KM ภาครัฐ ดูงานปูนซีเมนต์ไทย ...รู้ว่าไกลสุดเอื้อม....


มองให้ใกล้...ปรับใช้ให้เป็น....

      1. การไปดูงานของ ปูนซีเมนต์ไทยซึ่งถือว่าเป็น best  practice แห่งหนึ่งของภาคเอกชน ซึ่ง KM ของปูนซีเมนต์ไทยต้องยอมรับว่าเยี่ยมมากซึ่งประสบความสำเร็จในการบริหารการจัดการความรู้ในองค์กร อย่างมีประสิทธิภาพและมีขั้นตอนที่เป็นแผนทางกลยุทธ์เยี่ยมทุกส่วนขององค์กร ซึ่งผู้บริหาร CEO มีบทบาทในการส่งเสริมและผลักดัน Visson  ทำให้องค์กรแต่ละส่วนซึ่งมีกระจัดกระจายอยู่ในส่วนต่างๆทั่วประเทศ สัมฤทธิ์ผลซึ่งการบริหารจัดการในลักษณะนี้นั้นทำได้ยากแต่ปูนซีเมนต์ไทย ทำได้ดีน่าทึ่ง

      2. มีการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานคิดค้นผลงานใหม่ๆ มีเวทีให้นำเสนอผลงานและมีการชมอย่างเดียว(ห้ามติ) เพื่อให้กำลังใจซึ่งมีผู้บริหารรับรู้ในงานที่เขาทำ ผลงานชิ้นไหนที่ดีก็จะได้รับรางวัล ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็สร้างความภาคภูมิใจให้แก่พนักงาน ทำให้เกิดชิ้นงานใหม่ๆเกิดขึ้น งานชิ้นไหนที่มีประโยชน์ก็จะกระจายงานชิ้นนั้นไปยังงานทุกส่วนเพื่อนำไปใช้ต่อไป มีการส่งเสริมการเรียนรู้แบบพื้นฐานขององค์กรและการเรียนรู้ด้วยตนเองของพนักงาน แต่ในส่วนนี้เทคโนโลยีมีส่วนช่วยมาก และอุปกรณ์ทุกอย่างก็มีพร้อมเพรียงในการเอื้อให้เกิดการเรียนรู้

       3. หันกลับมาดูองค์กรภาครัฐ  งบประมาณเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาองค์กร เช่น การจะเอาเทคโนโลยีต่างๆมาช่วยเช่น คอมพิวเตอร์ ระบบอิเลคโทนิคต่างๆ ก็มีข้อจำกัด มีน้อยไม่พอเพียงที่จะให้พนักงานได้ใช้เพื่อเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นๆ บางแห่งขาดองค์ประกอบหลายอย่างทั้งคนที่มีความรู้ความชำนาญด้านต่างๆ มาคอยประสานงานหรือกระตุ้นให้บุคลากรตื่นตัวในการเรียนรู้ และสร้างจิตสำนึกให้รักองค์กร และรู้เป้าหมาย Vission ขององค์กรกันทุกคน และรู้ว่าควรจะร่วมมือกันอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้

     4. ผู้นำมีส่วนสำคัญมาก  ผู้นำของภาครัฐ มักจะมีงานล้นมือ จนไม่ให้ความสำคัญด้าน KM เท่าที่ควร เมื่อผู้นำไม่กระตือรือร้น ก็ทำให้ส่วนต่างๆ ก็ขาดความมั่นใจในการเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย

      5. ...มองให้ไกล  ไปให้ถึง....เมื่อไปมองปูนซีเมนต์ไทยแล้ว ทำให้รุ้ว่าภาครัฐอย่างเรา คงไปถึงยากเต็มที ทุกอย่างติดขัดทั้งงบประมาณและการสนับสนุน ทำให้งานที่ทำก็ชะงักและขาดกำลังใจ

     6. ....มองให้ใกล้  ปรับใช้ให้เป็น....คงจะเป็นแนวทางของภาครัฐที่ต้องใช้สิ่งที่มีอยู่ให้คุ้มค่า มองรอบๆแล้วก็คิดว่าสิ่งไหนบ้างที่จะนำมาปรับใช้ให้งานเกิดประสิทธิภาพสุงสุดในเทคโนโลยีที่จำกัด และแรงใจความเป็นหนึ่งเดียวของบุคลากร ที่ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อมุ่งมั่นเป็นหนึ่ง ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการความรู้ในสภาพที่ให้องค์กรของรัฐสามารถเอื้อมถึงได้.

     

หมายเลขบันทึก: 91503เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2007 19:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท