ความลึกลับ ในความสับสนและซับซ้อน


วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับสิ่งลึกลับที่ไม่มีใครเคยใส่ใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเรื่องหนึ่ง

ความลึกลับ ในความสับสนและซับซ้อนหลังจากที่เราได้พูดเกี่ยวกับทัศนคติ (attitude) ที่มีต่อภาษาอังกฤษกันไปแล้ว วันนี้ผมจะพูดเกี่ยวกับสิ่งลึกลับที่ไม่มีใครเคยใส่ใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเรื่องหนึ่ง หรือมีคนใส่ใจแต่ไม่มีใครรู้จะจัดการอย่างไรกับมัน เราเรียกมันว่า complexity (ความซับซ้อนของโครงสร้างภาษา)กรณีศึกษาปรีชาพูดกับฝรั่งได้คล่องแคล่วสื่อสารกับฝรั่งได้ จึงอยากอ่านภาษาอังกฤษเก่งๆเลยคิดว่าต้องอ่านหนังสือพิมพ์  เมื่อเปิดดูก็ พบศัพท์มากมาย แต่ปรีชาไม่กลัวเพราะมี พจนานุกรมดิจิตอลทั้งเร็วและคล่อง โดยคิดว่าถ้ารู้ศัพท์ทั้งหมดแล้วจะอ่านออก  แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะทั้งที่รู้ความหมายทั้งหมด แต่ก็ยังแปลไม่ออก  (อาจเลือกความหมายผิด ดูเปิดพจนานุกรมแล้วทำไมแปลไม่ออก) ถึงความหมายถูกทุกอย่างก็ แปลไม่ออก มันเกิดอะไรขึ้นกับปรีชา        คนส่วนมากเข้าใจว่าความหมายในภาษาอังกฤษมาจากศัพท์  จึงเปิดแต่พจนานุกรม แต่จริงๆแล้ว ภาษาอังกฤษอาศัยโครงสร้าง บอกความหมายเช่น perfect tense แปลว่า  ได้ (I have learned English for three years ผมได้เรียน อังกฤษมาสามปีแล้ว); passive voice แปลว่า  ถูก (  He was bit by a dog. เขาถูกสุนัขกัด) เพราะไม่มีคำว่า ได้ กับถูกในภาษาอังกฤษ นอกจากนี้สำคัญมากคือความซับซ้อนของโครงสร้างทำให้เราอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง เพราะไม่มีการสอนวิเคราะห์ประโยค ว่าคำอะไร ทำหน้าที่อะไร วางไว้ที่นี้เพราะอะไร ทำให้คำนี้ต้องเปลี่ยนรูปเป็นอะไร  จากข่าวดังภาษาที่ใช้จริง   ( The authentic text )

The student who shot dead at least 30 people at Virginia Tech University was admitted to a mental health unit in late 2005, police have revealed.                        

 Resource: BBC News

โครงสร้างที่มี ความซับซ้อน complexity สูงก็ต้องอ่านโครงสร้างเป็น จึงอ่านออก คนส่วนมากจะแปลนักเรียนก่อน ทั้งๆที่ควรจะแปล ตำรวจได้เปิดเผยว่า.........ก่อน  และบางคนก็ไม่รู้ว่านักเรียนหรือตำรวจถูก admit  ทำให้โครงสร้างง่ายลง ก็อ่านง่ายขึ้น

The simplified text  ภาษาที่ถูกปรับให้ง่าย

The thirty dead students of Virginia Tech University were sent to a mental hospital in 2005, police said. 

แต่สิ่งที่ผมจำได้ตอนเด็กครูสอนแค่

ครู:นักเรียน ท่อง Perfect Tense ให้ครูฟังหน่อยสิ

นักเรียน:เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ยังไม่ดำเนินไปถึงอนาคตครับ

ครู : ดีมาก ดีมากมาก 

 นักเรียน :ขอบคุณครับคุณครู

ครู :เอา Tense ต่อไป 

คำสำคัญ (Tags): #complexity
หมายเลขบันทึก: 91290เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2007 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 18:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ถ้าแยก aspect และ mood ออกมาจาก tense อะไรๆ ต่ออะไรจะชัดเจนขึ้นหรือเปล่า?  หรือว่ายิ่งยากขึ้น?

ผมอ่าน doing grammar แล้วรู้สึกรู้เรื่องขึ้น 

 

 

ถ้าคนแปลคุ้นกับภาษาไทย ก็จะสลับที่ได้อยู่ดี?

"นักเรียน__(ทำโน่นทำนี่)__  ตำรวจเปิดเผยว่า. "

อ่านแต่ภาษาไทย ไม่ต้องดูภาษาอังกฤษ​ ก็น่าจะเกิดความคิดว่า น่าจะย้าย "ตำรวจเปิดเผยว่า" ไปข้างหน้า? 

แต่ถ้าแปลงงๆ ก็อาจจะไม่มี  "ว่า"?

"นักเรียน__(ทำโน่นทำนี่)__,  ตำรวจเปิดเผย"  แบบนี้ก็อาจจะสลับไม่ถูก ถ้าดูแต่ภาษาไทย? หรืออาจจะนึกไม่ออกว่าจะต้องเติม "ว่า" ลงไป?

 ตอบคุณวีร์

P

หวังว่าท่านที่ได้อ่านจะไม่สับสนมาก จริงๆไม่อยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะไม่ค่อยจะสนุกและทำให้ดูว่าภาษามันยาก แต่ที่มีปัญหากันตั้งแต่การอ่าน การเขียน การทำข้อสอบ TOEFL ก็เพราะเรื่องนี้

คิดว่าคำว่า aspect ที่คุณใช้หมายถึง รูปแบบต่างหรือ form ต่างๆของการใช้กริยา(เพราะ คำว่า aspect ไม่ใช่ terminology )  ส่วน mood คือ การแบ่งจำพวกการใช้งานของกริยา Indicative Mood, Imperative Mood และ Subjuctive Mood.  Tense ทั้ง 12 tense เป็น Indicative ทั้งหมด บางส่วนเป็น Imperative แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับ Subjunctive  

ส่วนต่างๆที่พูดนี้เป็นเพียงไวยกรณ์ ที่เป็น form ที่เป็นพื้นฐาน แต่ complexity คือการสร้างสรรค์ของผู้เขียนในการนำความรู้พื้นฐาน มา synthesis ใหม่ มันไม่ใช่แค่การรวมไวยกรณ์เข้าด้วยกัน แต่มันต้องมีความสร้างสรรค์ แน่นอนว่าคนที่ไม่เข้าใจพื้นฐานไวยกรณ์ หรือ โครงสร้างย่อมไม่รู้เรื่องแน่ แต่ถึงแม้เรียน เนื้อหา มาทั้งหมดก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่อ่านเขาประยุกต์อย่างไร

ประโยคข้างบน เป็น complex sentence ที่มี ทั้ง Relative และ เป็นประโยค noun clause แต่ใช้งานเพื่อเป็น Indirect speech 

การอธิบายนี้เป็นแค่พื้นฐาน เราไม่ต้องรู้ก็ได้ถ้าอ่านเพราะบางทีอาจแปลออก แต่ถ้าเขียนเป็นสิ่งที่จำเป็นจุดที่สำคัญเราต้องรู้ว่าทำไมต้องเอา police have revealed มาไว้ข้างหลัง และมันเป็นตัวชี้ให้เราแปลก่อน

* การไม่มีคำว่า''ว่า" แปลได้ดีว่า มี   ตำรวจเปิดเผยว่า

ว่าอะไร จะมีคำถามตามมา ใครจะรู้ว่าเปิดเผยสิ่งที่กล่าวมาตอนต้น (นักเรียน.......)ประโยคนี้โครงสร้างไม่ค่อยซับซ้อนมาก ทุกคนแม้แปลเรียงตัวก็รู้เรื่อง แต่อยากเน้นว่าภาษาอังกฤษไม่เหมือนภาษาไทย เช่นการเอาตำรวจเปิดเผยว่าไปไว้หลังสุด นี่คือ complexity

ทั้ง tense, aspect และ mood ก็เกี่ยวกับ form ของ tense หมดอะครับ แต่ถ้าไม่พิจารณา auxillary verb ก็มีแต่ tense อย่างเดียวที่ทำให้ form เปลี่ยน

 

ปัญหาที่ทำให้ synthesis ออกมาไม่ค่อยดี อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่คล่องไวยากรณ์ไทย? ถ้าคล่องไวยากรณ์ไทยยังไงก็คงรู้ว่า ต้องนำ "ตำรวจเปิดเผยว่า" ไปไว้ข้างหน้า? (โดยไม่ต้องใช้จิตนาการอะไรมาก)

 

complexity เหมือน language divergence หรือเปล่าครับ? 

subjunctive mood ไม่น่าเกี่ยวกับ tense  เช่นการสมมุติในปัจจุบัน present subjunctive แต่กริยาใช้เป็น past ตัวอย่างประโยค  God save the King. ไม่ใช่ ประโยคเหตุการณ์ในอดีต แต่เป็นเรื่องแสดงความปราถนาหรือสมมติในอนาคต และมีอีกหลาย form ที่กริยาเปลี่ยนที่ไม่เกี่ยวกับ auxillary verb และ tense เช่น I wish I be at BKK next month.

เนื่องจากประโยคนี้คาดเดาความหมายได้ จึงเดา syntax ของภาษาอังกฤษได้ (ไม่กล้ายกตัวอย่างที่ยากเกินไป การ synthesis นี้เป็นการใช้ syntax ของอังกฤษที่เป็น complexity ที่ยากๆ เช่น

Getting to land from the ferries was not easy as he first thought  as well as the boys gained difficulty in unloading the foods and drinks; they spread out in all direction.

แต่ก็อาจไม่ยากสำหรับคุณวีร์แต่คนทั่วไป ก็ลำบากเอาการเหมือนกัน

language divergence ถ้าแปลตามศัพท์ไม่น่าจะใช่

เพราะ divergence คือสิ่งที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่เหมือนกัน เช่น ภาษาไทยกับจีน เหมือนกันตรงที่มี วรรณยุกต์แต่ต่างกันตรง การขยายคำนามที่จีนวางไว้ข้างหน้าไทยวางไว้ข้างหลัง ( คำตอบนี้อาจจะผิดเพราะ assume เอา )

complexity คือความการเขียนภาษาให้ใช้หลักไวยกรณ์ให้ประโยคมีความซับซ้อนขึ้น

การวิเคราะห์ประโยคมีความสำคัญมากโดยเฉพาะระดับสูง เราไม่ได้อยู่ในบริบทเหมือนฝรั่งที่ทุกวันเห็นได้ใช้ตลอด ทำอย่างไรล่ะนอกจากอธิบายมันออกมาให้มีเหตุผลกฎเกณฑ์ก็จะเข้าใจ แต่ไม่มีใครสอนหรอกครับ มีแต่หลักสูตรสมัยก่อน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท