การทำ indirect restoration เช่น ทำครอบฟัน ทำสะพานฟัน, Inlays Onlays, veneers, post and cores และ orthodentic appliance
การบรรยายส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์จากการทำงานด้านนี้ที่ผ่านมามากกว่าการบรรยายความรู้พื้นฐาน ซึ่งก็พอจะรวบรวมเพื่อเล่าสู่กันฟังได้ดังนี้
1. ก่อนตัดสินใจทำ restoration ควรตรวจดูสภาพช่องปากโดยทั่วไปให้ละเอียด เช่น สภาพของเหงือก, สภาพของฟันซี่นั้น และฟันข้างเคียง, การสบฟัน ควรซักประวัติโรคประจำตัวให้ละเอียด, ประวัติการแพ้ยาหรือสารเคมีต่าง ๆ
2. การวางแผนการรักษา ควรอธิบายให้ผู้ป่วยทราบให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งขั้นตอนการรักษา ราคา และผลที่เกิดจากการรักษา อายุการใช้งาน และผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น และควรให้ผู้ป่วยเซ็นรับทราบ เพื่อป้องกันการฟ้องร้องได้
3. การเลือกสีฟัน ควรซักประวัติให้ละเอียดมาประกอบการเลือกสีด้วย เช่น อาชีพ และควรถามผู้ป่วยว่าชอบสีที่เลือกหรือเปล่า จากนั้นให้สังเกตลักษณะสีหรือรายละเอียดของฟันแต่ละซี่ ทั้งรูปร่าง สีสัน ความใส เท่าที่จะสังเกตได้ หรืออาจจะถ่ายรูป ทั้งด้านหน้าตรง และด้านข้าง เพื่อดูความโค้งนูนของตัวฟันด้วย และการถ่ายรูปควรให้พื้นหลังเป็นสีดำ เพื่อจะได้เห็นฟันชัดเจน
4. การกรอแต่งฟัน
- การแต่ง margin ถ้าเป็น chamfer margin ความหนาไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของปลายของหัวเบอร์
- การทำเป็น extended margin ควรระมัดระวังเพราะปลายสุด margin อาจจะไม่แนบกับตัวฟัน เพราะมีการหดตัวของโลหะ และ porcelain ดังนั้นจึงควรกรอของให้มีเนื้อที่ของโลหะและ porcelain เพียงพอ
- ตำแหน่ง margin ไม่ควรไปรบกวน biologic width ของเหงือก เพราะจะทำให้ทำความสะอาดยาก และทำลายเหงือก อาจจะทำให้เหงือกอักเสบได้ง่าย
- ควรกรอแต่งให้มีเนื้อที่ของวัสดุเพียงพอ เพื่อลดผลเสียที่จะเกิดตามมาทีหลัง เช่นporelain แตก โลหะทะลุ เป็นต้น
5. การตรวจเช็คการสบฟัน ในฟันปลอมติดแน่น ควรใช้กระดาษเช็ดการกัดสบชนิดบาง จะช่วยให้การกรอแต่งการสบฟันได้ถูกต้องละเอียดมากขึ้น และควรใช้ชิมสตอคตรวจเช็คโดยการวางแผ่นชิมสตอคบริเวณกัดสบด้านหลัง และให้ผู้ป่วยกัด แล้วสังเกตว่าสามารถดึงผ่านได้ดี ไหม จากนั้นนำมาวางบริเวณด้านหน้า พบว่ากัดแล้วติด ไม่สามารถผ่านได้ก็แสดงว่าด้านหน้ายังมีสูงอยู่ จึงควรกรอแต่งด้านหน้าให้มีจุดสูงลดลง จนสามารถลากผ่านได้เหมือนกันทั้งหน้าและหลัง
6. การเลือกซีเมนต์ ในการยึดติดแน่นฟันปลอม
ปัจจุบันนี้มีการพัฒนาวัสดุในการยึดติดตัวฟัน และตัวครอบฟันมากขึ้น โดยคุณสมบัติที่ ทันตแพทย์ต้องการ เช่น สามารถซีลขอบได้แนบสนิท ไม่มีการรั่วซึม แม้กระทั่งชนิดเล็ก ๆ ก็ตาม ไม่มีอาการเสียวฟัน ภายหลังการยึดติด
สามารถง่ายในการผสม สัดส่วนแน่นอนชัดเจน ไม่มีผลเสียต่อเนื้อเยื่อฟันหรือเหงือก สำหรับซีเมนต์ชนิดที่พัฒนามาล่าสุดคือ เรซินซีเมนต์ ซึ่งได้พัฒนาให้คุณสมบัติการยึดอยู่กับตัวฟันดีมาก และความเป็นด่างจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายหลังการผสม PH จาก 1 เป็น 5 ภายใน 5 นาที แรก ทำให้ไม่มีอาการเสียวฟัน ภายหลังการยึดติดซีเมนต์
สำหรับ glassionomer cement นั้นจะต้องผสมด้วยสัดส่วนที่ถูกต้อง และควบคุมน้ำลายให้ดีมาก ๆ เพราะอาจจะทำให้มีอาการเสียวฟันหลังการยึดติดได้ หากมีอาการเสียวฟันดังกล่าว อาจจะต้องผ่าครอบฟันออก จึงจะหายได้ แต่ข้อดีของซีเมนต์ชนิดนี้คือมีการปล่อยฟลูออไรด์ออกมาด้วย อาจจะช่วยป้องกันฟันผุได้
7. การดูแลฟันปลอมติดแน่น ภายหลังการรักษา ควรแนะนำให้ผู้ป่วยได้ใช้เส้นไหมขัดซอกฟัน และการระมัดระวังในการใช้งาน หากเป็นฟันปลอมที่ทำด้วยพอสเลนก็ไม่ควรใช้กัดอาหารแข็ง ๆ เพราะจะทำให้แตกได้ ที่สำคัญควรมาตรวจเช็คสุขภาพฟันทุก 6 เดือน