นิสิตฝึกงานจาก ม.นเรศวร


วันสุดท้ายที่ฝึกงาน จะเป็นการตอบตนเองว่าได้กับที่คาดหวังหรือเปล่า (action after review:AAR)

               ช่วงตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน - 25 พฤษภาคม นี้ มีน้องนิสิตเภสัช จากมหาวิทยาลัยนเรศวร 2 คนคือ น้อง ภัทระ และ วรพล มาฝึกงานที่โรงพยาบาลครับ น้องทั้งสองคนเป็นน้องหลักสูตร Pharm D ที่ต้องเรียน 6 ปี ความของผมคาดหวังเลยต่างจากมหาลัยอื่นนิดหนึ่งนะครับ เรื่องทักษาะด้าน pharm-care ของน้อง ในวันแรกที่เจอกันผมเลยบอกความคาดหวังนี้ออกไป แต่น้องกลับยิ้มๆแบบไม่แน่ใจ ซึ่งผมไม่ได้จริงจังขนาดนั้นนะครับว่าต้องเก่ง เด่นดี กว่าที่อื่นๆ เพียงแต่ว่า ก่อนฝึกงานทุกครั้งเรามักจะถามความคาดหวังก่อนเสมอ เพื่อที่ว่าในวันสุดท้ายที่ฝึกงาน จะเป็นการตอบตนเองว่าได้กับที่คาดหวังหรือเปล่า (action after review:AAR)
       ผมบอกน้องไปว่า อะไรที่ไม่รู้ก็ต้องบอกว่าไม่รู้ แต่ต้องหาความรู้มา ซึ่งทักษะ DIS สำคัญมาก และสามารถใช้ได้ตลอดชีวิตด้วย ทั้งตอนเรียน ตอนทำงาน

ผมยังบอกว่าการไม่รู้แล้วถามดีกว่าคาดเดาและตอบแบบสุ่มๆครับ เพราะตอนเราเป็นนักเรียน การไม่รู้ พี่ยังเอ็นดูในความน่ารัก ของการเป็นนักเรียน แต่หลังจากนนี้...ต้องพิจารณอีกที

แล้วจะมาเล่าต่อนะครับ  ว่าน้องๆ สอนอะไรเรามั่ง

คำสำคัญ (Tags): #เภสัชกร
หมายเลขบันทึก: 92523เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2007 20:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 07:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะท่าน  Anek Thanonghan  

  • ครูอ้อยเคยมีน้องบรรจุใหม่แบบจบมาหมาดๆ   มาเริ่มสอน  ท่าน ผอ.ให้มาอยู่ในความดูแลของครูอ้อยถึง 2 คน  ไม่เลี่ยกัน 2 ปีซ้อน
  • ถามว่าหนักใจไหม...ก็ต้องบอกสอนไป..หากจะดีจะเก่ง  หรือจะอดทนแค่ไหน...ก็สุดแล้วแต่อุปนิสัยดั้งเดิมของเธอล่ะค่ะ
  • แต่ครูอ้อยก็ให้คะแนนเธอผ่านไปแล้วค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ..ครูอ้อยอาจจะตอบไม่ตรงประเด็นนะคะ

ขอบคุณครูอ้อยนะครับ ที่ทักทาย และแบ่งประสบการณ์ดีๆให้ครับ

เห็นด้วยครับกับที่ว่า จะเป็นอย่างไร ก็ต้องแล้วแต่อุปนิสัยดั้งเดิมด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท