9 มีนาคม 2550
วันนี้ดูแลผู้ป่วยเด็กคนหนึ่งซึ่งเป็นป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แพทย์เจ้าของไข้โทรศัพท์มาบอกว่าให้ช่วยรักษาให้เสร้จสิ้นเพราะจะให้ผู้ป่วยกลับบ้านวันนี้
หลังจากตรวจสภาพในช่องปาก พบว่ามีฟันต้องถอน 2 ซี่ อยู่ด้านล่างซ้าย 1 ซี่ ด้านขวา 1 ซี่ ปกติแล้วการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ เรื่องเลือดออกไม่หยุดหลังการถอนฟัน แม่ของเด็กถามว่า ถอน 2 ซี่ได้ไหม ? ฉันตอบว่า ขอถอนดู 1 ซี่ก่อน ถ้าเด็กให้ความร่วมมือดีและไม่ทรมานมากนัก หรือไม่มีเลือดออกมาก ก็อาจจะทำได้
เด็กไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไรนัก ร้องไห้ และขยับศีรษะบ่อยมาก อย่างที่บอกว่าเราต้องระวังไม่ให้เกิดบาดแผลมากเพื่อลดการที่เลือดไหลไม่หยุด แต่บังเอิญว่าตัวฟันเปื่อยยุ่ยหมดแล้ว และส่วนของรากฟันก็อาจจะถอนยากถ้าเด็กไม่นิ่ง ต้องช่วยกันจับมัดเด็กให้นิ่งที่สุด รายนี้อนุญาตให้แม่นั่งจับมือ, ขา เด็กได้ เพราะงอแงต้องการแม่ อีกอย่างการที่เด็กไม่นิ่งอาจทำให้เศษฟันตกลงไปในลำคอหรือหลอดลมได้ พยายามเอาผ้าก๊อซกั้นไว้ก็พอช่วยได้บ้าง เมื่อถอนรากหนึ่งออกไปแล้ว เหลืออีกรากที่แนบสนิทกับหน่อฟันแท้ ทำให้ถอนลำบาก ยิ่งถ้าเด็กขยับศีรษะบ่อยอาจทำให้โดนหน่อฟันแท้ได้ ทำให้เครียดพอสมควร
ทันใดนั้นได้ชักไพ่ใบเก่าที่ทิ้งไปนานหลายปีขึ้นมา บอกกับเด็กว่า “เงียบ” และนิ่งที่สุดห้ามขยับศีรษะ พร้อมทั้งปฏิบัติการเอามือปิดจมูกและปาก แม่เด็กรีบบอกกับลูกว่า “หยุดร้องนะ หมอโกรธแล้วนะ” เด็กยังร้องไม่หยุด ว่าแล้วก็มีคุณหมอคนเก่งแวะมาดู โดยอาสาช่วยถอนฟันโดยเราเองเป็นผู้ช่วยแทน ทำหน้าที่เอาก๊อซกั้นที่ลำคอและใช้ท่อดูดน้ำลายจ่อไว้ที่เศษฟัน คือ ถ้าแคะหลุดมาก็ดูดทันที ในที่สุดก็เอารากฟันแท้ออกมาได้โดยที่หน่อฟันแท้ขยับเล็กน้อย
เหมือนแม่เด็กจะรู้คำตอบว่า “ถอนซี่เดียวก็พอแล้ว” ฉันจึงบอกกับแม่เด็กว่า ขอถอนฟันเพียง 1 ซี่ เพราะจะได้ให้เด็กเคี้ยวอาหารทางด้านขวา ไม่เช่นนั้นเด็กจะลำบากในการรับประทานอาหารมาก เราไม่ต้องการให้มีแรงใด ๆ มาโดนหน่อฟันแท้ที่กำลังจะโผล่ขึ้นมา อีกอย่างเราต้องการตามดูอาการเลือดออกไม่หยุดหลังการถอนฟันด้วย เพราะถ้ากลับบ้านไปแล้วจะกลับเข้ามาคงลำบาก เพราะอาจมีปัญหาเรื่องเตียงเต็มก็ได้ แม่เด็กจึงพอใจกับเหตุผลว่าทำไมถอนฟันเพียง 1 ซี่ และทำไมต้องนอนโรงพยาบาลต่อเพื่อมาถอนวันจันทร์อีก 1 ซี่
จบการถอนฟันแล้ว ได้เน้นย้ำกับแม่และเด็กว่า ต่อไปนี้ไม่ควรกินลูกอม ขนมซอง หรือน้ำหวาน อาหารเหนียว ๆ ที่ติดฟันได้ง่าย หากกินแล้วควรบ้วนปากหรือแปรงฟันทันที ประการที่สอง ให้แม่แปรงฟันให้เด็กก่อนนอนทุกคืน
ฉันย้อนนึกถึงอาการเอามือปิดจมูกและปาก แล้วสั่งให้เงียบ เป็นเทคนิคสุดท้ายที่ใช้ในการจัดการกับเด็กที่ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาโดยส่วนตัวแล้วจะไม่ชอบใช้วิธีนี้ และได้ทิ้งไปนานมากแล้ว ทำไมถึงหยิบมาใช้ ประการแรก คงเป็นเพราะเรากลัวฟันจะหลุดเข้าคอ และกลัวจะไปโดนหน่อฟันแท้ที่กำลังแคะราก เนื่องจากเด็กร้อง และไม่ฟัง จึงต้องพูดเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ผลต้องมีตัวช่วยอื่นประกอบ ความรู้สึกหลังปฏิบัติการ รู้สึกเสียใจที่ใช้วิทยายุทธ์ขั้นสุดท้ายด้วยความโกรธเล็กน้อย แต่เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและฟัน ทำให้เราเสียความรู้สึกของตนเองไปบ้างคงไม่เป็นไร ดีกว่าให้ฟันหรือชีวิตเขาเสียไป แต่ขอบอกว่าใช้เป็นไม้สุดท้ายจริง ๆ
การกระทำที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการตื่นรู้เพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น ซึ่งเป็นค่านิยมหลักของโรงพยาบาล “จิตสำนึกของความปลอดภัย” นั่นเอง
อ่านแล้วอึ้งค่ะ สงสารหมอหลองจัง สถานการณ์แบบนี้เป็นเครื่องพิสูจน์การตัดสินใจจริงๆค่ะ สงสัยว่าหนูน้อยคนนี้อายุเท่าไหร่คะ และ "คุณหมอคนเก่ง-พระเอกหรือนางเอกม้าขาว" ก็ถอนไปทั้งๆที่หนูน้อยยังทำฤทธิ์อยู่หรือเปล่าคะ และทำได้เพราะมีหมอหลองเป็นผู้ช่วยใช่ไหม
และคำถามสุดท้ายคือ ถ้าไม่มีพระเอกขี่ม้าขาวมาเป็นคุณหมอคนเก่ง เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรคะ
ขอบคุณที่นำเรื่องที่น่าจะเป็นบทเรียนให้พวกเราหลายๆคนได้มาเล่าต่อนะคะ คิดว่าหมอหลองทำได้ดีที่สุดแล้ว ความตั้งใจดีคือจุดที่สำคัญที่สุดค่ะ การแสดงออกสามารถแปลได้หลายอย่าง เราไม่สามารถจะทำให้ใครเข้าใจความตั้งใจของเราได้เสมอไป แต่การบอกเล่าสิ่งที่เราคิด ทำให้คนอ่านเข้าใจเวลาเราเห็น "คุณหมอโกรธ" ได้ดีขึ้นแน่ๆค่ะ
อายุประมาณ หกขวบแต่แรงเยอะมาก เขาน่าสงสาร
หากไม่มีพระเอกมาช่วยคงต้องเหนื่อยกันอีกนานค่ะ
ขอบคุณที่เข้าใจความโกรธของหมอค่ะ