อาสาสร้างสุขกับตึกศัลยกรรมเด็กโต ครั้งที่ 5


ความรักที่ได้จากผู้อื่น คงยังไม่เพียงพอเท่ากับความรักที่ได้จากคนในครอบครัวของตนเอง

     วันนี้ฉันเดินท่ามกลางแสงแดดที่ปล่อยไอร้อนลงมาทุกพื้นที่ เพื่อไปเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบลเด็ก ความร่าเริงขอฉันลดลงกว่าครึ่ง แต่เมื่อหันไปมองน้องๆอาสาสมัครที่มาด้วยกันแล้วก็ต้องเพิ่มความร่าเริงให้เกิดกับตัวเองอีกครั้ง เพราะฉันสังเกตเห็นว่าอาสาสมัครคนอื่นๆ เริ่มเกิดภาวะทางอารมณ์ที่ค่อนข้างซีเรียสและเบื่อหน่ายกันแล้ว บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมฉันยังคงร่าเริงอยู่ได้คำตอบง่ายมากคือ ฉันเป็นคนมาสร้างสุข ถ้ามัวแต่อมทุกข์ความสุขคงเกิดขึ้นไม่ได้ ฉันจึงต้องมีรอยยิ้มแปะไว้บนใบหน้าอยู่เสมอ นั่นคือคำตอบที่แสนง่ายของฉัน


      ฉันเจอกับน้องพลอยเป็นคนแรก ดูน้องพลอยแข็งแรงขึ้นมาก ทักฉันด้วยน้ำเสียงสดใส ร่าเริง พร้อมบอกว่าจะได้กลับบ้านวันนี้แล้ว ฉันรู้สึกดีใจไปกับน้องพลอยด้วยที่จะได้กลับบ้านซะที เพราะน้องพลอยอยู่โรงพยาบาลมาเป็นเดือนแล้ว วันนี้น้องพลอยจึงไม่ได้ทำกิจกรรมกับฉัน แต่กลายมาเป็นอาสาสมัครร่วมกับฉันแทน ซึ่งน้องพลอยช่วยเข้าไปพูดคุยและเล่นกับน้องเฟิร์น ช่วยเขย่าเตียงให้น้องเฟิร์นนอนหลับ จนกระทั่งแม่น้องพลอยมารับกลับบ้านน้องพลอยจึงได้ขอตัวกลับก่อน ภาพที่ฉันเห็นและรู้สึกประทับใจมากก็คือเมื่อแม่น้องพลอยมาถึงก็เข้าไปกอดและหอมแก้มคล้ายเป็นการปลอบขวัญ มองดูแล้วอบอุ่นดี จากนั้นน้องพลอยก็ลากลับไป ฉันคงไม่ได้เจอน้องพลอยที่เตียงคนไข้อีกแล้วและหวังว่าน้องพลอยคงจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น แล้วฉันก็กลับไปนั่งคุยกับน้องใบเฟิร์นต่อ วันนี้น้องใบเฟิร์นก็ดูอารมณ์ดีเช่นกัน แต่ด้านร่างกายดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะน้องเฟิร์นมีสายเสียบอยู่ที่รูจมูกและมีสายน้ำเกลือที่แขนด้วย น้องเฟิร์นบอกว่าหมอไม่ให้กินอะไรเลย ซึ่งก่อนฉันมาไม่นานหมอเพิ่งอนุญาติให้น้องเฟิร์นกินน้ำกับลูกอมได้ น้องเฟิร์นยอมให้อาสาสมัครเข้าใกล้ได้อย่างคุ้นเคยแล้ว ฉันถามน้องเฟิร์นว่าชอบพี่อาสาสมัครคนนี้มั้ย น้องบอกว่าชอบ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนน้องเฟิร์นจะส่ยหน้าและบอกว่าไม่ชอบ โกรธ ประมาณนั้น  ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงสำหรับความรู้สึกของน้องเฟิร์นที่มีต่ออาสาสมัครเป็นอย่างมาก ฉันจึงให้สมุดบันทึกน้องเฟิร์นไว้หนึ่งเล่ม เพื่อเขียนสิ่งที่น้องเฟิร์นอยากจะเขียน แต่น้องเฟิร์นยังเขียนหนังสือไม่ค่อยได้และไม่ค่อยจะมีแรงสักเท่าไหร่ ดังนั้นเวลาอยากจะเขียนอะไรก็จะให้อาสาสมัครช่วยจับมือเขียนให้  คำแรกที่น้องเฟิร์นเขียนก็คือ น้องเฟิร์นรักแม่ใจ ฉันเห็นแล้วสามารถรับรู้ได้ว่ามันเป็นเสียงสะท้อนจากความต้องการความรัก ความอบอุ่น การเอาใจใส่ดูแลจากครอบครัวของน้องเฟิร์นเอง


      ฉันมองไปทางห้องของน้องป๊อปก็เห็นว่าน้องป๊อปมองมาทางฉันคล้ายกับจะบอกว่าเมื่อไหร่จะเดินไปหาซะที เมื่อฉันเคุยกัดินไปหาน้องป๊อปก็รีบลงจากเตียงมาดึงแขนฉันและรายงานถึงหนังสือที่ฉันเอามาให้อ่านเมื่อครั้งก่อนว่า อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ อ่านแล้วงง ฉันเลยอธิบายเนื้อหาให้น้องป๊อปฟังอีกครั้งแต่ป๊อปก็ยังไม่เข้าใจ ฉันจึงคิดว่ามันคงจะเร็วไปถ้าเอาหนังสือที่มีเนื้อหามากเกินไปมาให้อ่าน น้องป๊อปเลยบอกว่าอยากอ่านการ์ตูนมากกว่า เพราะสนุก ฉันจึงเก็บประเด็นเรื่องหนังสือนี้ไว้เป็นข้อคิดว่าต้องหาหนังสือที่เหมาะสมกับเด็กให้มากกว่านี้ จากนั้นฉันก็เอาสมุดบันทึกกับปากกาที่สัญญาไว้กับน้องป๊อปเมื่อครั้งที่แล้วออกมาให้ น้องป๊อปดีใจมากแต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าแล้วจะเขียนอย่างไร เขียนแบบไหน ซึ่งน้องป๊อปยังไม่เคยเขียนบันทึกจึงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ฉันอธิบายให้น้องป๊อปฟังอยู่หลายรอบแต่น้องป๊อปก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ฉันเริ่มสงวสัยว่าฉันอธิบายไม่เข้าใจเองหรือน้องป๊อปมีกระบวนการคิดและทำความเข้าใจลดลง แล้วฉันก็ได้เข้าใจในทันทีเมื่อน้องป๊อปบอกกับฉันว่า ตั้งแต่น้องป๊อปมาอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งก็เป็นเดือนๆแล้ว ทำให้ป๊อปไม่ค่อยเข้าใจอะไรหลายอย่างและคิดช้าลง เพราะต้องนอนอยู่บนเตียงและรับการรักษา จึงไม่ค่อยได้พัฒนาด้านทักษะความคิดเท่าไหร่ ซึ่งน้องป๊อปพึ่งจะอยู่แค่ชั้นป.5เท่านั้น ฟังดูแล้วค่อนข้างเศร้าทีเดียว แต่น้องป๊อปก็ยังคงเป็นเด็กที่ร่าเริงเสมอ ทุกครั้งที่ฉันได้เจอน้องป๊อป อาสาสมัครอีกคนที่มากับฉันจึงตั้งโจทย์ให้น้องป๊อปฝึกทักษะในการคำนวณเลข ซึ่งน้องป๊อปก็ดูจะสนุกกับการได้ลองหัดคิดคำนวณไม่น้อย แต่จากที่สังเกตน้องป๊อปจะค่อนข้างเหนื่อยง่ายหากต้องใช้ความคิดเยอะ ซึ่งนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องป๊อปเป็นคนคิดค่อนข้างช้า ดังนั้นผู้อธิบายจึงต้องอธิบายให้ช้าๆและชัดเจน เพื่อให้น้องสามารถคิดได้ทัน ซึ่งฉันใช้การสังเกตนี้เองนำมาปรับใช้ในการอธิบายเรื่องการเขียนบันทึกใหม่ และก็ได้ผลเป็นอย่างดี น้องป๊อปบอกว่าจะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจมาก แต่ก็ต้องกลับมาอีกในอาทิตย์หน้า เพื่อฟังผลจากการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ฉันกับแม่น้องป๊อปต่างก็หวัเช่นกันว่าอย่าให้เป็นอะไรมากเลย แม่น้องป๊อปบอกว่ากลับมาคราวหน้าอาจไม่ได้มาเฝ้า เพราะต้องทำงาน น้องป๊อปก้มหน้ารับฟังพร้อมกับบอกว่าไม่เป็นไร อยู่ได้สบายมาก แต่ฉันว่าความรู้สึกจริงๆคงไม่เป็นเช่นนั้นแน่ๆ เหมือนว่าคำพูดเป็นเพียงแค่สิ่งปลอบใจเท่านั้น วันนี้ในห้องน้องป๊อปมีเด็กที่เพิ่งมาใหม่อยู่หลายคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชายวัยกำลังซน สิ่งที่ฉันแปลกใจคือหลังจากที่ฉันเข้าไปทำความคุ้นเคยได้ไม่นาน เด็กก็จะเข้ามาพูดคุยและเล่นกับฉันเอง ซึ่งเด็กจะลงจากเตียงมาหาเองเลย ฉันแปลกใจตรงที่เป็นเด็กผู้ชายนี่แหละ เพราะส่วนใหญ่เด็กผู้ชายจะค่อนข้างเขินเวลามีอาสาสมัครผู้หญิงเข้าไปคุยด้วยและจะไม่ค่อยกล้าทำกิจกรรมเท่าไหร่ แต่วันนี้เด็กๆกับเข้าหาอาสาสมัครเองและมีความต้องการสูงในการทำกิจกรรม มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อน้องแม็ก เค้าจะเดินไม่ค่อยถนัดนัก น้องแม็กชอบระบายสีภาพมากและระบายได้เร็ว หากน้องแม็กระบายสีเสร็จแล้วและเผอิญว่าฉันอยู่เตียงอื่น น้องแม็กก็จะใช้รถบังคับมาคอยเรียกฉันแทนการเดินมาหา สิ่งนี้นมันทำให้คนในห้องพากันอมยิ้มไปกับความฉลาดของน้องแม็กเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกมีควมสุขและสนุกไปกับเด็กๆด้วย


       วันนี้สำหรับฉันถือเป็นวันที่สนุกและมีความสุขอีกหนึ่งวันของการมาเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาล เด็กและผู้ปกครงก็มีความสุขไปด้วย ฉันสังเกตอย่างหนึ่งว่าเวลาที่ฉันไปหาน้องป๊อปทีไร แม่น้องป๊อปก็จปล่อยให้น้องป๊อปอยู่กับฉันตามลำพังทุกครั้ง ขนาดน้องป๊อปเองยังบอกเลยว่า เวลาพี่มาทีไรแม่หนูต้องออกไปข้างนอกทุกที ฉันไม่ได้หมายความว่าแม่น้องป๊อปรังเกียจอาสาสมัครนะ แต่มันหมายถึงว่าแม่น้องป๊อปวมีความไว้วางใจในตัวอาสาสมัครอย่างมาก จึงทำให้แม่น้องป๊อปมีเวลาที่จะไปทำอย่างอื่นเพิ่มมากขึ้นด้วย เช่นได้ไปซื้อของ ทำธุระส่วนตัวด้วยความสบายใจไม่ต้องคอยกังวลว่าน้องป๊อปจะต้องอยู่คนเดียว ถือว่าเป็นการช่วยให้แม่น้องป๊อปเกิดความผ่อนคลายลงไปด้วย ถ้าสามารถทำให้ผู้ปกครองท่านอื่นไว้วางใจอาสาสมัครได้อย่างเต็มที่เหมือนกับที่แม่ของน้องป๊อปไว้วางใจได้ก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งเหล่าอาสาสมัครก็คงต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับเด็ก ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ต่อไป

หมายเลขบันทึก: 92342เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2007 10:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท