จัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการทำแปลงเกษตรในการใช้ปุ๋ยชีวภาพ
ที่ถูกวิธีและให้ผลดี ประโยชน์การทดแทน ต้นทุนธรรมชาติ และ
การเรียนรู้เพื่อที่จะฝึกการเป็นผู้นำด้านการทำเกษตร
โดยกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กแม้วจำนวน 20 กว่าคน
โดยใช้เวลายามเย็นที่เด็กๆออกมาทำแปลงเกษตรหน้าโรงเรียนวัดไชยภูมิ
คือ รดน้ำ พรวนดิน ขยายพันธุ์กล้าแยกต้น ถากถางหญ้า
ซึ่งตอนนี้เพาะปลูกต้นกล้าผักใหม่ได้ระยะ 2
อาทิตย์แล้วและเริ่มที่จะรอปุ๋ยทางโคนต้นได้แล้ว
แต่ก่อนเด็กๆก็เคยลงปลูกกันตอนช่วงหน้าฝนแต่ไม่สำเร็จเพราะน้ำท่วมตายหมดตรงที่ปลูกใกล้สระน้ำใหญ่
จึงเริ่มทำใหม่ในเดือนนี้
เริ่มกระบวนการเรียนรู้เพื่อจำและนำไปใช้
ต่อไปก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ โดยเฉพาะตอนที่จะนำเด็กๆไปเป็น
ผู้นำการเรียนรู้แปลงสาธิตของโรงเรียนเกษตรกร
จึงต้องเริ่มฝึกไว้ตั้งแต่เริ่มต้น
โดยเริ่มเรียนรู้ที่ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพชนิดต่างๆ
โดยเริ่มสอนที่การใช้ปุ๋ยแต่ละชนิดทั้ง 3 ขวดคือ
-
ฮอร์โมนไข่หอยเชอรี่ไว้ใช้บำรุงเร่งใบให้งามเร็ว
แตกยอดอ่อนเร็วขึ้น ถ้าเป็นไม้ผลจะดีมาก เพราะจะเร่งการออกดอก ช่อ
ติดลูก อัตราการใช้ 10-30 ซีซี ต่อน้ำ 10 ลิตร หรือ 2 ช้อนคาว ต่อน้ำ
ครึ่งถัง ผสมให้เข้ากันแล้วใช้ฉีดทางใบหรือรดโคนต้นก็ได้
- ส่วนปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้ตลอดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
เพื่อบำรุงเร่งการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะราก ช่วยปรับปรุงบำรุงดิน
อัตราการใช้ 10 – 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ 2 ช้อนคาว ต่อน้ำ 20
ลิตร 1 ถัง ผสมให้เข้ากันและใช้รดราดตามโคนต้น
- ส่วนน้ำหมักชีวภาพสูตรไล่แมลงศัตรูพืช
ใช้เมื่อยามมีแมลงมารบกวนแปลงเกษตร พวกหนอนชอนใบ เพลี้ย ฯ
อัตราการใช้ก็ 20-50 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร หรือ3 ช้อนคาว ต่อน้ำ 1 ถัง
ผสมคนให้เข้ากันจะรดหรือฉีดพ่นทางใบก็ได้
เป้าหมายในการฝึกเด็กๆเรียนรู้เรื่องการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพแต่ละชนิดเพื่อเริ่มเรียนรู้ก่อนที่จะไปทำคือรับจ้างทำแปลงสาธิต
ดูแล สร้างรายได้ โดยวิธีที่ปลอดภัย และทำได้ง่ายมีประสิทธิภาพ
วิชาตรงนี้ที่สอนก็จะติดตัวเด็กๆไป
ถ่ายทอดต่อคนที่มาศึกษาดูงานซื้อปุ๋ยดูแปลงสาธิต
อีกทั้งเมื่อกลับไปบ้านเกิดผลพวงคือ เด็กๆจะเป็นกำลังสำคัญของชาติ
ในการเป็นเกษตรกรที่สามารถพึ่งตนเองได้และอาชีพเกษตรกรก็ยั่งยืนไม่สูญหายไปจากสังคม
โดย พิมพ์พร ช้างทองคำ
นักจัดการความรู้ท้องถิ่นตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
(20พ.ย.48)