หอศิลป์ริมน่าน.. เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ป้าเจี๊ยบประทับใจในระหว่างเดินทางไปเที่ยวส่งท้ายปีเก่ากับครอบครัวของน้องแพรและแพทริคค่ะ ก่อนเดินทาง น้องสะใภ้ของป้าเจี๊ยบคือแม่ปุ๊ มณีรัตน์ของน้องมิ้นท์บอกว่าถ้าไปถึงน่านแล้ว อย่าลืมแวะไปชมหอศิลป์ริมน่านนะ สวยมาก เจ้าของชื่อวินัย ปราบริปู เป็นเพื่อนสมัยเรียนที่ศิลปากร
ดังนั้นหลังจากหลงเสน่ห์เมืองน่านจนวนเวียนเที่ยวอยู่ 3-4 วัน พ่อจ้อยก็เลี้ยวรถตามป้าย “หอศิลป์ริมน่าน” เข้าไปในบริเวณที่ตกแต่งอย่างสวยงาม บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน
เราจ่ายค่าบัตรผ่านประตูคนละ 20 บาทเฉพาะผู้ใหญ่ 3 คนค่ะ ส่วนเด็กๆ เป็นของแถม พนักงานสาวยื่นบัตรเข้าชมที่ออกแบบให้เป็นที่คั่นหนังสือให้พร้อมกับบอกว่า พอชมเสร็จแล้ว ให้เอาบัตรไปที่ร้านขายของที่ระลึกเพื่อรับโปสการ์ด 1 ใบต่อ 1 บัตรด้วย
ผลงานในหอศิลป์ช่วงที่เรามาชมนั้นมีการแสดงพิเศษ
เป็นผลงานของกลุ่มศิลปินเครื่องปั้นเขลางค์นคร
ซึ่งเป็นชื่อโบราณของจังหวัดลำปางค่ะ โอ๊ย..
ป้าเจี๊ยบคลั่งไคล้เลย
เพราะผลงานแต่ละชิ้นช่างวิจิตรพิศดารไปซะทั้งนั้น
ความที่ชอบปั้นเซรามิคเหมือนกัน
แบบว่ามือสมัครเล่นน่ะค่ะ พอเจอมือโปรจริงๆเข้า
ป้าเจี๊ยบก็ตื่นตาตื่นใจ
กับความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินกลุ่มนี้มากๆ
ซึ่งก็มีชิ้นโปรดจนต้องถ่ายรูปมาเก็บไว้ชื่นชมค่ะ
ชอบตรงที่ศิลปินสามารถทำเครื่องปั้นซ้อนกันสองชั้นโดยที่มีการเคลือบทั้งสองชิ้น
เพราะมันเป็นอะไรที่ทำยากมากสำหรับนักปั้นเซรามิคมือสมัครเล่นอย่างป้าเจี๊ยบค่ะ
อันนี้ไง
คุณวินัยไม่ได้เป็นศิลปินในกลุ่มปฏิมากรนักปั้นหรอกนะคะ เธอเป็นจิตรกรนักวาดค่ะ ภาพของเธอส่วนใหญ่จะจัดแสดงไว้บนชั้นสองของหอศิลป์ ชมแล้วก็เป็นอาหารใจค่ะ
หลังจากเดินชมกันจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว เราก็ไปที่ร้านขายของที่ระลึกเพื่อแลกโปสการ์ดค่ะ สุภาพสตรีในร้านให้เด็กๆ เลือกเองจากโปสการ์ดซึ่งพิมพ์ภาพวาดต่างๆ ฝีมือของคุณวินัย ป้าเจี๊ยบเห็นบทสัมภาษณ์คุณวินัยในหน้า Outlook ของ Bangkok Post ใส่กรอบติดอยู่ตรงทางเข้าร้าน ก็นึกได้ว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เคยลงหน้านี้กะเค้าด้วยเหมือนกัน เป็นผลงานปั้นเซรามิค น่าจะไปค้นหามาใส่กรอบแบบนี้บ้าง ถ้าต้นฉบับนั้นยังไม่กรอบจนป่นไปซะแล้ว!
ระหว่างเดินทางกลับไปขึ้นรถ
เราก็ได้ยินเสียงทักว่า “มาจากไหนกันครับ”
เป็นคุณวินัยนั่นเอง
เราก็เลยแนะนำตัวโดยใช้สิทธิพาดพิงถึงแม่ปุ๊
พอคุณวินัยตอบกลับมาว่า
“เพื่อนกันครับ”
เราก็เลยขอถ่ายรูปกับคุณวินัยเพื่อเอาไปแสดงต่อแม่ปุ๊ว่าได้ทำตามคำแนะนำแล้ว
และขอบคุณที่ทำให้เราได้ประสบการณ์ดีๆ อย่างนี้
รูปนี้ฝีมือของพ่อจ้อยค่ะ
พอขึ้นรถ
น้องแพรก็เอาโปสการ์ดขึ้นมาอวด ปรากฏว่า 1
ในนั้นทำให้ป้าเจี๊ยบเกิดอาการนะจังงังไปเลยค่ะ
เพราะโปสการ์ดที่เป็นภาพวาดชื่อ “Time” ของคุณวินัย
เป็นภาพวาดก้อนหินที่มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับภาพวาด (ด้วยแสง)
ของป้าเจี๊ยบที่ถ่ายไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ
ลองชมดูสิคะ
แม้ว่าคุณวินัยจะวาดภาพนี้ตั้งแต่ปี 1990 ตามที่ระบุไว้ในโปสการ์ด แต่ป้าเจี๊ยบก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนที่ป้าเจี๊ยบถ่ายภาพนี้เมื่อปี 2002 ก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่เดินเล่นอยู่ริมทะเลบนเกาะบูโหลน ตาก็ไปกระทบกับกองหินสวยสะดุดตา ซึ่งคงมีนักท่องเที่ยวไปเก็บมากองๆไว้ โดนใจมากก็เลยจับมาถ่ายรูปเก็บไว้ดู
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ป้าเจี๊ยบเชื่อแล้วค่ะว่า หลายสิ่งหลายอย่างในโลกที่เกิดขึ้นอาจเหมือนหรือคล้ายกันได้ โดยที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบใคร...
สวัสดีค่ะป้าเจี๊ยบ
ทั้งภาพถ่ายและภาพวาดก้อนหิน สวยมากๆค่ะ ...เคยไปน่านค่ะเมื่อ 5-6 ปี ที่แล้ว ประทับใจความเงียบสงบของเมือง และความสวยงามของวัดค่ะ
มาชวนป้าเจี๊ยบ เข้าร่วมงาน รวมพลเฮฮาศาสตร์ ที่สวนป่าของท่านครูบาสุทธินันท์ค่ะ รายละเอียดดูที่นี่ค่ะ
ชวนน้องแพรและแพทริคมาด้วยซิค่ะ งานนี้เด็กๆตามคุณพ่อคุณแม่มากันด้วยค่ะ...มีสัตว์ มีพืช มีธรรมชาติพร้อมค่ะ
สวัสดีค่ะป้าเจี๊ยบ..นู่ก็ชื่อเจี๊ยบเหมือนกัน เกิดที่อุบลฯ แต่แม่เป็นคนน่าน ก็เลยได้ย้ายมาเรียนหนังสือและเติบโตที่น่าน ปัจจุบันครอบครัวเราทำธุรกิจด้านMedia รับทำหนังสารคดี Presentation ถ่ายภาพ ออกแบบงานสิ่งพิมพ์ หลายอย่าง เรากำลังถ่ายทำสารคดีของหอศิลป์ริมน่าน เพื่อให้เป็นของขวัญสำหรับอ.วินัย ปราบริปู ก็ใช้เวลาเก็บภาพ รายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ นานถึง 3 ปี ซึ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ในวันเสาร์ที่
2 สิงหาคม 51 หอศิลป์ริมน่าน ก็จะมีงานนิทรรศการภาพเขียนถึง 2 งาน ได้ข่าวว่า คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรท์จะมาร่วมงานด้วย ถ้ามีโอกาสอยากให้ป้าเจี๊ยบกลับมาชมความเปลี่ยนแปลงของหอศิลป์อีกนะคะ...