เงิน ซื้อบ้านได้ แต่ซื้อความอบอุ่นไม่ได้
เงิน ซื้อเตียงได้ แต่ซื้อการนอนหลับไม่ได้
เงิน ซื้อยาได้ แต่ซื้อสุขภาพไม่ได้
เงิน ซื้อหนังสือได้ แต่ซื้อความรู้ไม่ได้
เงิน ซื้อตำแหน่งได้ แต่ซื้อความนับถือไม่ได้
เงิน ซื้อ SEX ได้ แต่ซื้อความรักไม่ได้
เงิน ซื้อกระดาษปากกาได้ แต่ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงิน ซื้ออาหารดีๆ ได้ แต่ซื้อความอยากรับทานไม่ได้
เงิน ซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงิน ซื้อการตามใจได้ แต่ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้
เงิน ซื้อเพชรนิลจินดาได้ แต่ซื้อความงามไม่ได้
เงิน ซื้อความสนุกชั่วครู่ได้ แต่ซื้อความสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเพื่อนร่วมเดินทางได้ แต่ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้
เงิน ซื้ออำนาจราชศักดิ์ได้ แต่ซื้อปัญญาไม่ได้
เงิน ซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ได้ แต่ซื้อสันติสุขไม่ได้
เงิน ซื้อเมียที่สวยได้ แต่ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้
-----------------------------------------------------------
ขออภัย : ไม่ทราบที่มา
เกริ่นเรื่องเงิน ที่เป็นปัญหาในการใช้ทุกวันนี้
มีเงินใช่ว่าจะซื้อสิ่งที่คุ้มค่าได้ ยกตัวอย่างใกล้ๆ ตัว
เจ้าเครื่อง
ds106e อยากได้ ds106 แต่หาไม่ได้ในบ้านเรา(เมืองไทย)
ต้องสั่งเข้ามา เหมือน
notebook ในฝัน พอดีมีเพื่อนสนิทคนนึงสั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ PC (งบ 5หมื่นบาท)
จากน้องชาย ปัญหา คือ อยากได้ของคุณภาพจากคนรู้จัก
แต่อย่างว่าจะหาคนที่ใส่ใจ เข้าใจสิ่งที่เราต้องการจริงๆ
นั้นยากกลายเป็นว่าเสียชื่อทั้งพี่ทั้งน้อง (น้องเป็นพนักงานอยู่ที่ร้าน แผนกซ่อม)
อยากให้เข้าใจกันทุกฝ่ายไม่ได้จะว่าใครผิด
เจ้าของร้านสั่งของมาก็ไม่ใช่ spec เหมาะสมกับราคา
อ้างเหตุผลว่าของแรงๆเล่นรวมกันกลัวจะมีปัญหา จริงๆ เพื่อนกับเราคิดเหมือนกัน
คือ ราคาประมาณนี้น่าจะได้ของที่ดีมีคุณภาพ หรือถ้าของแรงๆ รวมกันแล้วไม่ดีจริง
ก็น่าจะลองซะให้รู้จริงว่ามันมีปัญหายังไงก็อธิบายมา ลองคิดเล่นๆ ดูถ้าเงินขนาดนี้
(ครึ่งหนึ่งของเงินดาวน์รถคันนึง) ซื้อคอมพิวเตอร์คุณภาพสักเครื่องยังไม่ได้
แล้วต้องสักเท่าไหร่ ของที่อยากได้ไม่มีคนเอามาขาย ที่ขายอยู่ก็ของพื้นๆ
(คือคุณภาพต่ำกว่าที่ต้องการ ถ้าสั่งของเองได้คงไม่ง้อร้านแล้ว)
คิดแล้วกลุ้มแทนทั้งเพื่อนทั้งน้อง กะอยู่ว่าน่าไปเปิดร้านซะเอง
ถ้ามีทุนนักธุรกิจมักจะกลัวการลงทุนที่ไม่อาจประเมินผู้บริโภคได้
คือไม่กล้าขายของมีคุณภาพเพราะกลัวแพงกว่าตลาดทำให้กำไรน้อย
แล้วก็ผู้บริโภคไม่เข้าใจ เห็นว่าราคาสูง ก็ไม่สนใจไม่ซื้อ ซื้อแต่ที่ราคาถูก
แต่ถ้าเราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกเกรดน่าจะดี
บ้านอื่นเมืองอื่นเค้านอกจากขายของแล้ว เค้าขายคุณภาพด้วย คือเงินไม่ใช่ปัญหา
แต่ไม่ใช่หลอกลูกค้า สิ่งที่เสียไปกับสิ่งที่ได้มาในความคุ้มค่ามันสมน้ำสมเนื้อกัน
อย่างว่าจะหาคุณภาพจากบ้านเราคงลำบาก หวังว่าจะมีร้านในฝันสักร้าน
ที่คิดเรื่องลูกค้า(เหมือนเพื่อน) ก่อนนึกถึงธุรกิจ แต่คงยาก 20 ปีมา
แล้วยังไม่เจอร้านอย่างว่านี้
เล่ามาซะยาวเหมือนน้อยใจแต่ก็จริง เพราะลองไปเดินพันธ์ทิพย์หรือที่ไหนก็ได้
ที่ขายเทคโนโลยีที่คิดว่าทันสมัย โดยถ้าคุณศึกษามากกว่าในหนังสือ
คือหาข้อมูลทาง internet และผู้ที่ได้ใช้จริงแล้ว จะทำให้คุณทราบว่าเทคโนโลยีดีๆ
อีกหลายอย่างที่คุณไม่มีโอกาสใช้ทั้งที่อาจราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่า แต่ไม่มีใครขาย
ไม่มีประกัน เสียภาษีนำเข้าแพง เท่ากับคุณต้องรอให้ของตกรุ่น(จากต่างประเทศ
หรือเป็นที่ติดตลาดจริงๆ คือราคาถูกขายแล้วได้กำไร จึงจะมีของมาขาย)
ซึ่งก็ไม่ใช่ของเกรด A อย่างมากก็ เกรด B
เงินที่คุณทุ่มกับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้แตกต่างกับคุณภาพของของที่ต่ำลงมาอีกเกรดนึง
(หมายถึงระดับของคุณภาพที่คุณแลกมานั้นแทบไม่ต่าง เกือบจะเป็นกำไรของผู้นำเข้าเกินกว่า 100%)
ลองคิดเล่นๆ