจยังไม่ได้ไปด้วยอย่างที่น้องโอชกรกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะหลอมคนให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ก็ทำกันและหาทางกันต่อไปครับ
สวัสดีครับน้องRanee
เรื่องนี้เกิดเมื่อที่ผ่านมา ช่วงฤดูการทำนาปี พ.ศ. 2549 เราพบเหตุการณ์อย่างนี้ ก็อึ้งไปเลย ความจริงมีมากกว่านี้ จำนวนคนลงกรุงเทพฯก็มากกว่านี้ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไปครับ ตอนนี้นายสยามกลับบ้านแล้วและร่วมทำการเกษตรผสมผสานกับโครงการอยู่
แน่นอนเรื่องแบบนี้ ที่หนักกว่านี้ มีอีกมากครับ
ขอบคุณมากครับน้องราณี
สวัสดีน้องเม้งครับ
สวัสดีน้องเม้ง ต่อครับ
ขอร่วมสดุดีด้วยคนครับ...
แรงงานไทยคือกลไกหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติครับ...
ขอบคุณครับ...